8 ธ.ค. เวลา 09:19 • ประวัติศาสตร์

ความฝันในหอแดง 52 เป่าไชไล่จับผีเสื้อ

ไต้วี่ยืนร้องไห้อยู่ข้างกำแพงลานชื่นแดง
ประตูลานบ้านเปิด เป่าไชกลับออกมา เป่าวี่ สีเหยินและพวกออกมาส่ง ไต้วี่จะเดินเข้าไปถามเป่าวี่ก็เกรงว่าอาจทำให้เป่าวี่ต้องได้อายต่อหน้าผู้อื่น จึงหลบไปด้านข้าง ปล่อยให้เป่าไชเดินผ่านไป พวกเป่าวี่กลับเข้าบ้านแล้วปิดประตู จึงกลับออกมายืนมองประตูแล้วหลั่งน้ำตา จากนั้นก็เดินซังกะตายกลับเรือนถอดชุดออก
จื่อเจวียน 紫鹃 เสวี่ยเอี้ยน 雪雁 รู้นิสัยไต้วี่ว่ามักนั่งเศร้าขมวดคิ้วถอนหายใจเป็นปกติ และนั่งร้องไห้อยู่คนเดียว แรกๆ ก็เคยเข้าไปปลอบ เกรงว่านางจะคิดถึงบ้านหรือพ่อแม่ที่จากไป หรือถูกรังแก แต่ครั้นนานวันไป เห็นนางเป็นเช่นนี้จนชิน จึงไม่ได้ใส่ใจ ปล่อยให้นางนั่งตามลำพัง พวกนางไปทำกิจธุระตามปกติ ไต้วี่นั่งกอดเข่าน้ำตาคลอเบ้าพิงลูกกรงเตียงนิ่งเป็นรูปปั้นจนกว่ายามสองจึงเข้านอน
วันรุ่งขึ้นเป็นวันที่ยี่สิบหกเดือนสี่ พอถึงยามเว่ย 未时 (13:00) จะเข้าสู่เทศกาลหมางจ่ง 芒种节 (เพาะปลูกเก็บเกี่ยว) มีประเพณีจัดเครื่องเซ่นบวงสรวงเทพดอกไม้ หลังจากหมางจ่งจะเข้าฤดูร้อน มวลดอกไม้เหี่ยวเฉา เทพดอกไม้อำลาจึงเป็นการจัดเลี้ยงส่งเทพดอกไม้ 祭饯花神 เป็นเทศกาลของเหล่าสตรี
สาวๆ ในสุทัศนอุทยาน 大观园 จึงตื่นขึ้นมาแต่เช้า บ้างนำกิ่งต้นหลิ่วกลีบดอกไม้มาทำเป็นเกี้ยวดอกไม้ บ้างนำผ้าแพรไหมมาพับเป็นธงทิวใช้ด้ายสีผูกไว้กับไม้ต้นทุกต้น ไม้ดอกทุกกิ่ง จนพลิ้วไสวไปทั่วสวน แต่ละนางแต่งกายสวยงามจนดอกซิ่งเถาเหล่าปักษีได้อาย
พวกนายสาวเป่าไช หยิงชุน ทั่นชุน ซีชุน หลี่หวาน พี่เฟิ่ง และพวกเซียงหลิงเหล่าสาวใช้ เที่ยวเล่นอยู่ในอุทยาน แต่ไม่เห็นไต้วี่ หยิงชุนจึงถามว่า
“ทำไมไม่เห็นน้องหลิน คนขี้เกียจ ป่านนี้ยังหลับอยู่หรือไร”
เป่าไชว่า “พวกท่านรอเดี๋ยว ข้าจะไปฉุดนางมา”
ระหว่างทางมายังเรือนเซียวเซียง เห็นพวกเหวินกวน 文官 สิบสองเด็กสาวนักแสดงมาถึง เข้ามาทักทาย เป่าไชหันร่างชี้นิ้วไปว่า
“พวกเขาอยู่กันทางนั้น พวกเจ้าไปหาก่อน ข้าไปหาคุณหนูหลินแล้วค่อยตามไป”
เป่าไชเดินลัดเลาะมาทางเรือนเซียวเซียง เงยหน้ามองเห็นเป่าวี่กำลังเข้าไปในเรือน เป่าไชหยุดเดินก้มหน้าตรองว่า
“เป่าวี่กับไต้วี่โตมาด้วยกันตั้งแต่เล็ก ระหว่างพี่น้องก็มักมีเรื่องระหองระแหง เดี๋ยวดีกันเดี๋ยวโกรธกันเอาแน่ไม่ได้ ยิ่งไต้วี่เป็นคนขี้ระแวงและใจน้อย หากตนตามเข้าไปตอนนี้ อาจทำให้เป่าวี่อึดอัดและไต้วี่เกิดริษยา กลับก่อนน่าจะดีกว่า”
คิดแล้ว ก็ถอยกลับมาหาพี่น้องคนอื่น
พลันเห็นผีเสื้อสีหยกคู่หนึ่ง ตัวขนาดพัดกลม บินขึ้นลงอยู่ตรงหน้า งดงามยิ่งนัก เป่าไชใคร่จะจับเอาไว้ จึงคว้าพัดจากในแขนเสื้อวิ่งลงไปไล่จับในสนามหญ้า ผีเสื้อบินโฉบขึ้นโฉบลง เวียนวนไปมา ตั้งท่าจะบินข้ามลำธารไป เป่าไชไล่ตามมาจนถึงศาลาหยาดมรกต 滴翠亭 (ตีชุ่ยถิง) ริมสระ หอบหายใจเหงื่อสุคนธ์ไหล ไม่มีใจจะไล่จับต่อแล้ว พอคิดจะกลับ ก็ได้ยินเสียงคนคุยกันอยู่ข้างศาลา
ศาลาแห่งนี้มีระเบียงคดเคี้ยวโดยรอบตั้งอยู่กลางสระ มีหน้าต่างฉลุลายแปะกระดาษทั้งสี่ด้าน เป่าไชอยู่ด้านนอกศาลาได้ยินเสียงคนคุยกันว่า
“ท่านดูผ้าเช็ดหน้าผืนนี้ใช่ของที่ท่านทำตกไว้ไหม ใช่ก็เอาไป ไม่ใช่จะได้เอาไปคืนนายรองหยุน”
อีกคนว่า “เป็นผืนของข้า เอามาให้ข้า”
“ท่านจะให้รางวัลอะไรข้า ให้ช่วยหาเปล่าๆ ไม่ได้หรอก”
เสียงตอบว่า “ข้าสัญญาว่าจะให้ ก็ไม่หลอกเจ้าแน่”
เสียงแรกถาม “ข้าเอามาคืนท่าน สมควรได้รางวัล แล้วคนที่เก็บได้ ท่านไม่มีรางวัลให้หรือ”
อีกเสียงว่า “เจ้าอย่าเหลวไหล เขาเป็นเจ้านาย เก็บของพวกเราได้สมควรคืน จะเอารางวัลอะไรจากข้า”
เสียงแรกว่า “ไม่มีรางวัลแล้วข้าจะกลับไปบอกเขาอย่างไร เขาย้ำกับข้าสามสี่หนว่า ถ้าไม่มีรางวัล ไม่ให้ข้าคืนของ”
เงียบไปครึ่งวัน จึงมีเสียงตอบว่า
“เช่นนั้น เอาของข้านี่ไปคืนเขา ถือว่าเป็นรางวัล แต่เจ้าต้องสัญญาว่าจะไม่บอกใคร”
เสียงแรกว่า “ถ้าข้าบอกใคร ขอให้ปากเป็นฝี ไม่ได้ตายดี”
อีกเสียงว่า “ไอ้หยา พวกเรามัวแต่คุย เดี๋ยวมีใครมาแอบฟัง มิสู้เปิดหน้าต่างทิ้งไว้ ถึงมีคนเห็นก็คงคิดว่าพวกเราคุยกันเล่น เดินเข้ามาพวกเราก็เห็นจะได้ไม่ต้องคุย”
เป่าไชแอบฟังอยู่ด้านนอก นึกตกใจคิดว่า
“ชายโฉดหญิงชั่วแต่ไหนแต่ไรมามักมากเล่ห์ หากเปิดมาเห็นข้าเข้าคงร้อนตัวแน่ อย่าว่าแต่เสียงคุ้นว่าน่าจะเป็นเสี่ยวหง สาวใช้ต้นห้องของเป่าวี่ นางหูตาแพรวพราว ข้ามารู้ความลับของนาง ไล่นางจนตรอกอาจแว้งกัด ไม่ดีแน่ จะหลบก็ไม่ทันแล้ว มิสู้ใช้แผนจักจั่นทองลอกคราบ 金蝉脱壳”
พอมีเสียงเปิดหน้าต่าง เป่าไชแกล้งลงฝีเท้าหนัก หัวเราะแล้วตะโกนว่า
“ผินเอ๋อ 颦儿 ข้าดูว่าเจ้าจะหนีไปซ่อนที่ไหน”
แล้วแกล้งวิ่งไล่มาข้างหน้า
เสี่ยวหง จุ้ยเอ๋อเปิดหน้าต่างออกมาเห็นเป่าไชวิ่งไล่จับก็พากันตกใจ เป่าไชหันมายิ้มกับพวกนางว่า
“พวกเจ้าเอาคุณหนูหลินไปซ่อนไว้ไหน”
จุ้ยเอ๋อว่า “ข้าไม่เห็นคุณหนูหลิน”
เป่าไชว่า “ข้าเห็นคุณหนูหลินนั่งเล่นน้ำอยู่ริมธาร จึงย่องมาจะหลอกนาง นางเห็นเข้าก่อน วิ่งหนีหายมาทางนี้ ไม่ใช่ไปหลบอยู่ข้างในหรือ”
ว่าแล้วก็แกล้งเข้าไปหา พอไม่เจอก็กลับออกไปแล้วว่า
“คงไปซ่อนในถ้ำ ขอให้เจองูกัด”
วิ่งไปพลางหัวเราะในใจว่า
“คงตบตาได้แล้ว ไม่รู้พวกนางจะคิดอย่างไร”
เสี่ยวหงกลับคิดว่าเป่าไชพูดเรื่องจริง พอเป่าไชไปไกลแล้วก็ลากตัวจุ้ยเอ๋อมาว่า
“ไม่ได้การแล้ว คุณหนูหลินมาหลบอยู่นี่ คงได้ยินหมดแล้ว”
จุ้ยเอ๋อนิ่งเงียบไปครึ่งวัน เสี่ยวหงถามต่อว่า
“แล้วจะทำอย่างไรดี”
จุ้ยเอ๋อว่า “ถึงจะได้ยิน เกี่ยวอะไรกับนาง ต่างคนต่างสนใจเรื่องของตัว”
เสี่ยวหงว่า “หากเป็นคุณหนูเป่าได้ยินยังว่าไปอย่าง แต่คุณหนูหลินชอบเหน็บแนม ทั้งยังหยุมหยิม หากนางได้ยินแล้วเรื่องแดงขึ้นมา จะทำอย่างไร”
ระหว่างปรับทุกข์อยู่นั้น พวกเซียงหลิง 香菱 เจินเอ๋อ 臻儿 ซือฉี 司棋 สื้อซู 侍书 เดินตรงมายังศาลา ทั้งสองจึงต้องหยุดคุย หันมาพูดกระเซ้าพวกนางแทน พี่เฟิ่งมายืนกวักมือเรียกบนเนินเขา เสี่ยวหงรีบปลีกตัววิ่งมาหา ยิ้มถามว่า
“คุณนายมีอะไรจะใช้ข้า”
พี่เฟิ่งประเมินนางอยู่ครู่หนึ่ง เห็นนางหน้าตาสะอาดสะอ้าน พูดจาฉะฉาน จึงยิ้มว่า
“สาวใช้ของข้า วันนี้ไม่มีใครตามมาด้วย ตอนนี้ข้ามีกิจธุระหนึ่ง เจ้าจะทำได้หรือไม่ สั่งรู้เรื่องไหม”
เสี่ยวหงยิ้มว่า “คุณนายมีธุระอะไรเชิญสั่งมาได้ หากข้าบกพร่องทำเรื่องเสียหาย สุดแต่คุณนายจะลงโทษ”
พี่เฟิ่งยิ้มว่า “เจ้าเป็นสาวใช้เรือนไหน ข้าให้เจ้าไปทำธุระ เขามาตามหา ข้าจะได้ช่วยพูด”
เสี่ยวหงว่า “ข้าอยู่เรือนนายรองเป่า”
พี่เฟิ่งฟังแล้วยิ้มว่า “ไอ้หยา ที่แท้ก็เรือนเป่าวี่ มิน่าเล่า เอาเถิด ถ้าเขาถามข้าจะบอกเขาให้ เจ้าไปที่เรือนข้าบอกพี่ผิงว่า บนโต๊ะในห้องด้านนอก ใต้ชั้นวางจานกระเบื้องหยู่เหยา 汝窑 (เครื่องปั้นดินเผาสำหรับราชสำนักซ่ง เป็นของหายาก) มีห่อเงินอยู่ เอาหนึ่งร้อยยี่สิบตำลึงจ่ายเป็นค่าแรงให้ช่างเย็บปัก รอเมียจางไฉ 张材家的 มาชั่งให้ดูต่อหน้าแล้วจึงค่อยจ่ายไป อีกเรื่องคือ บนหัวเตียงห้องด้านใน มีถุงเงินวางอยู่ เจ้าเอามาให้ข้า”
เสี่ยวหงรับคำแล้วรีบไปดำเนินการ
ไม่นานนักก็กลับมา พี่เฟิ่งไม่อยู่บนเนินเขาแล้ว เห็นพวกซือฉี 司棋 เดินออกมาจากในถ้ำยืนผูกผ้าคาดเอวอยู่จึงถามว่า
“พี่ ไม่ทราบคุณนายรองไปไหนแล้ว”
ซือฉีว่า “ข้าไม่ทันสังเกต”
เสี่ยวหงเที่ยวเดินหาจนมาพบทั่นชุน เป่าไชยืนดูปลาอยู่ริมสระ เสี่ยวหงเดินยิ้มเข้าไปถามว่า
“พวกคุณหนูเห็นคุณนายรองหรือไม่”
ทั่นชุนว่า “เข้าไปหาคุณนายใหญ่ที่เรือน”
เสี่ยวหงจึงเดินมายังบ้านข้าวหอม 稻香村 ระหว่างทางพบพวกฉิงเหวิน 晴雯 ฉี่เสีย 绮霞 ปี้เหิน 碧痕 ชิวเหวิน 秋纹 เส้อเยว่ 麝月 สื้อซู 侍书 ยู่ฮว่า 入画 อิงเอ๋อ 莺儿 เดินเป็นกลุ่มตรงมา
ฉิงเหวินพอเห็นเสี่ยวหงก็ว่า “เจ้าบ้าไปแล้วหรือ ไม่รดน้ำดอกไม้ในสวน ไม่ป้อนอาหารนก ไม่ต้มน้ำชงชา มาเดินเล่นอยู่ข้างนอก”
เสี่ยวหงว่า “เมื่อวานนายรองบอกว่าวันนี้ไม่ต้องรดน้ำต้นไม้ ให้รดน้ำวันเว้นวัน นกข้าป้อนแล้วตอนท่านยังหลับอยู่”
ปี้เหินว่า “น้ำชาล่ะ”
เสี่ยวหงว่า “วันนี้ไม่ใช่เวรข้า มีน้ำชาหรือไม่ อย่ามาถาม”
ฉี่เสียว่า “ฟังวาจานาง พวกเจ้าอย่าพูดอะไรเลย นางอยากเที่ยวเดินเล่นไหนให้นางไป”
เสี่ยวหงว่า “พวกเจ้าลองไปถามดู ข้าไม่ได้เที่ยวเดินเล่น คุณนายรองเรียกให้ข้าไปเอาของมาให้”
ว่าแล้วก็ยื่นถุงเงินให้พวกนางดู จึงต่างไม่มีอะไรจะว่า แยกเดินไป
ฉิงเหวินยิ้มเยาะพูดขึ้นว่า “ไม่น่าแปลกใจ ที่แท้ปีนขึ้นที่สูงก็ไม่เห็นหัวพวกเรา ไม่รู้ว่าคุณนายได้พูดด้วยสักคำครึ่งคำไหม รู้จักชื่อแซ่หรือไม่ ถึงได้ชูคอขนาดนี้ เรียกใช้งานแค่นี้มีอะไร ดูสิว่าหลังจากนี้ยังมีอีกไหม มีปัญญาก็ออกจากอุทยานนี้ไปหาที่เกาะให้สูงกว่านี้ถึงนับว่าแน่จริง”
เสี่ยวหงได้ยินแต่ไม่อยากตอบโต้จำอดกลั้นเดินตามหาพี่เฟิ่ง พอเข้ามาในเรือนของหลี่หวาน ก็เห็นพี่เฟิ่งกำลังสนทนากับหลี่หวานอยู่ เสี่ยวหงเข้าไปแจ้งว่า
“พี่ผิงบอกว่า พอคุณนายออกมา นางก็นำเงินออกมาแล้ว พอเมียจางไฉมารับ ก็ชั่งต่อหน้าก่อนให้เงินนางไป”
กล่าวจบ ก็นำถุงเงินส่งให้ แล้วกล่าวต่อว่า
“พี่ผิงให้ข้ามาเรียนคุณนายว่า ว่างเอ๋อ 旺儿 เพิ่งมาถามว่า จะให้ไปที่บ้านไหน พี่ผิงจึงส่งให้ไปตามประสงค์ของคุณนายแล้ว”
พี่เฟิ่งยิ้มว่า “นางจัดการอย่างไรที่ว่าตามประสงค์ของข้า”
เสี่ยวหงว่า “พี่เฟิ่งบอกว่า “คุณนายของเรามาเยี่ยมคารวะคุณนาย นายรองของเราไม่อยู่บ้าน ถึงจะสายไปสักสองวัน ก็ขอให้วางใจ รอคุณนายห้าหายดี คุณนายเราจะพาคุณนายห้ามาเยี่ยมคุณนาย ก่อนหน้านี้ คุณนายห้าให้คนมาบอกว่า คุณนายน้าฝากถามว่าคุณนายสบายดีไหม และยังถามว่าที่คุณนายอามียาลูกกลอนเทพอายุวัฒนะ 延年神验万金丹 สักสองเม็ดไหม หากมี คุณนายจะให้คนมารับ ขอให้ฝากไว้กับคุณนายเรา พรุ่งนี้มีคนมาทางนี้ จะให้แวะมาเอาไปให้คุณนายน้า”…”
กล่าวมาถึงตรงนี้ยังไม่ทันสิ้นความ หลี่หวานก็หัวเราะว่า
“ไอ้หยา ข้าฟังไม่รู้เรื่องแล้ว มีแต่คุณนายคุณนาย นายท่านเต็มไปหมด”
พี่เฟิ่งหัวเราะว่า “ไม่แปลกหรอกที่ท่านไม่เข้าใจ นางพูดถึงคุณนายสี่ห้าบ้าน”
แล้วหันมาหาเสี่ยวหงว่า
“เด็กดี ลำบากเจ้าแล้ว แต่ไม่ขาดตกบกพร่อง ไม่เหมือนคนอื่นที่มัวแต่กระบิดกระบวนไปมางึมงำเหมือนยุง
พี่สะใภ้(พูดกับหลี่หวาน)ไม่รู้หรอกว่า นอกจากสาวใช้กับแม่บ้านคนสนิทไม่กี่คน ข้าหน่ายที่จะพูดกับคนอื่น คำเดียวสั้นๆ ก็ลากยาวเป็นสองสามตอน เล่นถ้อยร้อยคำ พูดยานคางหรือกระซิบกระซาบ ฟังแล้วร้อนใจหงุดหงิดแต่พวกนางยังไม่รู้ตัว ผิงเอ๋อของข้าตอนแรกก็เป็นเช่นเดียวกัน ต้องแก้ไขกันนานกว่าจะได้ความ”
หลี่หวานหัวเราะว่า “ต้องปากร้ายอย่างเจ้าจึงจะได้ความ”
พี่เฟิ่งว่า “เด็กคนนี้ใช้ได้ ใช้งานไปสองเรื่องถึงจะไม่มาก พูดจาก็ตรงประเด็น”
แล้วหันมายิ้มกับเสี่ยวหงว่า
“พรุ่งนี้เจ้ามารับใช้ข้า ข้ารับเจ้าเป็นลูกบุญธรรม มีข้าดูแล เจ้าจะได้ลืมตาอ้าปาก”
เสี่ยวหงฟังแล้วหัวเราะขำ พี่เฟิ่งว่า
“เจ้าขำอะไร เจ้าคิดว่าข้าอายุยังน้อย มากกว่าเจ้าไม่กี่ปี เป็นแม่เจ้าไม่ได้หรือ เจ้าอย่าฝันเปียก ไปลองสอบถามดู คนที่อายุมากกว่าเจ้าอยากเรียกข้าว่าแม่ ข้ายังไม่สนใจ แต่วันนี้จะส่งเสริมเจ้า”
เสี่ยวหงยิ้มว่า “ข้าไม่ได้หัวเราะเรื่องนั้น ข้าหัวเราะเพราะว่าคุณนายนับรุ่นผิด แม่ของข้าเป็นลูกบุญธรรมของท่าน แล้วตอนนี้ยังจะรับข้าเป็นลูกบุญธรรมอีก”
พี่เฟิ่งว่า “แม่ของเจ้าเป็นใคร”
หลี่หวานยิ้มว่า “ที่แท้เจ้าจำนางไม่ได้ นางคือลูกสาวของหลินจือเสี้ยว 林之孝”
พี่เฟิ่งแปลกใจยิ่ง จึงว่า “ออ ลูกของเขาหรือ หลินจือเสี้ยวสองผัวเมียที่เอาสว่านเจาะยังไม่ร้องสักแอะ ข้าเคยเปรียบเปรยพวกเขาว่าเป็นคู่สร้างคู่สม คนหนึ่ง “ฟ้าหนวก 天聋” คนหนึ่ง “ดินใบ้ 地哑” แต่เลี้ยงลูกได้ฉลาดหลักแหลม เจ้าอายุสิบเท่าไรแล้ว”
เสี่ยวหงว่า “สิบเจ็ดปี”
พี่เฟิ่งถามชื่อ เสี่ยวหงตอบว่า
“เดิมชื่อ “หงวี่ 红玉 (หยกแดง)” แต่ไปซ้ำกับชื่อนายรองเป่า เดี๋ยวนี้จึงเรียกกันว่า เสี่ยวหง”
พี่เฟิ่งขมวดคิ้วหันมาว่า “น่าเกลียด หยกหาง่ายจะตายไป เจ้ามีหยก ข้ามีหยก”
กล่าวต่อกับหลี่หวานว่า
“พี่สะใภ้ยังไม่รู้ ข้าเคยบอกแม่ของนางว่า “เมียไล่ต้า 赖大家的 งานยุ่งมาก เจ้าช่วยหาเด็กสักสองคนในจวนไปช่วยงานที” นางรับปากแต่กลับส่งลูกสาวตัวเองไปอยู่ที่อื่น อยู่กับข้าไม่ดีตรงไหน”
หลี่หวานยิ้มว่า “เจ้าคิดมากไป นางเข้ามาอยู่ก่อน เจ้าขอไปทีหลัง ทำไมจึงไปโทษแม่ของนาง”
พี่เฟิ่งจึงยิ้มว่า “ถ้าเช่นนั้น พรุ่งนี้ข้าจะบอกเป่าวี่ให้หาคนใหม่ ขอเด็กนี่มาอยู่กับข้า แต่ไม่รู้ว่าเจ้าตัวจะยินยอมหรือไม่”
เสี่ยวหงยิ้มว่า “ยินยอมหรือไม่ ข้าไม่กล้าตัดสินใจเอง แต่หากได้ติดตามคุณนาย นับเป็นโอกาสได้เรียนรู้ผู้คนทั้งบนล่าง การงานทั้งนอกในใหญ่น้อย”
พอดี หวางฮูหยินให้สาวใช้มาเชิญพี่เฟิ่ง พี่เฟิ่งจึงลาหลี่หวานกลับ เสี่ยวหงก็กลับมายังลานชื่นแดง
ตอนก่อนหน้า : ไต้วี่ระทม
ตอนถัดไป : ไต้วี่ฝังดอกไม้

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา