6 ธ.ค. เวลา 09:12 • ข่าวรอบโลก

สัตว์ป่ารอบ "เชอร์โนบิล" ค่อยๆเปลี่ยนไปตลอดกาล

หลังจากเหตุการณ์ภัยพิบัติปี 1986 ที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิล พื้นที่นี้กลายเป็นพื้นที่ที่มีการปนเปื้อนกัมมันตรังสีสูงที่สุดในโลก มีการปนเปื้อนของสารกัมมันตรังสีหลายชนิด เช่น Cs-137, Sr-90, Am-241 และ Pu-239 แม้ว่าการได้รับรังสีในระยะเริ่มแรกจะก่อให้เกิดอันตรายทางนิเวศวิทยาและชีววิทยาอย่างมาก โดยกัมมันตรังสีจะคงอยู่ในบริเวณนี้ต่อไปอีกอย่างน้อย 20,000 ปี
1
อย่างไรก็ตาม จากการศึกษาใหม่ๆ พบว่า กบในเขตกันชนเชอร์โนบิล โดยเฉพาะกบต้นไม้ตะวันออก (Hyla orientalis) ที่มีผิวสีเข้มกว่าปกติจนได้รับฉายาว่า "กบดำเชอร์โนบิล" เป็นตัวอย่างที่โดดเด่นของการปรับตัว การเพิ่มขึ้นของเมลานินในผิวหนังทำหน้าที่ดูดซับและกระจายพลังงานรังสี ให้การป้องกันเซลล์จากผลกระทบของรังสี การปรับตัวทางกายภาพภายนอกนี้ไม่เพียงช่วยให้กบเหล่านี้ลดอันตรายจากสิ่งแวดล้อม แต่ยังแสดงให้เห็นว่าวิวัฒนาการสามารถนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงลักษณะภายนอกที่สำคัญเพื่อตอบสนองต่อแรงกดดันทางนิเวศวิทยา
1
นอกจากกบแล้ว สิ่งมีชีวิตอื่นๆ ที่ได้รับรังสีพื้นหลังสูงเป็นเวลานานก็มีการพัฒนาลักษณะเมลานินที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน ตัวอย่างเช่น เชื้อราที่มีเมลานินถูกพบเจริญเติบโตในสิ่งแวดล้อมที่มีรังสีสูงบนผนังของเครื่องปฏิกรณ์เชอร์โนบิล เมลานินเป็นโมเลกุลที่มีควิโนนและเซมิควิโนน ซึ่งเป็นอนุมูลอิสระที่เสถียรและสามารถกำจัดออกซิเจนชนิดรีแอคทีฟได้ การวิเคราะห์ด้วยสเปกโทรสโคปีอิเล็กตรอนสปินเรโซแนนซ์พบว่าเมลานินมีการเปลี่ยนแปลงทางเคมีเมื่อมีปฏิสัมพันธ์กับรังสีไอออไนซ์
2
แนวคิดเรื่องการตอบสนองแบบปรับตัว (Adaptive Response) หมายถึงกระบวนการทางชีววิทยาที่เกิดขึ้นเมื่อสิ่งมีชีวิตได้รับรังสีไอออไนซ์หรือไม่ไอออไนซ์ในระดับต่ำ เรียกว่าปริมาณเบื้องต้น ในระหว่างกระบวนการนี้ สิ่งมีชีวิตจะเปิดใช้งานกลไกการป้องกันที่เพิ่มความสามารถในการซ่อมแซมความเสียหายของ DNA ลดการกลายพันธุ์ และทนต่อปริมาณรังสีที่สูงขึ้นในอนาคต งานวิจัยแสดงให้เห็นว่าตัวกระตุ้นทางกายภาพและเคมีต่างๆ สามารถกระตุ้นการตอบสนองแบบปรับตัวในสิ่งมีชีวิตหลากหลายชนิด ตั้งแต่แบคทีเรียไปจนถึงเซลล์มนุษย์
3
นอกจากนี้ยังมีการศึกษาในบริบทใกล้เคียงกัน คือที่รามซาร์ ประเทศอิหร่าน ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีรังสีธรรมชาติสูงเป็นพิเศษ แสดงให้เห็นว่าร่างกายมนุษย์สามารถปรับตัวทางชีววิทยาต่อรังสีพื้นหลังสูงที่สม่ำเสมอได้ การศึกษานี้ตีพิมพ์ใน Health Physics และได้รับการอ้างอิงมากกว่า 600 ครั้ง ในรามซาร์ ระดับการได้รับรังสีเฉลี่ยประมาณ 10 มิลลิซีเวิร์ตต่อปี แต่สามารถสูงถึง 260 มิลลิซีเวิร์ตในพื้นที่เฉพาะจุด
การศึกษาพบว่าผู้อยู่อาศัยไม่แสดงผลกระทบต่อสุขภาพที่คาดว่าจะเกี่ยวข้องกับระดับการได้รับรังสีดังกล่าว แต่กลับพบหักฐานของการปรับตัว โดยเซลล์ของผู้อยู่อาศัยแสดงสัญญาณของการเพิ่มขึ้นของกิจกรรมการซ่อมแซม DNA และความเสถียรของโครโมโซม สิ่งนี้บ่งชี้ว่ามีกลไกป้องกันที่พัฒนาขึ้นจากการได้รับรังสีเป็นเวลานาน
การศึกษาจากเขตกันชนเชอร์โนบิลและรามซาร์มีความสำคัญอย่างยิ่งในการทำความเข้าใจความสามารถในการฟื้นตัวของสิ่งมีชีวิต การปรับตัวเหล่านี้อาจมีประโยชน์ในการพัฒนาการป้องกันรังสีสำหรับผู้ทำงานในพื้นที่รังสีสูง การออกแบบสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยใกล้แหล่งรังสี และอาจมีความเกี่ยวข้องกับการรักษาทางการแพทย์ โดยเฉพาะในกรณีของโรคมะเร็งที่ใช้รังสีในการรักษา นอกจากนี้ การวิจัยนี้ยังมีความสำคัญต่อภารกิจสำรวจอวกาศระยะไกล ที่นักบินอวกาศต้องเผชิญกับความเสี่ยงจากรังสีคอสมิก
ถึงแม้หลายฝ่ายจะคาดการณ์ว่าต้องใช้เวลาอีกหลายร้อยปี กว่าที่มนุษย์จะกลับเข้าไปอยู่อาศัยในเชอร์นอบิลได้อีกครั้ง แต่จากการศึกษาที่สอง อาจอนุมานได้ว่า มนุษย์หรือสิ่งมีชีวิตในบริเวณดังกล่าว อาจมีการปรับตัวในระดับสารพันธุกรรม จนทำให้สามารถปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมในบริเวณที่มีรังสีเข้มข้นสูงได้
ไม่แน่ว่าสิ่งมีชีวิตที่มีการปรับตัวได้เหล่านี้ อาจเป็นกลุ่มแรกที่เข้าไปอาศัยในเชอร์นอบิลได้ และจะทำให้แวดวงวิทยาศาสตร์การแพทย์และรังสีวิทยา ได้ไขความลับขีดจำกัดของสิ่งมีชีวิตด้านพันธุศาสตร์ และนำไปสู่การค้นพบที่สำคัญทางการแพทย์ กายวิภาคศาสตร์ และสรีรวิทยาในอนาคต
อ้างอิง
Mortazavi S, Rabiee S, Fallah A, Rashidfar R, Seyyedi Z, Vafapour H, Mortazavi A, Makarempour F, Kherad Z, Abdollahi M, Welsh JS. Adaptive Responses in High-Radiation Environments: Insights From Chernobyl Wildlife and Ramsar Residents. Dose Response. 2025 Oct 15;23(4):15593258251385632. doi: 10.1177/15593258251385632. PMID: 41122297; PMCID: PMC12536131.
โฆษณา