Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
“วันละเรื่องสองเรื่อง”
•
ติดตาม
12 ธ.ค. เวลา 06:07 • ธุรกิจ
🧬 “คนเก่ง” ไม่เหมือน “คนทั่วไป” ยังไง?
ไม่ใช่เรื่องของพรสวรรค์ แต่คือเรื่องของ “วิธีคิด” และ “วินัย” ที่โลกการทำงานยุคใหม่ต้องการ
* ในยุคที่ AI เข้ามาเปลี่ยนวิธีทำงานอย่างถอนราก คำถามสำคัญที่ทั้งผู้นำและคนทำงานต้องเผชิญ ไม่ใช่แค่ว่า “คุณเก่งแค่ไหน?” แต่คือ “คุณพัฒนาตัวเองได้เร็วแค่ไหน?” เพราะความเร็วในการเรียนรู้ กลายเป็นตัวแปรใหม่ที่กำหนดชะตาอาชีพ
* ในห้องประชุมหลายแห่ง เรามักเห็นคนที่ขยันมาก แต่เติบโตช้า ขณะเดียวกันก็มีบางคนที่ดูธรรมดาในวันแรก ทว่าไม่กี่ปีต่อมากลับกลายเป็น Top Talent ขององค์กร ปรากฏการณ์นี้ไม่ได้เกิดจากโชคช่วย แต่เกิดจากโครงสร้างความคิดและวินัยที่แตกต่าง
* เส้นแบ่งระหว่าง “Average” กับ “Top” ในวันนี้ ไม่ได้อยู่ที่ใบปริญญา ไม่ได้อยู่ที่ IQ และไม่ใช่เรื่องดวง หากแต่อยู่ที่ “DNA การทำงาน” ซึ่งถูกหล่อหลอมจากวิธีคิด พฤติกรรม และวินัยในชีวิตประจำวันแบบต่อเนื่อง
เมื่อถอดรหัสคุณลักษณะของคนเก่งในโลกธุรกิจยุคใหม่ จะเห็นชัดว่าถูกจัดวางอยู่ใน 4 มิติหลักต่อไปนี้ และแต่ละมิติล้วนเชื่อมโยงกันเป็นระบบเดียว ไม่ได้แยกขาดจากกัน
⸻
🧠 1) Self‑Mastery: ชนะใจตนเอง ก่อนชนะงาน
* คนเก่งเริ่มต้นจากการ “บริหารตัวเองให้ได้ก่อน” ไม่ใช่เริ่มจากการบริหารคนอื่น เพราะคนที่ควบคุมตัวเองไม่ได้ ย่อมยากจะควบคุมสถานการณ์หรือทีมงานได้อย่างแท้จริง
* พวกเขารู้บทบาทของตัวเองอย่างชัดเจน รู้ว่าตอนไหนต้องเป็นนักคิด นักลงมือทำ หรือผู้สนับสนุนทีม และที่สำคัญคือรู้ขีดจำกัดของตัวเองว่าถนัดหรือไม่ถนัดเรื่องใด แล้วไม่ลังเลที่จะยอมรับความจริงข้อนั้น การยอมรับจุดอ่อน ไม่ใช่ความพ่ายแพ้ แต่คือจุดตั้งต้นของการพัฒนาอย่างยั่งยืน
* คนเก่งไม่ปล่อยให้งานกลืนชีวิต แต่จัดสมดุลระหว่างผลงานกับพลังชีวิต พวกเขาไม่ทำงานจนหมดแรงเพื่อแลกกับผลลัพธ์ระยะสั้น หากเลือกการเติบโตที่ “ไปได้ไกลและไปได้นาน” เพราะพวกเขาเข้าใจดีว่าอาชีพคือมาราธอน ไม่ใช่การวิ่งระยะสั้น
* อีกหนึ่งลายเซ็นสำคัญคือ “ท่าไม้ตายประจำตัว” คนเก่งมักมีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางบางอย่างที่สร้างความแตกต่างอย่างชัดเจน เมื่อองค์กรนึกถึงโจทย์นี้ ทุกคนจะนึกถึงเขาเป็นคนแรก และความเชี่ยวชาญนั้นไม่ได้เกิดจากพรสวรรค์ แต่เกิดจากการฝึกซ้ำอย่างมีเป้าหมาย
* และเหนือสิ่งอื่นใด คนเก่งมองความผิดพลาดเป็นส่วนหนึ่งของการเติบโต ล้มได้ แต่อย่าล้มซ้ำ เพราะทุกความผิดพลาดคือข้อมูลสำหรับการปรับปรุงครั้งถัดไป นี่คือจุดเริ่มต้นของ Growth Mindset อย่างแท้จริง
⸻
⚙️ 2) The Art of Execution: ทำเรื่องยาก ให้กลายเป็นเรื่องง่าย
* คนทั่วไปมักทำเรื่องง่ายให้ซับซ้อน แต่คนเก่งกลับมีความสามารถพิเศษในการ “ลดความซับซ้อนของความยาก” พวกเขาไม่หลงกับกระบวนการที่เทอะทะ หากโฟกัสที่ผลลัพธ์ที่แท้จริง
* พวกเขาแก้โจทย์หินด้วยวิธีที่ตรงไปตรงมา สื่อสารเรื่องยากให้คนส่วนใหญ่เข้าใจได้ และไม่หลงกับศัพท์เทคนิคหรือความซับซ้อนที่ไม่จำเป็น เพราะความเข้าใจที่ตรงกัน คือจุดเริ่มต้นของการลงมือทำที่มีประสิทธิภาพ
* คุณภาพงานคือเครดิตชีวิต คนเก่งไม่ปล่อยงานสุกเอาเผากิน เพราะรู้ดีว่าสิ่งเล็ก ๆ ที่หลุดมือไปวันนี้ อาจย้อนมาทำลายความน่าเชื่อถือในวันหน้า และความน่าเชื่อถือคือสินทรัพย์ที่มีค่าที่สุดในโลกการทำงาน
* พวกเขาไม่ยึดติดกับความสำเร็จเดิม พร้อม unlearn และ relearn อยู่เสมอ กล้าที่จะทิ้งวิธีเดิมเมื่อไม่ตอบโจทย์ และมองว่า “ทรัพยากรจำกัด” ไม่ใช่ข้ออ้าง แต่คือสนามทดสอบความคิดสร้างสรรค์และความกล้าในการตัดสินใจ
⸻
🔭 3) Strategic Thinking: อ่านเกมขาด มองภาพใหญ่เป็น
* สิ่งที่แยก “คนทำงาน” ออกจาก “ผู้นำ” ไม่ใช่ตำแหน่ง แต่คือมุมมอง เพราะตำแหน่งให้คุณอำนาจ แต่มุมมองให้คุณทิศทาง
* คนเก่งคิดเป็นระบบ มองเห็นภาพใหญ่ และสามารถเชื่อมโยงรายละเอียดเล็กๆ เข้ากับทิศทางใหญ่ขององค์กรได้ พวกเขาไม่ตัดสินใจจากอารมณ์หรือความเร่งรีบ แต่ใช้ข้อมูล บริบท และจังหวะเป็นตัวกำหนดเกม
* คนเก่งไม่อยู่นิ่งกับที่ มองหาโอกาสในทุกปัญหา และไม่แก้ปัญหาแบบปลายเหตุ แต่ย้อนกลับไปทำความเข้าใจรากของมันก่อนเลือกวิธีที่เหมาะสมที่สุด เพราะพวกเขาเข้าใจว่าการแก้ที่ต้นเหตุ ประหยัดพลังมากกว่าการไล่ดับไฟไปเรื่อยๆ
⸻
🤝 4) People & Leadership: เก่งคน ไม่ใช่แค่เก่งงาน
* คนเก่งที่แท้จริงไม่ใช่ One Man Show แต่คือ “ตัวคูณของทีม” ยิ่งเขาเก่งขึ้น ทีมรอบข้างยิ่งเก่งขึ้นไปพร้อมกัน
* พวกเขาทำงานด้วยความเข้าใจคน ไม่เลือกวิธีที่สำเร็จแต่ทิ้งบาดแผลไว้ในทีม รู้จักมอบหมายงานให้คนที่เหมาะสม และไม่อายที่จะขอความช่วยเหลือเมื่อถึงจุดที่ตัวเองไม่ถนัด เพราะพวกเขาเชื่อว่า ความแข็งแกร่งของทีม สำคัญกว่าภาพลักษณ์ของตัวคนเดียว
* คนเก่งเต็มใจสอนงาน สร้างคนขึ้นมาแทนตัวเอง และกล้าถกเถียงเพื่อคุณภาพงานบนพื้นฐานของความเคารพ ไม่ใช่เพื่อเอาชนะกัน เพราะความเห็นที่ต่าง หากถกเถียงอย่างสร้างสรรค์ จะยกระดับงานได้มากกว่าการพยักหน้าตามกันไปทั้งหมด
* เพราะพวกเขาเข้าใจดีว่า “ความสำเร็จของทีม” สำคัญกว่าชื่อเสียงส่วนตัว และชื่อเสียงที่ยั่งยืนที่สุด คือชื่อเสียงของคนที่ทำให้คนรอบข้างเติบโตได้จริง
⸻
✨ “ความเก่งคือนิสัย ไม่ใช่พรสวรรค์”
เมื่อมองย้อนกลับไปจะเห็นชัดว่า ไม่มีข้อไหนเลยที่ต้องเริ่มจากความได้เปรียบทางฐานะ หรือความอัจฉริยะตั้งแต่เกิด ทุกข้อเริ่มต้นจากการเลือกลงมือทำซ้ำๆ ในสิ่งที่ถูกต้อง
ความเก่งในนิยามของโลกการทำงานยุคใหม่ คือผลลัพธ์ของ
“วินัย + ความตระหนักรู้ + ความใส่ใจคนรอบข้าง”
* ทั้งหมดนี้ “ฝึกได้” และ “สร้างได้” ด้วยตัวคุณเอง ต่อให้วันนี้ยังไม่ใช่ Top Talent แต่ถ้าเลือกสะสม DNA เหล่านี้อย่างสม่ำเสมอ วันหนึ่งคุณจะไต่ขึ้นไปถึงจุดนั้นได้อย่างไม่รู้ตัว
* ลองหันกลับมาถามตัวเองดูว่า วันนี้คุณกำลังสะสม DNA ของคนเก่งอยู่กี่ข้อแล้ว และข้อไหนคือจุดที่คุณอยากเริ่มพัฒนาจริงจังที่สุดตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป
* เพราะข่าวดีที่สุดคือ… ไม่มีคำว่า “สายเกินไป” สำหรับการอัปเกรดตัวเอง มีเพียงคำว่า “เริ่มวันนี้” หรือ “ผัดไปวันหน้า” เท่านั้น
#วันละเรื่องสองเรื่อง #SelfDevelopment #TalentManagement #GrowthMindset #Productivity #Leadership #HRStrategy #TheLittleBookOfBusiness3

hr
hr_thailand
hrthailand
บันทึก
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย