เสี่ยปูไม่เอา …ตามคาด
ก็ไม่ผิดจากที่คาดอะไรไว้นัก กับข้อเสนอยุติสงครามยูเครน
ที่รัสเซียไม่ยอมรับ
แม้ทรัมป์จะถูกวิจารณ์มาก ว่าข้อเสนอล่าสุดเอื้อรัสเซีย
แต่ถึงแบบนั้น ก็เหมือนจะรู้กันอยู่แล้ว ว่าไงรัสเซียก็ไม่เอา
เคยเขียนไปแล้วแหละ ว่าไงรัสเซียก็ไม่เอา
ต้วยเหตุผลหลายอย่าง
…แต่รอบนี้เสี่ยปูออกตัวแรง ไปท้าตีท้าต่อยกับยุโรป
อีกต่างหาก มันก็เลยยิ่งชัดเจน ว่าไม่ว่าจะเสนออย่างไร
รัสเซียก็คงไม่เอาอีกแล้ว…..
….เพราะจริงๆ ไอ้ 28 ข้อนี่ก็คือสหรัฐถอยให้รัสเซียสุดทางแล้ว
มันคงมากกว่านี้ไปไม่ไดัอีกแล้วล่ะนะ….
…ก็ฟาดกันต่อไป จนหมดแรงไปข้างนึงนั่นแหละ….
ถ้าให้เดาใจทรัมป์และรัฐบาลสหรัฐ
มองว่าพวกเขาน่าจะรู้ตั้งแต่แรกแล้วเหมือนกันนั่นแหละ
ว่าเสนออะไรไปรัสเซียก็คงปฏิเสธ
ก็เลยกล้าทำข้อเสนอลักษณะถอยสุดซอยแบบนี้ออกมา
ซึ่งเหตุผลก็คงไม่มีอะไรมากไปกว่า การเล่นการเมือง
ทั้งในและนอกบ้านของรีพับลิกันเอง
เพราะทรัมป์เคยโม้ไว้ ว่าจะหยุดสงครามนี้ใน 24 ชั่วโมง
แต่นี่ก็ผ่านมาปีนึงแล้ว แต่ไม่มีอะไรคืบหน้า
ประมาณว่า สหรัฐเสนอเพื่อให้คนอเมริกันและโลกเห็น
ว่าฉันทำแล้วนะ ข้อเสนอก็ยอมๆอ่อนลงแล้ว
….แต่เมื่อรัสเซียไม่รับเอง มันก็จะโทษเขาไม่ได้….
…มันก็แค่นั้นเอง สำหรับทรัมป์…..
ทีนี้ถ้ามองที่ปูติน ก็ชัดเจนเช่นกันว่าเขาหยุดไม่ได้เข่นกัน
เหตุผลสำคัญที่สุดของปูติน ก็น่าจะเป็นเรื่องการเมืองภายใน
ของรัสเซียเองนั่นแหละ มากกว่าอย่างอื่น
เขียนมาเสมอ ว่าสงครามที่เป็นอยู่เนี่ย
แม้แต่ฝ่ายขวา ชาว Z ในรัสเซียเอง ก็ด่ากองทัพ
และฝ่ายยุทธการในสงครามยับเยิน
ว่าไร้ความสามารถ ไม่สมราคาคุย
และคนกลุ่มนี้แหละ ที่เป็นผู้สนับสนุนหลักของปูติน
ซึ่งเสี่ยปู จะน้อยจะมากยังไง ก็ต้องเอาคนกลุ่มนี้ไว้
อย่าเห็นว่าปูตินอำนาจล้นฟ้าในรัสเซีย แล้วจะไม่ต้องแคร์
ชาวบ้านนะ ยังไงเขาก็ต้องการการสนับสนุน ไม่งั้นก็อยู่ยาก
โดยเฉพาะกับ oligarchs ฝ่ายขวา ที่เป็นกระเป๋าตังของรัฐบาล
ในตอนนี้ หากพวกนี้ไม่พอใจ ปูตินไปต่อยาก
จะควบคุมประเทศด้วยกำปั้นเหล็กอย่างเดียวมันไม่ได้
…คือ รัสเซียตอนนี้เนี่ย พวกเขาต้องพึ่งเงินชาวบ้านทำสงคราม
ค่อนข้างเยอะ เนื่องจากไม่ต้องการซ้ำเติมเงินเฟ้อด้วยการพิมพ์
แบงค์เพิ่มเข้ามาในระบบ ..
…ก็เลยใช้วิธีซับระบบ ทั้งขายทอง ทั้งดึงเงินฝากด้วยดอกเบี้ย
สูงๆ ให้คนรัสเซียเอง ซึ่งไอ้ที่มีเงินที่สุดก็คือ oligarch นี่แหละ
…เลยเป็นว่า หากพวกนี้เกิดไม่โอเคกับปูติน หอบเงินทอง
หนีไปต่างประเทศ แทนที่จะลงทุนกับรัฐบาล รัสเซียก็จะย่ำแย่
มากกว่าที่เป็นอยู่อีกมาก…
…นี่ก็คือเหตุผลทางการเมืองของปูตินเอง ที่หยุดไม่ได้….
ปัญหาในรัสเซียเองนั้น เป็นส่วนหลักเลย
ที่ทำให้ไม่ว่าจะเสนออะไรไป รัสเซียก็คงไม่ยอมรับ
ในแง่สงคราม ชาวบ้านฝ่ายขวาในรัสเซียที่เชื่อรัฐบาลมานาน
ซึมซับกับ propaganda ความยิ่งใหญ่เกรียงไกรของกองทัพ
พวกเขาเขื่อสนิทใจว่ายูเครนไม่ใช่ปัญหา
หรือเชื่อด้วยซ้ำ ว่าต่อให้รบกับนาโต้ รัสเซียก็ชนะได้สบาย
รัสเซียทำสงครามข่าวสาร โฆษณาชวนเชื่อในระดับนี้มาตลอด
ซึ่งเราก็เห็นๆกัน ทั้งข่าวโดยตรงจากรัสเซีย และที่คนไทยเอามา
แปลกันมากมาย
แต่เมื่อในความเป็นจริง มันไม่ใช่แบบนั้น
ปูตินจึงต้องทำอะไรที่ให้มันสำเร็จให้ได้สักอย่าง
อย่างน้อย ต้องยึดยูเครนทั้งหมด มาเป็นรัฐบริวารให้ได้
ถึงจะเรียกศรัทธากลับมาได้บ้าง ไม่ใช่แค่บางส่วน
ตามที่สหรัฐเสนอ
ซึ่งข้อเสนอการยกยูเครนให้ทั้งประเทศคงเป็นไปไม่ได้
เมื่อสถานการณ์มาจนถึงจุดนี้แล้ว
ทางเดียวที่ปูตินทำได้ก็คือ ใช้กำลังต่อไป อย่างไม่รู้จุดจบ
การยึดโปรคอฟได้ กลายมาเป็นประเด็น โฆษณาชวนเชื่อ
แต่นั่นก็ดูไม่เพียงพอนัก ที่ฝ่ายขวาจะพอใจ
เนื่องจากลงทุน และสูญเสียมาก กว่าจะได้มา
ฝ่ายขวารัสเซียเอง ส่วนมากก็ตามข่าวสงคราม
อย่างใกล้ชิด พวกเขารู้ดี ว่าเสียหายอะไรขนาดไหน
ก็ไม่ต่างจากตอนทำศึกยึดบักห์มุต เมื่อปีก่อนหรอก
กว่าจะยึดได้ตายบาน กองเชียร์ชาวรัสเซียเองไม่ได้ประทับใจ
อะไรนัก กับชัยชนะลักษณะนี้ ด่าด้วยซ้ำไป
…คือ ฝ่ายขวารัสเซียเนี่ย ก็มองกองทัพตัวเอง เหมือนคนไทย
มองว่าถ้าเรารบกับเขมร สามวันก็ควรถึงพนมเปญ อะไรลักษณะนั้น พวกเขามองว่ามันควรจะง่าย ไม่เสียหายมาก
ไม่ใช่ต้องทำสงครามยืดเยื้อแบบที่เป็นอยู่….
…แต่เมื่อความจริงที่พวกเขาเห็น การสูญเสียเพื่อนฝูงไปมากมายที่สัมผัสได้กับตัวเอง เนื่องจากพวกนี้จำนวนมาก ก็สมัครเป็นทหารไปแนวหน้าด้วยความฮึกเหิมสุดๆพวกเขาก็ย่อมไม่พอใจเป็นธรรมดา…
ปูตินเองก็รู้ จึงต้องเล่นใหญ่ขึ้น ด้วยการท้ารบกับยุโรปซะเลย
…เอาจริงๆ คงไม่กล้าหรอก รัสเซียนาทีนี้ไม่พร้อมขนาดนั้น…
…มันจึงเป็นแค่วาทะกรรม เล่นการเมืองไปเรื่อย เท่านั้นเอง…
อีกอย่าง ก็คือเรื่องเศรษฐกิจ
ปูติน จำเป็นมาก ที่จะต้องสร้างสตอรี่ด้านความมั่นคง
มาเพื่อความชอบธรรมในการบริหารต่อไป
คือ เขาจำเป็น ที่จะต้องบอกชาวบ้านว่า
ที่เศรษฐกิจมันเน่าเนี่ย มันเพราะนาโต้
ไม่ใช่ความผิดพลาดจากการตัดสินใจของตัวเอง
ที่ดันไปเปิดฉากสงครามจนโดนแบน
รัสเซียมีแผนจะขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มในต้นปีหน้า เป็น 22%
เมื่อประกอบกับดอกเบี้ยเงินกู้ที่สูงปรี้ดอยู่แล้ว
ก็เดาได้เลยว่า ต้นปีหน้า รัสเซียจะมีอัตราเงินเฟ้อ
ที่จะยิ่งพุ่งสูงขึ้นไปอีกมากพอสมควร
(เนื่องจาก มีผลต่อต้นทุนธุรกิจ)
หากไม่ทำสงครามต่อ ปูตินจะไม่มีความชอบธรรมใด
ที่จะทำให้เขาเล่นนโยบายขูดรีดประชาชนในลักษณะนี้ได้
จะไม่ทำนโยบายการเงินลักษณะนี้ ก็ไม่ได้อีก
เพราะตอนนี้เศรษฐกิจรัสเซีย มันหนักหนามากแล้วจริงๆ
จากตัวเลขไตรมาสล่าสุด พวกเขาเติบโตแค่ 0.6%เมื่อทียบ
แบบ ปีต่อปี (ตัวเลขจากCBRเองนั่นแหละ)
ตัวเลขลักษณะนี้ เมื่อดูเงินเฟ้อ 8% ประกอบเข้าไปด้วย
ก็จะยิ่งชัดเจน ว่านี่มันระดับหายนะทางเศรษฐกิจแล้ว
เขาจึงจำเป็นต้องไปรีดเอากับชาวบ้าน
ไม่ใช่แค่เพื่อทำสงคราม แต่เพื่อเศรษฐกิจทั้งระบบ
สงคราม จึงเป็นเพียงข้ออ้างเดียว ที่จะสร้างความชอบธรรม
ที่ปูตินมีตอนนี้ ในการจะไปรีดเงินชาวบ้าน ซึ่งก็แย่อยู่แล้ว
…ก็เพราะงี้ แล้วปูตินจะหยุดได้อย่างไร….
สงครามบนโลกนี้ เริ่มแล้วเลิกยากทั้งนั้นแหละ
ต่อให้มีกำลังรบเหนือกว่าแค่ไหนก็ตาม
ที่จริง มันบ่อยครั้งด้วยซ้ำไป ที่ฝ่ายรุกที่ดูกำลังรบเหนือกว่ามาก
กลับพาตัวเองไปติดหล่ม จนกระทบกับเศรษฐกิจ การเมือง
ในบ้านตัวเอง
…ทั้งนั้นแหละ สหรัฐในเวียดนาม อัฟกานิสถาน
โซเวียตในอัฟกานิสถาน หรือกระทั่งอิสราเอลกับฮามาส….
การเมืองภายใน จึงเป็นสิ่งสำคัญมาก
ที่ผู้มีอำนาจในการเจรจา จะต้องนำมาประกอบเพื่อตัดสินใจ
ซึ่งก็แทบทั้งนั้นเหมือนกัน ผู้นำพวกนี้
คิดถึงเกมส์อำนาจทางการเมืองมากกว่าประเทศ
และสำหรับพันธมิตรตะวันตก
พวกเขาไม่ได้สนใจหรอกว่ายูเครนจะยังไง
เพราะเป้าหมายสูงสุด มันก็คือการทอนกำลังของรัสเซีย
ให้มากที่สุด เพื่อความปลอดภัยของตัวเอง
…ซึ่งตอนนี้ ต้องบอกว่า พวกเขาใกล้ทำสำเร็จแล้ว….
ปัจจุบันทั้งในแง่แสนยานุภาพ และเศรษฐกิจที่เป็นสิ่งบ่งชี้
ศักยภาพของรัสเซียในภาพรวม มันไม่อยู่ในจุดที่ยุโรปจะต้อง
กังวลอะไรเหมือนเดิมมากนักอืกแล้ว…
…ใช่ รัสเซียอาจมีจรวด ขีปนาวุธอะไรมากมายที่โจมตียุโรปได้
…แต่ก็นั่นแหละ ทางตะวันตกเขาก็มีสวนเจ็บๆได้เหมือนกัน
ซึ่งรัสเซียเองไม่พร้อมจะรับมือได้เหมือนกัน ดังนั้นการโจมตี
จากรัสเซียก่อน จึงเป็นไปได้ยากมาก….
เพราะงั้น ไอ้ที่ทำๆกันอยู่ทั้งสองฝ่าย มันก็แค่สงครามน้ำลาย
แต่สงครามจริงๆ ก็จะดำเนินต่อไป….อย่างไร้จุดจบ
…โดยคนที่ได้ประโยชน์ทั้งจากการขายอาวุธ
และคนที่จะได้ซื้อทรัพยากร พลังงานราคาถูก รับเละ…
…ก็จะใครล่ะ สหรัฐกับจีนนั่นแหละ รับมากกว่าเพื่อน…
…ดังนั้น ไอ้ที่สหรัฐเสนอ มันจึงไม่มีอะไรเลยที่จะเป็นสาระ…
…ก็แค่กระดาษเปื้อนหมึกเท่านั้นแหละ…
…จริงๆ ไม่เห็นต้องบินไปประชุมกันให้เปลืองด้วยซ้ำ….
…เสียเวลาเปล่าๆ….
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
