Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
เอาคนดังมานั่งเล่า
•
ติดตาม
29 พ.ย. เวลา 08:04 • ประวัติศาสตร์
เลฟ ยาชิน: ตำนาน "ไอ้แมงมุมดำ" ผู้คว้าบัลลงดอร์ด้วยมือเปล่า
ในโลกของฟุตบอล รางวัล "บัลลงดอร์" (Ballon d'Or) มักจะเป็นพื้นที่ของกองหน้าผู้ล่าตาข่าย หรือเพลย์เมกเกอร์ผู้ร่ายมนต์ในสนาม แต่ประวัติศาสตร์ฟุตบอลกว่า 60 ปี มีเพียงครั้งเดียวที่รางวัลอันทรงเกียรตินี้ตกเป็นของชายผู้ยืนอยู่หน้าปากประตู ชายผู้สวมชุดดำสนิทราวกับเงาปีศาจ... เลฟ ยาชิน (Lev Yashin)
นี่คือเรื่องราวของเด็กหนุ่มจากโรงงานเหล็ก ผู้เกือบจะเลิกเล่นฟุตบอล แต่กลับลุกขึ้นสู้จนกลายเป็นตำนาน
จุดเริ่มต้น: เหล็กกล้าที่ถูกตีด้วยไฟสงคราม
ยาชินเกิดในปี 1929 ที่มอสโก สหภาพโซเวียต ชีวิตวัยเด็กของเขาไม่ได้สวยหรู ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เขาต้องออกจากโรงเรียนตั้งแต่อายุ 12 ปีเพื่อไปทำงานในโรงงานผลิตอาวุธช่วยชาติ ความกดดันจากการทำงานหนักทำให้เขามีอาการเครียดจนเกือบเสียศูนย์ แต่ "กีฬา" คือสิ่งที่ช่วยเยียวยาจิตใจเขา
เขาเริ่มต้นจากการเป็นผู้รักษาประตูทีมโรงงาน แต่เชื่อหรือไม่ว่า การประเดิมสนามนัดแรกกับทีมใหญ่อย่าง ดินาโม มอสโก ในปี 1950 คือ "หายนะ" เขาเสียประตูจากการเตะเปิดเกมของ ผู้รักษาประตูฝ่ายตรงข้าม ความผิดพลาดนั้นทำให้เขาถูกดร็อปไปเป็นตัวสำรองนานถึง 3 ปี
ในช่วงเวลานั้น ยาชินท้อแท้จนเกือบจะหันหลังให้ฟุตบอลไปเอาดีทาง "ฮอกกี้น้ำแข็ง" (ซึ่งเขาเล่นได้เก่งมากจนได้แชมป์บอลถ้วย) แต่สุดท้าย เขาก็เลือกที่จะอดทนรอโอกาส และฝึกซ้อมให้หนักกว่าเดิมเพื่อแก้ไขข้อผิดพลาด
มรสุมชีวิต: วีรบุรุษผู้กลายเป็นแพะรับบาป
จุดที่ตกต่ำที่สุดในชีวิตของยาชิน ไม่ใช่ตอนที่เป็นตัวสำรอง แต่เกิดขึ้นหลังจากที่เขาดังแล้ว
ในฟุตบอลโลกปี 1962 ที่ชิลี สหภาพโซเวียตตกรอบ 8 ทีมสุดท้าย โดยพ่ายแพ้ให้กับเจ้าภาพ ยาชินถูกสื่อและแฟนบอลในบ้านเกิดตราหน้าว่าเป็น "ต้นเหตุของความพ่ายแพ้" (แม้ว่าความจริงเขาจะเล่นดี แต่ความผิดพลาดเพียงครั้งเดียวถูกขยายความจนใหญ่โต)
เมื่อกลับถึงมอสโก เขาไม่ได้เจอการต้อนรับที่อบอุ่น แต่เจอก้อนหินปาใส่หน้าต่างบ้าน รถยนต์ถูกพ่นสีด่าทอ และเสียงตะโกนไล่ให้เขา "เลิกเล่นไปซะ" แฟนบอลถือป้ายด่าเขาในสนาม
ยาชินในวัย 32 ปี จิตใจพังทลาย เขาหลบหนีความวุ่นวายไปใช้ชีวิตเงียบๆ ในชนบทเพื่อตกปลา และคิดอย่างจริงจังว่าจะแขวนถุงมือ
"ความสุขของการเห็นยูริ กาการิน บินสู่อวกาศ ยังเทียบไม่ได้กับความสุขจากการพุ่งรับจุดโทษได้สำเร็จ"
— เลฟ ยาชิน
ปี 1963: การกลับมาของราชสีห์ และรางวัลบัลลงดอร์
คำถามคือ คนที่ถูกคนทั้งประเทศเกลียดชัง จะกลับมายืนหยัดได้อย่างไร?
คำตอบของยาชินคือ "ความเงียบ และผลงาน"
เขาตัดสินใจกลับมาสู้ต่อ โดยเปลี่ยนความเจ็บปวดเป็นพลังในการฝึกซ้อม เขาปฏิวัติสไตล์การเล่นใหม่ ไม่ใช่แค่ยืนเฝ้าเสา แต่เขากลายเป็น "Sweeper-Keeper" (ผู้รักษาประตูตัวกวาด) คนแรกๆ ของโลก ที่กล้าออกมาตัดบอลนอกกรอบ สั่งการกองหลัง และขว้างบอลสวนกลับเร็วอย่างแม่นยำ
จุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้นในเดือนตุลาคม 1963 ในแมตช์พิเศษครบรอบ 100 ปี ฟุตบอลอังกฤษ ยาชินได้รับเชิญให้ลงเล่นทีม "รวมดาราโลก" (Rest of the World) พบกับ ทีมชาติอังกฤษ ที่สนามเวมบลีย์
วันนั้น ยาชินโชว์ฟอร์มระดับ "ปีศาจ" เขาบินปัดลูกยิงมหัศจรรย์ลูกแล้วลูกเล่า จนกองหน้าอังกฤษต้องส่ายหน้า ทั่วโลกตื่นตะลึงกับการยืนตำแหน่งและการสั่งการของเขาที่ดูราวกับแม่ทัพ
ฟอร์มการเล่นในปีนั้น ทำให้เขากลับมาเป็นฮีโร่ และสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการชนะคะแนนโหวต คว้า บัลลงดอร์ (Ballon d'Or) ปี 1963 มาครอง โดยเอาชนะตำนานอย่าง จานนี่ ริเวร่า และ จิมมี่ กรีฟส์
เขาพิสูจน์ให้เห็นว่า ไม่จำเป็นต้องเป็นคนยิงประตู ก็สามารถเป็น "ผู้เล่นที่ดีที่สุดในโลก" ได้
บทเรียนชีวิตจาก "ไอ้แมงมุมดำ"
เรื่องราวของ เลฟ ยาชิน ให้ข้อคิดที่ลึกซึ้งแก่เรามากกว่าแค่เรื่องฟุตบอล:
1. ความผิดพลาดคือครูที่ดีที่สุด: จากประตูตลกๆ ในนัดแรก สู่ผู้รักษาประตูที่ดีที่สุดในโลก ยาชินไม่เคยปล่อยให้ความผิดพลาดมาหยุดยั้งเขา แต่ใช้มันเป็นแรงผลักดัน
2. จิตใจที่แข็งแกร่ง (Mental Toughness): ในวันที่คนทั้งชาติหันหลังให้ เขาเลือกที่จะไม่หนีปัญหาตลอดไป แต่กลับมาพิสูจน์ตัวเองด้วยผลงาน การก้าวข้ามคำวิจารณ์คือคุณสมบัติของผู้ชนะ
3. การเป็นผู้บุกเบิก: ยาชินไม่ได้แค่เล่นตามตำรา แต่เขา เขียนตำราใหม่ การกล้าที่จะแตกต่าง (ออกมาตัดบอลนอกเขต) ทำให้เขากลายเป็นตำนาน
4. ความจงรักภักดี: ตลอดอาชีพการค้าแข้งกว่า 20 ปี เขาเล่นให้กับสโมสรเดียวคือ "ดินาโม มอสโก" แม้จะมีข้อเสนอมากมาย สิ่งนี้แสดงถึงความมั่นคงและความรักในองค์กรที่ให้โอกาสเขา
เลฟ ยาชิน เสียชีวิตในปี 1990 แต่ตำนานของเขายังคงอยู่ สถิติการเซฟจุดโทษกว่า 150 ลูก และการรักษาคลีนชีตกว่า 270 นัด เป็นเครื่องยืนยันฝีมือ แต่สิ่งที่ทำให้เขาเป็นอมตะ คือหัวใจที่ไม่ยอมแพ้
หากวันไหนที่คุณรู้สึกท้อแท้ รู้สึกว่าทำดีเท่าไหร่ก็ไม่มีใครเห็น หรือถูกเข้าใจผิด ให้ลองนึกถึงภาพชายชุดดำที่ยืนอยู่อย่างโดดเดี่ยวหน้าปากประตู ผู้เปลี่ยนเสียงโห่ไล่ ให้กลายเป็นเสียงปรบมือเกริกก้องโลก... เลฟ ยาชิน
เรื่องเล่า
ประวัติศาสตร์
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย