ทุกสมรภูมิ มีผลกับตลาดอาวุธ
พลันที่ป้อมปืน VT4 ไทยระเบิดกระจุย
ทั่วโลกของผู้สนใจด้านอาวุธ ก็ขุดหลักฐานปัญหา
ของมันตั้งแต่เริ่มมาโชว์
แน่นอน ทั่วโลกในที่นี้ ย่อมหมายถึงคู่แข่งทางธุรกิจด้วย
ผู้ผลิตรายอื่นก็เลยยิ่งขยี้กันสนุก โดยไม่ต้องมีการเมือง
ระหว่างประเทศมาเป็นตัวขับดัน
…ซึ่งก็ช่วยไม่ได้เหมือนกัน เพราะมันดันมีปัญหาจริงๆ…
ลองไปหาข่าวเก่าๆดู ก็พบว่า VT4 มีปัญหามาหลายครั้ง
ก่อนหน้านี้แล้ว ไม่ใช่เพิ่งมาเกิดในบ้านเรา
เพียงแต่ว่า ไทยนั้นเป็นประเทศที่คนรู้จักเยอะ
จากการเปนแหล่งท่องเที่ยว และอาหารอร่อย
พอมีปัญหา มันเลยดังกว่าชาวบ้านเขา
รายงานปัญหานั้น เริ่มตั้งแต่ประสิทธิภาพเครื่องยนต์
ที่เจ้า VT4 ตัวท็อปของจีนเองนั้น “ตายคาบ้าน”
ในงานซูไห่ แอร์โชว์ (Zhuhai Air Show) ที่จีนเอง
เป็นผู้จัดเมื่อปีก่อน หรือก็คืองานเดียวกับการเปิดตัว
J-35 นั่นแหละ
จู่ๆ ไอ้เจ้า VT ถึงสองคันในงานเดียว ก็ดันมีปัญหา
การขึ้นที่สูงชันซะงั้น
…คันหนึ่ง ขึ้นแล้วไปต่อไม่ได้ ส่วนอีกคันขึ้นไม่ไหว
ไหลกลับมาอยู่ที่พื้นราบ ซะงั้น (คลิปตามเว็บอ้างอิงด้านล่าง)
ทางจีนพยายามเงียบมากกับข่าวนี้ แต่มันปิดไม่อยู่
เพราะเป็นงานโชว์อาวุธ ที่จีนเปิดให้สาธารณะเข้าชม
ด้วยเจตนาจะโชว์ของเพื่อขาย
มันคาบ้านแบบน่าอายอย่างยิ่ง เพราะหากเป็นแค่คันเดียว
แต่อีกคันวิ่งปร๋อ มันก็ยังอ้างได้ ว่าคันที่มีปัญหามีความผิดพลาดเกิดขึ้นเล็กน้อย แต่การมีปัญหาถึงสองคันพร้อมกัน
มันทำให้เกิดคำถามตัวโตๆ เกี่ยวกับมาตรฐานสินค้า และ QC
…นั่นคือการคาบ้าน เมื่อปีที่แล้ว….
ต่อมาเมษายน ปีนี้ ทางไนจีเรีย ผู้ใช้อีกเจ้าก็โวยยับ
เที่ยวนี้บอกเกราะไม่เป็นไปตามสเปกที่เคลมไว้
เมื่อเจอ RPG รุ่นพระเจ้าเหา ที่ไม่น่ามีระบบเจาะเกราะ
คอมโพสิทสมัยใหม่เข้าได้ ทะลวงจนพัง
คือ ทางจีนเขาบอกว่า ไอ้เจ้า VT 4 เนี่ย ทนทานการเจาะ
ของจรวดได้ในระดับสูง ด้วยเกราะสองชั้น
แต่ไนจีเรียเอารถถังไปบู๊กับกบฏโบโกฮาราม ซึ่งมีอาวุธ
สมัยโซเวียตเป็นหลัก มันจึงไม่น่าจะพังได้
แต่ก็ดันพัง แล้วทหารไนจีเรียเอง ก็คอนเฟิร์ม
ว่าไอ้ที่ยิงพวกเขาเนี่ย มัน RPG รุ่นเก่าแน่นอน
…ตอนนั้น ไนจีเรียโวยหนัก พอมีข่าวที่ไทยอีก พวกก็เลย
ทบทวนการสั่งซื้อเพิ่มอีก 40 คันทันที โดยยกข้อมูลที่ผ่าน
มา รวมถึงที่ไทยมาเป็นข้ออ้าง ล้มสัญญากับทางจีน….
…นอกจากนี้ ยังมีรายงานจากปากีสถานผู้ใช้และร่วมผลิต
อีกราย ว่ามีปัญหาการซ่อมบำรุงที่ยาก และทางจีนกั๊กอะไหล่
ส่วนสำคัญเป็นความลับ มันก็เลยยิ่งทำให้ VT4 ดูแน่ไปใหญ่…
ส่วนในไทยนั้น ตามโครงการจัดซื้อ เรายังจัดหามาไม่ครบ
จำนวนตามโครงการ จึงมีหลายฝ่าย เริ่มเรียกร้องแล้ว
ว่าให้ทบทวนการจัดหา VT4 เพิ่มให้ครบตามจำนวน….
ในความเป็นจริงแล้ว อาวุธจากทุกค่ายมีปัญหา
แต่มันต้องไม่มากไป ไม่บ่อยไป และไม่ใช่เกิดปัญหา
ในจุดชี้เป็นชี้ตายของทหาร เมื่ออยู่ในสมรภูมิ
VT4 มีรายงานปัญหาทั้งกำลังเครื่องยนต์ เกราะ
และล่าสุดคือปืนแตกกับเรา
จึงไม่แปลกอะไร ที่หลายชาติ ที่กำลังสนใจจะจัดซื้อ
กำลังจะต้องล้มโครงการไป
ถ้าเราลองหันไปดูที่ของรัสเซียและสหรัฐ
คือ T-90 และ ABRAM มาเปรียบเทียบ
เราจะพบว่า แม้มันจะถูกทำลายเยอะมาก
ในสงครามยูเครนและอัฟกานิสถาน
แต่นั่นก็เกิดจากการรับมือกับอาวุธสมัยใหม่
แล้วสู้ไม่ได้ มากกว่าที่จะเป็นความผิดพลาด
ที่เกิดจากตัวพวกมันเอง
…T-90 เจอทั้งโดรน และสารพัดอาวุธไฮเทคจากตะวันตก
รวมถึงยุทธวิธีสมัยใหม่ในยูเครน มันจึงไม่แปลกอะไร ที่จะ
ต้องพลาดท่า พังไปมากมาย….
…ABRAM พังในอัฟกานิสถานมากพอสมควร แต่ใครๆ
ก็รู้ ว่ามันพังไปเพราะอาวุธใหม่ๆจากรัสเซีย และการรบนอกแบบในสมรภูมิเมืองทะเลทราย จึงไม่แปลกเช่นกัน และความจริงมันก็ไม่ได้สูญเสียมาก จนถึงกับรับไม่ได้….
จนถึงตอนนี้ แม้ในสมรภูมิ ไทย กัมพูชา VT จะเพิ่งพังไป
แค่คันเดียว แต่มันดันเกิดจากความผิดพลาดทางเทคนิค
ของตัวอาวุธ มันก็เลยเป็นเรื่องขึ้นมาอย่างที่เห็น
เช่นเดียวกับทางฝั่งกัมพูชา พวกเขาก็พบปัญหาการใช้
อาวุธจีน แล้วประสิทธิภาพไม่ตรงตามที่เคลมเช่นกัน
สิ่งที่เกิดในบ้านเราเหล่านี้ อยู่ในสายตาของนักการทหาร
และพ่อค้าอาวุธสงครามทั่วโลก และนั่น ทำให้อาวุธจีน
กำลังถูกตั้งเครื่องหมายคำถามอย่างมาก
…แต่ในทางกลับกัน อาวุธตะวันตกกลับได้เครดิตเพิ่มอย่างมาก
จากการใช้งานของไทยเราเอง….
สมรภูมิไทยกัมพูชา อาวุธตะวันตกครองสนาม…พาขายดี
จริงอยู่ กัมพูชาอาจไม่มีแสนยานุภาพอะไรนัก
ในการต่อต้านกับกองทัพไทย
แต่การที่ไทยใช้ของเก่าอย่าง F-16 A และกริพเพนตัวเก่า
ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม่นยำ มันทำให้ทั้งสองยี่ห้อนี้
ได้รับการสนใจจัดซื้อ เพิ่มขึ้นในทันที
หลังการปะทะครั้งแรกเดือนกรกฎาคม
กริพเพน และระบบของมัน ได้รับการอนุมัติจัดซื้อทันที
จากหลายประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะที่บราซิล ซื้อเพิ่มอีกเยอะ
พอมารอบนี้ ไทยโชว์ F-16 เต็มที่
หลายชาติก็สั่งซื้อ หรืออัพเกรด F-16 ทันที
ในอีกทางบนบก ไทยใช้ปืนใหญ่ที่ร่วมพัฒนากับอิสราเอล
(M758 ATMG 155) ยิงถล่มอย่างเมามัน
ทำให้ตัวต้นฉบับ เวอร์ชั่นอิสราเอลก็เลยขายดีไปด้วย
โดยกรีซตัดสินใจสั่งซื้อทันที โดยตัดเจ้าอื่นทิ้งไป
…มันเป็นอะไรที่ชัดเจนมาก ว่าผลงานของไทยนั้น
มีส่วนอย่างมาก ที่ทำให้กองทัพทั่วโลก หันมาให้ความสำคัญ
กับความมีเสถียรภาพของอาวุธ มากกว่าความทันสมัย
หรือลูกเล่นอื่นๆ …
…ซึ่งนั่น ตรงกับคอนเซ็ปท์ของอาวุธค่ายตะวันตกพอดี…
ความจริงแล้ว อาวุธจีนกำลังมาแรง และได้รับความสนใจ
อย่างมาก จากผู้ซื้อทั่วโลก หลัง J-10 ของปากีสถาน
โชว์ผลงานทำเครื่อง Rafale ของอินเดียตก
ตอนนั้น ใครๆก็หันมามองเครื่องบินจีน
และอาวุธอื่นๆจากจีน ก็พลอยได้รับอานิสงส์ไปด้วย
แต่เนื่องจากความไม่นิ่งของสถานการณ์โลก
ที่มหาอำนาจเริ่มขึ้น มันทำให้มีสถานการณ์
ความขัดแย้งและการปะทะไปทั่ว
การเปรียบเทียบผลงานของอุปกรณ์ ระบบอาวุธ
จากค่ายต่างๆ มันจึงมีตลอดเวลาตามไปด้วย
นั่นทำให้สถานการณ์ในตลาดอาวุธเปลี่ยนไปมา
อย่างรวดเร็ว ความนิยมวันหนึ่ง อาจเปลี่ยนไปได้ในวันรุ่งขึ้น
เมื่อมีผลงานใหม่ๆ ของอาวุธบางชนิดมาเป็นตัวเร้า
อาวุธตะวันตก ดูจะได้เปรียบ ในสถานการณ์แบบนี้
เนื่องจากความเสถียร ที่มีมากกว่าอาวุธค่ายอื่น
แถมมีมาตรฐานร่วมกัน ใช้ด้วยกันได้ง่าย
(มาตรฐาน NATO)
ซึ่งไอ้มาตรฐาน NATO นี่ ก็พาให้อาวุธค่ายเอเชีย
ที่เป็นพันธมิตร NATO อย่างเกาหลีใต้ ได้รับประโยชน์ไปด้วย
สำหรับตะวันตก อาวุธพวกเขา ไม่จำเป็นต้องได้รับการพิสูจน์
อะไรอีกแล้ว ในสมรภูมิ มันคือที่สุคของความเสถียร
การซัพพอร์ตในระยะยาว และการใช้งานร่วมทั้งระบบ
ซึ่งไทยนี่เอง คือผู้พิสูจน์มันได้ดีกว่าใคร
อาวุธ ไม่ใช่สินค้าราคาถูก มันจึงต้องใช้ได้ยาวนาน
มีประสิทธิภาพ อัพเกรดได้เรื่อยๆ มันถึงจะคุ้มค่า
แน่นอน ความไฮเทค เป็นเรื่องสำคัญ
แต่ในสมรภูมิจริง เสถียรภาพของระบบอาวุธทั้งระบบ
ไล่ไปด้านหลัง ได้จนถึงการผลิตอะไหล่มาป้อนต่างหาก
จึงเป็นเรื่องสำคัญที่สุด
ไม่มีประโยชน์ ถ้าของที่ไฮเทค จะใช้แป๊ปเดียวแล้วเจ๊ง
หรือติดขัด ใช้แล้วตูมตามใส่ตัวเอง
สำหรับจีน พวกเขาขายอาวุธไม่ต่างกับสินค้าอื่นๆ
ของพวกเขา ที่เน้นลูกเล่น เน้นทันสมัย
โดยมีจุดขายว่า คนซื้อได้ของไฮเทคได้ในราคาที่ถูก
ซึ่งบางครั้ง มันเป็นไปไม่ได้ ที่จะขายแบบนั้นได้
เนื่องจากงานระดับวัสดุ จีนเองก็ไม่สามารถควบคุม
ได้ ทั้งในแง่ราคา และเวลาการผลิต
เวลาการผลิตนี่แหละ คือข้อสังเกตมาก ว่าทำให้อาวุธจีน
มีปัญหามาก จนไม่น่าเชื่อถือ พวกเขาทำมันได้เร็วเกินไป
นักวิเคราะห์ตะวันตกบางรายถึงกับขำ
เพราะมันขัดกับข้อมูลทางวิศวกรรม
เราต้องเข้าใจว่า อาวุธสมัยใหม่ส่วนมาก
มันไม่ใช่แค่เหล็ก อลูมิเนียม แบบสมัยก่อน
แต่มันคือวัสดุผสม สังเคราะห์ ซึ่งการทำมันไม่มีทางลัด
มันมีเงื่อนไขทางเวลา ที่ค่อนข้างตายตัว
เปรียบเทียบก็เหมือน คอนกรีตต้องมีระยะเวลาเซทตัว
เท่าไหร่ เพื่อให้ได้ความแข็งแรงตามตัองการ มันไม่มีทางลัด
และที่จริง จีนเองก็ยังถือว่ามีจุดอ่อนด้านวัสดุศาสตร์อยู่มาก
ซึ่งไม่ใช่พวกเขาไม่ยอมรับนะ อย่างกรณี J-10
พวกเขาคอนเฟิร์มสเปก ใช้งานต่อเนื่องที่ 1,000 ชั่วโมง
ในขณะที่ของสหรัฐอย่าง F-16 ซึ่งเก่ากว่ามาก กลับ
คอนเฟิร์มไว้สูงถึง 2,500 ชั่วโมง ซึ่งนี่คือผลจากความสามารถ
ด้านวัสดุศาสตร์ที่เหนือกว่า ล้วนๆ ของค่ายตะวันตก
จีนจึงยังเป็นผู้ไล่ตามในเกมส์นี้ อีกค่อนข้างไกล
แม้เทคโนโลยีที่หวือหวา ขายความไฮเทค เล่นข่าวเก่ง
อาจทำให้พวกเขาดูดีบนกระดาษก็ตาม
…หากจีน อยากประสบความสำเร็จในการขยายตลาดอาวุธ
ให้มากกว่านี้ ในระดับที่ทันเพื่อนอย่างรัสเซียในอดีต…
…พวกเขา อาจต้องเปลี่ยนหลักคิดในการขายเสียที….
…อาวุธ คือของละเอียดอ่อน ใช้เทคโนโลยีชั้นสูงเพื่อความแม่นยำ ทนทาน เมื่อต้องห้ามพลาด….
…ของดีราคาถูก ได้เร็วเวอร์ๆ มันจึงไม่มีจริง….
แต่มันก็น่าขำดีนะ….
ไอโอกองทัพนี่ เชียร์จีน รัสเซียหนักมากมาหลายปี
และเชียร์ให้ซื้ออาวุธจีนแทนสหรัฐมาตลอด
ไอ้ติ่งอำนาจนิยม ที่รับลูกมาเล่นต่อ ก็คิดแบบนั้น
ดัอยค่าอาวุธตะวันตกกันทุกวัน จากเหตุการณ์ทุกสมรภูมิ
…แต่พอถึงเวลาต้องรบจริงๆ…
…ก็ใช้อาวุธตะวันตกเพื่อปกป้องบ้านเมือง แล้วก็เฮกัน….
…มันย้อนแย้งดีไหมล่ะ 😁😁😁….
อ้างอิง
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
