3 ธ.ค. เวลา 04:05 • ปรัชญา
ประเทศไทย

ธรรมะย่อมชนะอธรรม : Dharma always triumphs over evil.

ความจริง หรือ เพียงความเชื่อของมนุษย์ที่อยากให้โลกมีความเที่ยง

มนุษย์เติบโตมากับประโยคที่ว่า
“ธรรมะย่อมชนะอธรรม”
ราวกับว่า มันเป็นกฎตายตัวของโลกใบนี้
แต่พอเราโตขึ้น โลกก็ค่อย ๆ เผยด้านจริงให้เห็นว่า
ความดีไม่ได้ชนะเสมอไป และคนเลวก็ไม่ได้แพ้ตั้งแต่ต้น
ในประวัติศาสตร์ของมนุษย์ ไม่มีประโยคใดให้ถูกท่องซ้ำๆ มากเท่ากับคำว่า
“ธรรมะย่อมชนะอธรรม”
แต่ยิ่งมนุษย์เผชิญกับโลกมากเท่าไร คำนี้กลับยิ่งสั่นคลอนลงเรื่อยๆ
จุดนี้เองที่ทำให้คำถามเล็ก ๆ กลายเป็นคำถามใหญ่ของมนุษย์ทุกยุค
นี่คือ ความจริง หรือเพียง ความเชื่อ ที่เรานั่นได้ปรุงแต่งขึ้นเพื่ออยู่รอดในโลกที่ไม่มีคำอธิบาย?

“ความจริง” คือสิ่งที่มันเป็นอยู่ ไม่ว่าจะชอบหรือไม่
โลกไม่ได้มีกฎศักดิ์สิทธิ์รับรองว่าคนดีจะได้ดี
ไม่ได้มีระบบลับที่คอยบันทึกและตัดสินกรรมให้สมดุล
แต่ “ความเชื่อ” ต่างหาก ที่ต่างออกไป
มันคือพื้นที่ที่มนุษย์สร้างขึ้นเพื่อให้ตัวตนได้มีที่ยืนอยู่
เพื่อให้ความดีที่เรายึดถือ ไม่ไร้ค่า
เพื่อให้ความเหนื่อยล้า ไม่ให้สูญเปล่า
ปรัชญาของ Camus เคยบอกไว้ว่า
โลกนี้ไม่มีกฎศีลธรรมที่ถูกฝังลงในผืนดิน
ไม่มีอำนาจลึกลับคอยจัดการให้ทุกอย่างลงเอยอย่างยุติธรรม
มนุษย์จึงต้องเลือกว่า จะยอมรับ “โลกตามจริง”
หรือจะสร้างความหมายให้ตัวเองให้อยู่ท่ามกลางความว่างเปล่านั้น
ดังนั้นคำว่า
“ธรรมะย่อมชนะอธรรม”
จึงไม่ใช่ “ความจริงสากล” แต่มันคือ คำสัญญา ที่มนุษย์ได้ให้ไว้กับตัวเอง
ว่าเราจะยังคงเลือกยืนข้างความดี แม้โลกจะไม่ให้รางวัลใดตอบแทน
เพราะสุดท้าย เราไม่ได้ทำดีเพื่อเอาชนะความชั่วในจิตใจ
แต่ทำดีเพราะมันทำให้เรารู้ว่า
เรายัง ไม่สูญเสียความเป็นมนุษย์
ธรรมะอาจจะไม่ชนะเสมอไป แต่อธรรมก็ไม่มีวันชนะหัวใจที่ไม่เคยยอมแพ้ด้วยเหมือนกัน
Rawroot.
หากโลกนี้ไม่มีความยุติธรรม ก็ยิ่งมีเหตุผลให้เราต้องยืนอยู่ข้างความดีอย่างดื้อดึง
“ความศรัทธาไม่ใช่เครื่องการันตีชัยชนะ แต่เป็นพลังที่ทำให้เรายืนหยัดได้จนถึงวันสุดท้าย”
#ธรรมะ #ชัยชนะ #อธรรม #พัฒนาตัวเอง #ความยุติธรรม #การต่อสู้ #ชีวิตดีๆที่เลือกได้ #โลกที่ไม่มีความยุติธรรม #life #glod
โฆษณา