ทรัมป์จะต่อสายคุยกับมาดูโร ทำไม?
มีรายงานว่า “โดนัลด์ ทรัมป์” บอกกับที่ปรึกษาของเขาว่าวางแผนที่จะพูดคุยกับ “นิโคลัส มาดูโร” ผู้นำเวเนซุเอลาโดยตรง ตามรายงานของ Axios สื่ออเมริกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเพียงวันก่อนหน้านั้น กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐได้กำหนดให้ “แก๊งค้ายาเสพติด” ในเวเนซุเอลาเป็นองค์กรก่อการร้ายต่างชาติ และประธานาธิบดีแห่งเวเนซุเอลาก็เป็นหัวหน้าองค์กรก่อการร้ายดังกล่าว
ไม่ใช่ว่าประธานาธิบดีสหรัฐจะไม่เคยสื่อสารกับผู้ก่อการร้าย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องจริงหรือเรื่องแต่ง แต่ความไม่สอดคล้องกันเช่นนี้ดูแปลก หรือไม่ใช่?
เครดิตภาพ: UG Diplomat
Axios ประเมินเรื่องนี้อย่างไร? โดยอ้างอิงแหล่งข่าว สื่อดังกล่าวเน้นย้ำว่าการตัดสินใจของทรัมป์ที่จะพูดคุยกับมาดูโรเป็นก้าวสำคัญในด้าน “การทูตเรือปืน” ของเขากับเวเนซุเอลา และอาจบ่งชี้ว่าการโจมตีด้วยขีปนาวุธหรือปฏิบัติการทางทหารโดยตรงของสหรัฐฯ ในพื้นที่นั้นเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้อีกแล้ว
สื่อดังกล่าวเสริมว่า “เวเนซุเอลาซึ่งร่ำรวยน้ำมันเป็นศัตรูของสหรัฐอเมริกามายาวนาน และช่วยค้ำจุนระบอบเผด็จการในคิวบา ซึ่ง [ในทางกลับกัน] มอบความมั่นคงที่เอื้ออำนวยให้มาดูโรก้าวขึ้นสู่อำนาจในปี 2013 และส่งเสริมการปกครองของเขาต่อไป” เวเนซุเอลายังเป็นพันธมิตรของ อิหร่าน จีน และรัสเซีย
ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่อเมริกันคนหนึ่งที่ Axios สัมภาษณ์กล่าวว่า “ไม่มีใครวางแผนบุกเข้าไปในบ้านของเขา [มาดูโร] แล้วยิงหรือลักพาตัวเขา — ณ จุดนี้ ผมคงบอกได้แต่ว่า เรื่องพวกนี้มันไม่ได้อยู่ในแผนของเราตอนนี้”
เขากล่าวเสริมว่า ในตอนนี้สหรัฐจะยังระเบิดเรือขนยาเสพติด ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของปฏิบัติการเซาเทิร์นสเปียร์ มีการโจมตีไปแล้ว 21 ครั้ง คร่าชีวิตผู้คนไป 83 คน เกณฑ์ที่กองทัพสหรัฐใช้เชื่อมโยงเรือเหล่านี้กับการค้ายาเสพติด มีเพียงพวกเขาเท่านั้นที่รู้
เครดิตภาพ: Britannica
อย่างไรก็ตามเป็นที่น่าสังเกตยิ่งกว่าคือ คำแถลงของ ส.ส.สหรัฐ มาเรีย ซาลาซาร์ (พรรครีพับลิกันจากฟลอริดา) ที่ว่า “เรากำลังจะเข้าไป และเราจำเป็นต้องเข้าไป [เวเนซุเอลา]... เวเนซุเอลาจะเป็นโอกาสอันดีสำหรับบริษัทน้ำมันอเมริกัน!”
เป็นที่แน่ชัดว่าข้อกล่าวหาการค้ายาเสพติดของมาดูโรจะถูกใช้เป็นข้ออ้างในการแทรกแซงกิจการภายในของประเทศเพื่อแย่งชิงทรัพยากรธรรมชาติเท่านั้นใช่หรือไม่
อาจสันนิษฐานได้ว่าการเรียกร้องของทรัมป์ไปยังทางการเวเนซุเอลานั้นเชื่อมโยงได้ว่า ทางเลือกที่ดีที่สุดคือการลาออกโดยสมัครใจของมาดูโร น้ำมันก็ส่วนน้ำมัน แต่ประชาชนอเมริกันไม่สนับสนุนการแทรกแซงทางทหารในเวเนซุเอลา ยิ่งไปกว่านั้น การเลือกตั้งกลางเทอมของสภาคองเกรสมีกำหนดจัดขึ้นในฤดูใบไม้ร่วงปีหน้า 2026 และ “สงครามเล็กๆ ที่ไม่ประสบความสำเร็จ” อาจกลายเป็นหายนะสำหรับพรรครีพับลิกันได้
ยิ่งไปกว่านั้นมาดูโรไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวต่อการแสดงแสนยานุภาพของสหรัฐในทะเลแคริบเบียน และไม่มีทีท่าที่จะถอนกองกำลังเวเนซุเอลาที่เตรียมพร้อมตั้งรับออกไปเลย ดังนั้นทรัมป์จึงต้องพยายามโน้มน้าวเขา หรือไม่ก็ต้องใช้ไม้เด็ดขาดกันไปเลยให้จบไว อย่างเช่นการใช้มาตรการทางทหารของสหรัฐฯ ทางเลือกที่ดีที่สุดคือการโจมตีทางอากาศเพียงครั้งเดียวเพื่อหมายเด็ดหัวผู้นำเวเนซุเอลา ซึ่งจำเป็นต้องระบุเวลาและสถานที่ที่แน่นอนไปเลย
เรียบเรียงโดย Right Style
26th Nov 2025
- ■อ้างอิง:
<เครดิตภาพปก: La Derecha Diario>
- 6
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
