8 ธ.ค. เวลา 01:08 • อาหาร

รู้หรือไม่? ‘คาปิบาร่า’ เคยถูกจัดให้เป็น “ปลา” มาก่อน

“รู้ไหมว่าจริง ๆ แล้วคาปิบาร่าเป็น ‘ปลา’” เพื่อนของแอดมินพูดขึ้นมาในขณะที่แอดมินกำลังชื่นชมตุ๊กตาคาปิบาร่าตัวใหญ่ที่วางขายอยู่ในห้างสรรพสินค้า คำพูดดังกล่าวชวนให้รู้สึกเหวอด้วยความไม่เชื่อหูตัวเองที่ได้ยินดังนั้น สัตว์ฟันแทะสีน้ำตาลสุดน่ารักที่เป็นไวรัลบนโลกออนไลน์ทำไมถึงเป็น “ปลา” ไม่ใช่หนูหรือหมามะพร้าว เรื่องราวมันเป็นอย่างไร?
ในโพสต์นี้จึงจะขอเอาเรื่องราวของปลาสายพันธุ์มีขานี้มาเล่าสู่กันอ่าน
“แอดมิน ทำเพจประวัติศาสตร์อาหาร ทำไมเอาเรื่องราวของสัตว์มาเขียนล่ะ” ลูกเพจบางท่านอาจสงสัย อันที่จริงแล้วสาเหตุที่คาปิบาร่าเป็น “ปลา” นั้นก็มีความเกี่ยวข้องกับการบริโภคเนื้อคาปิบาร่าในแถบอเมริกาใต้
ฉะนั้นแล้วจะบอกว่าโพสต์นี้เป็นประวัติศาสตร์อาหารก็คงไม่ผิดนัก เพราะก็ยังมีการบริโภคเนื้อคาปิบาร่ากันอยู่จริง ๆ
ย้อนกลับไปเมื่อราวสักศตวรรษที่ 16-18 หลังจากที่เวเนซุเอลาที่ถูกพิชิตโดยกองกิสตาดอร์นามอาลอนโซ เด โอเฆดา และผนวกเข้าเป็นหนึ่งในอาณานิคมของสเปน ก็ได้มีคนจากสเปนย้ายมาตั้งรกราก รวมถึงบาทหลวงที่เดินทางมาเผยแพร่ศาสนา ความแตกต่างของถิ่นที่อยู่
พวกเขาได้เห็นความหลากหลายทางชีวภาพที่ไม่เคยเห็น ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือสัตว์ฟันแทะมีสี่ขาที่ชอบแช่น้ำ อยู่มาวันหนึ่งมีบาทหลวงในเวเนซุเอลาตัดสินใจที่จะส่งจดหมายไปสอบถามยังวาติกันเกี่ยวกับเทศกาลการถืออดเนื้อในช่วงมหาพรต
อย่างที่เราทราบกัน ในศาสนาคริสต์เองก็มีการถืออดเหมือนกันในช่วงเทศกาลมหาพรต อาจจะมีการกินบ้างโดยถือเป็นการอดเนื้อแทน ซึ่งพวกสัตว์สี่เท้าสองเท้าเป็นเนื้อต้องห้ามที่ไม่ให้กินในวันที่มีการอดเนื้อ (เช่นวันศุกร์) แต่ใด ๆ ก็ตาม “ปลา” หรือสัตว์น้ำ เป็นสิ่งที่อนุญาตให้กินในช่วงถืออดได้ ซึ่งจดหมายที่ถูกส่งตรงมายังวาติกันจากเวเนซุเอลานี้ก็ได้ถามถึงสัตว์ชนิดนี้ว่า “มันกินได้ไหมนะ” โดยอธิบายมาว่าเจ้าสัตว์ตัวนี้มัน “ว่ายน้ำได้, เท้าคล้ายพังพืด, และเนื้อรสชาติเหมือนปลา”
ทางฝั่งวาติกัน แน่นอนว่าไม่เคยรู้ว่าก่อนว่าเจ้าสิ่งมีชีวิตนี้มันมีหน้าตาเป็นอย่างไร ทราบเพียงแค่ว่ามันว่ายน้ำได้แถมรสชาติเหมือนปลาก็เลยตีความว่าเจ้าสิ่งชีวิตนี้มันเป็น "สัตว์น้ำ" แน่นอนอย่างไม่ต้องสงสัย จึงอนุญาตให้สามารถกินเจ้าสิ่งมีชีวิตนี้ได้ในช่วงมหาพรต
โดยมีประกาศอย่างเป็นทางการว่าสามารถกินเจ้าสิ่งนี้ราวปี 1784 และแน่นอนว่าความต้องการเนื้อคาปิบาร่าก็พุ่งสูงขึ้น เกิดการล่าเป็นอาหาร ซึ่งทำให้ในปัจจุบันนี้รัฐบาลในหลายประเทศได้ออกข้อบัญญัติทางกฏหมายมาช่วยกอบกู้ประชากรคาปิบาร่าเอาไว้ได้
#จานโปรด #คาปิบาร่า
โฆษณา