13 ธ.ค. เวลา 12:00 • ประวัติศาสตร์

ชิน โสภณพนิช จากเด็กถ่อเรือโยงสู่ “ธนราชันย์”

ประเทศไทย นับว่าเป็นเสมอกับเมืองท่าสำคัญที่ผู้คนต่าง ๆ พากันเดินทางแวะมาเยี่ยมเยือน บ้างก็แวะมาและจากไป บ้างก็แวะมาแล้วกลายเป็นพลเมืองสำคัญ ชุมชนชาวจีนโพ้นทะเลในไทยก็นับว่าใหญ่โตไม่แพ้ที่ไหน ซึ่งกลุ่มชาวจีนโพ้นทะเลเสื่อผืนหมอนใบเหล่านี้ ต่างมาพร้อมกับความหวังที่จะสามารถตั้งหลักได้ในดินแดนที่ไม่คุ้นเคย
ด้วยอุปนิสัยมานะอุตสาหะของชาวจีนโพ้นทะเลนี่เองที่ทำให้ชาวจีนโพ้นทะเลจำนวนไม่น้อย สามารถที่จะประสบความสำเร็จเป็นยักษ์ใหญ่ในไทยได้หลายต่อหลายคน หนึ่งในนั้นก็มีนายธนาคารผู้หนึ่ง ที่ชีวิตเริ่มต้นจากศูนย์ เป็นลูกครึ่งจีนเสื่อผืนหมอนใบที่มานะอุตสาหะ จากลูกจ้างใช้แรงงานกลายมาเป็นนายคน
และเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้ง “ธนาคารกรุงเทพ” ซึ่งเป็นอีกหนึ่งธนาคารชั้นนำของไทยขึ้นมา ลูกครึ่งจีนโพ้นทะเลคนนั้นก็ไม่ใช่ใครที่ไหนหากแต่เป็นคุณ “ชิน โสภณพนิช”
⭐ ตั้งเพียกชิ้ง
นายชิน โสภณพนิช เกิดเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2453 ปีแรกในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ณ บ้านย่านตลาดน้ำวัดไทร จังหวัดธนบุรี บิดาของเขาเป็นชาวจีนแต้จิ๋วที่อพยพเข้ามา ในขณะที่แม่ของเขาเป็นชาวสวนคนไทย โดยนายชินมีชื่อแรกเริ่มเป็นภาษาแต้จิ๋วว่า “ตั้งเพียกชิ้ง”
เมื่ออายุได้ 5 ปี นายชิน หรือเด็กชายชินในขณะนั้นก็จำต้องเดินทางติดตามบิดากลับไปยังซัวเถา และเริ่มการศึกษาในระดับชั้นประถมฯ ที่ประเทศจีน โดยมีผลการเรียนในระดับดีมาก อีกทั้งยังช่วยเหลือในเรื่องของกิจการทำนาของพ่ออีกด้วย
พอเข้าสู่ระดับชั้นมัธยมศึกษาก็ได้เริ่มที่จะหัดทำงานอื่น ๆ บ้าง โดยได้ไปทำงานร้านขายหนังสือและร้านขายเครื่องเขียน ตลอดจนได้ช่วยงานร้านขายยาของญาติด้วย ทำให้เด็กชายชินได้เรียนรู้ทักษะการค้าขายที่จะเป็นทักษะสำคัญต่ออาชีพของเขาในอนาคต
⭐ จากเด็กถ่อเรือโยง สู่นายห้างค้าวัสดุ
หลังจากที่นายชินเรียนอยู่ที่จีนนานกว่า 12 ปีจนพออ่านออกเขียนได้ ก็ได้เดินทางกลับมายังเมืองไทย ด้วยความรู้ที่ไม่ได้มากมายนักในช่วงแรก ทำให้การหาเลี้ยงครอบครัวของนายชินคือการทำงานใช้แรงงาน เหมือนกันกับชาวจีนเสื่อผืนหมอนใบส่วนใหญ่ในช่วงเวลาดังกล่าว
งานแรกของนายชินคืองานเด็กถ่อเรือโยงบรรทุกสินค้าทางการเกษตรที่ล่องระหว่างกรุงเทพกับอยุธยา นายชินทำงานนี้ได้ไม่นานนักก็ย้ายมาทำงานด้านเสมียน ใช้ความรู้อ่านออกเขียนได้และทักษะค้าขายที่ได้มาจากเมืองจีนมาใช้ โดยได้ทำงานในโรงไม้และร้านค้าวัสดุก่อสร้างของนายเจียม ชัยเกียรติย่านริมคลองผดุงกรุงเกษม ตลอดจนได้เรียนรู้เกี่ยวกับการทำบัญชีจากที่นี่ด้วย
ความสามารถของนายชินเป็นที่ประจักษ์ต่อนายเจียม ครั้นเมื่อนายเจียมขยายกิจการออกไปยังร้านใหม่ ร้านหลังเดิมนี้ก็ได้กลายมาเป็นสาขาและยกให้นายชินทำหน้าที่เป็นผู้จัดการร้านด้วย อย่างไรก็ดี ด้วยเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันทำให้ร้านของนายชินประสบอัคคีภัย นายชินจึงตัดสินใจย้ายกลับไปยังซัวเถาเพื่อตั้งหลักใหม่อีกครั้งหนึ่ง
เวลาผ่านไปไม่นานนัก
นายชินก็ได้เดินทางกลับมายังประเทศไทยอีกครั้งหนึ่งและเริ่มทำงานในร้านค้าวัสดุก่อสร้างเซียงเฮงล้ง ด้วยประสบการณ์ด้านการค้าที่มากมายทำให้ต่อมานายชินได้เปิดกิจการเป็นของตัวเองภายใต้ชื่อ บริษัท เอเชีย จำกัด โดยค้าขายวัสดุต่าง ๆ ตั้งแต่วัสดุก่อสร้างจำพวกไม้และเหล็ก ไปจนถึงเครื่องเขียน ซึ่งล้วนแต่เป็นสินค้าที่เขาเคยมีประสบการณ์คุ้นเคยมาอยู่ก่อนแล้ว
ในขณะที่กิจการกำลังไปได้ด้วยดี โลกก็ปั่นป่วนด้วยสถานการณ์สงครามโลกครั้งที่ 2 กิจการค้าวัสดุก่อสร้างหยุดชะงักลง จึงจำเป็นที่จะต้องหาลู่ทางใหม่ ๆ อย่างเช่นธุรกิจขนส่งสินค้าทางการเกษตร ไปจนถึงธุรกิจค้าทอง
⭐ ธนาคารกรุงเทพ
ในปี 2487 กลุ่มคณะบุคคลกลุ่มหนึ่งที่ประกอบไปด้วยขุนนาง ข้าราชการ พ่อค้า คหบดี ได้รวมตัวกันเข้าหุ้นและขอจดทะเบียนกิจการธนาคารพาณิชย์ขึ้นมา นายชินเองก็เป็นหนึ่งในผู้เข้าร่วมก่อตั้งธนาคารร่วมกันกับหุ้นส่วนของอื่น ๆ
อย่างเช่นเจ้าพระยารามราฆพ และหลวงรอบรู้กิจ โดยมีทุนจดทะเบียนแรกเริ่มที่ 4 ล้านบาท โดยนายชินถือหุ้นเป็นจำนวนถึง 20% โดยธนาคารได้ทำการเปิดสาขาแรกขึ้นเป็นห้องแถวเล็ก ๆ ที่ถนนราชวงศ์ตรงปากตรอกอาเนียเก็ง โดยในปีแรกนี้นายชินยังไม่ได้เข้ามาทำงานภายในหากแต่เป็นหนึ่งในคณะกรรมการผู้ถือหุ้นก่อน
นายชินเริ่มเข้ามาทำงานกับธนาคารกรุงเทพในฐานะของกัมประโด (นายหน้าหาลูกค้าให้ธนาคาร) ก่อน ด้วยสถานะของนายชินที่กว้างขวางในหมู่คนไทยเชื้อสายจีน ซึ่งการทำงานในฐานะกัมประโดของนายชินก็ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก โดยยอดเงินฝากในช่วงกลางปี 2488 นี้เพิ่มขึ้นถึง 10 ล้านบาท และทะลุถึง 18.5 ล้านบาทในช่วงปลายปี
อย่างไรก็ดี สถานการณ์โลกหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ยุติลง เศรษฐกิจก็นับว่าปั่นป่วน สำหรับการธนาคารเองก็เช่นกัน เพราะว่าเหล่าธนาคารพาณิชย์เดิมที่ดำเนินการโดยชาวต่างชาตินั้นได้หยุดไปในช่วงสงครามก็กลับมาเปิดใหม่หลังสงครามสิ้นสุด กิจการของธนาคารกรุงเทพจึงประสบปัญหาแต่ก็สามารถผ่านพ้นมาได้อย่างง่ายดายจากความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกัมประโดชินกับลูกค้าที่สนิทชิดเชื้อกัน
กิจการของธนาคารกรุงเทพ เติบโตขึ้นเรื่อย ๆ เกิดการขยายกิจการสู่ระดับภูมิภาคในช่วงสงครามเกาหลี อย่างไรก็ดี พอเข้าสู่ปี 2495 กัมประโดชินก็ได้ก้าวขึ้นมาในฐานะของกรรมการผู้จัดการใหญ่ พร้อมกับปรับปรุงระบบภายในทั้งการบริหารและการบัญชี กิจการของธนาคารก็ดีขึ้นทุกขณะจนมีสาขาต่างประเทศ ซึ่งนับว่าเป็นธนาคารไทยแห่งแรกที่สามารถเปิดสาขาในต่างประเทศได้ด้วย
การบริหารงานของธนาคารภายใต้การทำงานของนายชิน นับว่าเป็นการบริหารที่ดีและสร้างความมั่นคงให้กับธนาคารในฐานะของหนึ่งในธนาคารพาณิชย์ชั้นนำของประเทศได้ด้วยในช่วงเวลาดังกล่าว โดยในปี 2516 นายชินก็ได้ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานกรรมการของธนาคารเรื่อยมา ถึงแม้ว่าจะได้วางมือในปี 2527 ก็ยังได้รับเชิญให้ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการกิตติมศักดิ์นี้ ตราบจนวาระสุดท้ายของชีวิต
⭐ ยามกลีบบัวหลวงร่วงโรย
นายชิน โสภณพนิชถึงแก่อนิจกรรมเมื่อวันที่ 4 มกราคม 2531 ด้วยโรคหัวใจและโรคไต โดยได้รับพระราชทานเพลิงศพ ณ วัดเทพศิรินทราวาส
เรื่องราวของนายชิน นับว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวสร้างแรงบันดาลใจสำคัญ ตลอดจนเป็นเสมือนกับตำนานเรื่องเล่าที่ทรงคุณค่า ชีวิตของเขาเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางในฐานะของผู้ที่ประสบความสำเร็จได้โดยเริ่มต้นจากศูนย์ กลายเป็นอีกหนึ่งตำนานเสื่อผืนหมอนใบที่ถูกส่งต่อเรื่อยมา
ตลอดชีวิตของนายชินได้สร้างคุณูปการให้กับสังคมไว้มากมาย ทั้งการบริจาคทุนการศึกษา การก่อตั้งมูลนิธิ ธุรกิจของนายชินจึงเป็นมากกว่าเพียงแค่ธุรกิจการเงินการธนาคาร หากแต่ยังเป็นธุรกิจเพื่อสังคมด้วยในอีกทางหนึ่ง ซึ่งทุกวันนี้ กิจกรรมเพื่อสังคมเหล่านี้ก็ยังคงถูกดำเนินการส่งต่อเรื่อยมาโดยธนาคารกรุงเทพจนถึงปัจจุบัน…
อ้างอิง
ธนาคารกรุงเทพ. "ชีวิตและงาน นายชิน โสภณพนิช 2453-2531". ใน 80 ปี เพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน ธนาคารกรุงเทพ. [E-book]
เสถียร จันทิมาธร. "ธนราชันย์ ชิน โสภณพนิช King of the Bank จาก กุลี ถึง บัลลังแบงก์". มติชน: กรุงเทพ, 2537.
สาธิต อุทัยศรี. "ชิน โสภณพนิช". ในโอกาสเสด็จพระราชดำเนินพระราชทานเพลิงศพ นายชิน โสภณพนิช ป.ช., ป.ม. ประธานกิตติมศักดิ์ อดีตประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด ณ เมรุหน้าพลับพลาอิศริยาภรณ์. อมรินทร์: กรุงเทพ, 2531
โฆษณา