2 ชั่วโมงที่แล้ว • สุขภาพ

เป็นไข้เลือดออกแต่ไม่ป่วย มันเกิดอะไรขึ้น

ใครเคยเป็นไข้เลือดออกบ้างครับ ยกมือขึ้นหน่อย... ผมเชื่อว่าประสบการณ์นั้นคงไม่น่าจดจำเท่าไหร่ ทั้งไข้สูงปรี๊ด ปวดกระดูกเหมือนร่างจะแตก หรือต้องนอนโรงพยาบาลเป็นอาทิตย์
แต่เชื่อไหมครับว่า ในโลกนี้มีคนกลุ่มหนึ่งที่ผมขอเรียกว่ามนุษย์หนังเหนียวครับ คนกลุ่มนี้โดนยุงลายกัด ได้รับเชื้อไวรัสไข้เลือดออกเต็มๆ แต่กลับ ไม่ป่วย ไม่มีไข้ ไม่ปวดหัว เดินปร๋อเหมือนคนปกติ จนเจ้าตัวยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าติดเชื้อไปแล้ว ซะอย่างนั้น
วันนี้ผมจะพามาเจาะลึกงานวิจัยระดับโลกฝีมือคนไทย (มหาวิทยาลัยมหิดล) ที่เพิ่งตีพิมพ์สดๆ ร้อนๆ ในวารสาร Science Translational Medicine งานวิจัยนี้กำลังจะไขปริศนาว่า ทำไมคนบางคนถึงติดเชื้อแล้วไม่ป่วย และความลับนี้อาจจะเป็นกุญแจสำคัญที่จะทำให้เราสร้างวัคซีนในฝันได้สำเร็จครับ
ตามล่าหา "เงา"
ในทางการแพทย์ เราเรียกภาวะนี้ว่า Asymptomatic Dengue หรือการติดเชื้อแบบไม่แสดงอาการครับ เปรียบเสมือนนินจาที่แอบย่องเข้าบ้าน แต่โดนเจ้าของบ้านจับโยนออกมาเงียบๆ โดยที่ข้าวของในบ้านไม่เสียหาย
ปัญหาก็คือ... แล้วเราจะศึกษาคนกลุ่มนี้ได้ยังไง? ในเมื่อเขาไม่ป่วย เขาก็ไม่มาโรงพยาบาล จริงไหมครับ นี่แหละครับคือความท้าทายสุดหิน
ทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมกับ Wellcome Sanger Institute จากอังกฤษ และเครือข่ายนานาชาติ ได้ทำสิ่งที่น่าทึ่งมากครับ พวกเขาใช้วิธีเฝ้าระวังระดับครัวเรือน คือพอมีใครสักคนในบ้านป่วยเป็นไข้เลือดออก ทีมวิจัยจะรีบเข้าไปติดตามคนในบ้านที่เหลือทันที เพราะมีโอกาสสูงที่คนเหล่านั้นจะโดนยุงตัวเดียวกันกัด
พวกเขาใช้เวลาถึง 5 ปี ในการตามล่าหาเคสเหล่านี้ และเชื่อไหมครับ จากการเฝ้าระวังอย่างเข้มข้น พวกเขาจับเคสที่ติดเชื้อแต่ไม่แสดงอาการ แบบจังๆ ในขณะที่ไวรัสยังอยู่ในเลือดได้เพียง 8 ราย เท่านั้น (หายากยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทรอีกครับ) แต่ 8 รายนี้แหละ คือขุมทรัพย์ทางความรู้ที่ประเมินค่าไม่ได้
ความลับของระบบภูมิคุ้มกัน
ทีมนักวิจัยได้ใช้เทคโนโลยีสุดล้ำที่เรียกว่า Single-cell RNA sequencing (การถอดรหัสพันธุกรรมระดับเซลล์เดียว) มาสแกนดูเซลล์เม็ดเลือดขาวกว่า 134,000 เซลล์ เพื่อดูว่าคนที่ไม่ป่วย เขามีอะไรดีที่ต่างจากคนที่ป่วยหนัก
และผลลัพธ์ก็น่าตื่นเต้นมากครับ
1. คนที่ป่วย (Symptomatic)
ร่างกายของคนที่ป่วยหนัก เปรียบเสมือนการทำสงครามที่รุนแรงเกินเหตุครับ เมื่อเจอไวรัส ระบบภูมิคุ้มกันจะระดมยิงถล่มจนเกิดภาวะอักเสบมหาศาล เหมือนจะกำจัดหนูตัวเดียว แต่เผาบ้านวอดวายทั้งหลัง ทำให้เกิดอาการไข้สูง เลือดออก และอวัยวะเสียหาย
2. คนที่ไม่ป่วย (Asymptomatic - พระเอกของเรา)
คนกลุ่มนี้มีระบบภูมิคุ้มกันที่ทำงานเฉียบคมและใจเย็นกว่ามากครับ สิ่งที่พบคือ
- CD8 T Cells เม็ดเลือดขาวชนิดนี้ทำงานได้ดีเยี่ยม ทำหน้าที่เหมือนหน่วยซีลที่เข้าไปจัดการกำจัดไวรัสเงียบๆ แต่เด็ดขาด
- Natural Killer Cells หน่วยรบพิเศษที่ช่วยเสริมทัพ
- IgA Antibody มีการสร้างแอนติบอดีชนิดพิเศษนี้ขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
สรุปง่ายๆ คือ คนที่ไม่ป่วย ร่างกายสามารถกำจัดไวรัสได้โดย ไม่กระตุ้นให้เกิดการอักเสบครับ จัดการศัตรูจบ โดยที่ร่างกายไม่บอบช้ำเลย
ปฏิวัติวงการวัคซีน
"แล้วเรื่องนี้เกี่ยวกับเรายังไงครับคุณเภสัช?" นั่นน่ะสิๆ
เกี่ยวเต็มๆ ครับ เพราะปัจจุบัน วัคซีนไข้เลือดออกที่เรามี แม้จะดีขึ้นมากแล้ว แต่ก็ยังมีความท้าทายอยู่ บางครั้งการกระตุ้นภูมิคุ้มกันแบบเดิมๆ อาจไปคล้ายกับกลไกของคนที่ป่วย (ที่มีการอักเสบ) หรือป้องกันไวรัสได้ไม่ครบทุกสายพันธุ์
งานวิจัยนี้กำลังบอกเราว่า ถ้าอยากสร้างวัคซีนที่ดีที่สุด อย่าไปเลียนแบบภูมิคุ้มกันของคนที่หายป่วย แต่ให้เลียนแบบภูมิคุ้มกันของคนที่ไม่เคยป่วยเลยต่างหาก โห กลับความคิดกันเลยทีเดียวครับ
แนวทางการพัฒนาวัคซีนในอนาคตจึงเปลี่ยนไปครับ
จากเดิมที่เน้นแค่สร้างแอนติบอดี (Antibody) มาดักจับไวรัส
เราต้องหันมาเน้นกระตุ้น T Cells (โดยเฉพาะ CD8) ให้เก่งขึ้น เพื่อให้ร่างกายเรียนรู้วิธีกำจัดไวรัสแบบนินจา คือเงียบ เชียบ และไม่ทำลายตัวเอง
ผมอ่านงานวิจัยชิ้นนี้แล้วรู้สึกภูมิใจแทนคนไทยจริงๆ ครับ เพราะนี่คือผลงานจากมหาวิทยาลัยมหิดลที่ได้รับการยอมรับในระดับโลก และมันอาจจะเปลี่ยนหน้าประวัติศาสตร์การต่อสู้กับไข้เลือดออกไปตลอดกาลก็ได้ครับ
แต่ระหว่างที่เรากำลังรอวัคซีนเทพรุ่นใหม่ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต... ปัจจุบันไข้เลือดออกยังคงระบาดหนักขึ้นทุกปีจากภาวะโลกรวน นะครับ
ในฐานะเภสัชกร ผมขอฝากคาถาป้องกันตัวง่ายๆ ไว้ก่อนครับ
1. อย่าให้ยุงกัด ทายากันยุง นอนกางมุ้ง ติดมุ้งลวด
2. ทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ น้ำขังในจานรองกระถาง ยางรถยนต์ จัดการให้เรียบ
3. สังเกตอาการ ถ้ามีไข้สูงลอย กินยาพาราเซตามอลแล้วไม่ลง ปวดกระบอกตา ปวดเมื่อยตัว ห้ามกินยาแอสไพรินหรือไอบูโพรเฟนเด็ดขาด (เพราะจะทำให้เลือดออกง่าย) และรีบไปพบแพทย์นะครับ
วิทยาศาสตร์กำลังก้าวหน้าเพื่อปกป้องพวกเรา แต่การดูแลตัวเองเบื้องต้น ก็ยังเป็นเกราะป้องกันที่ดีที่สุดเสมอครับ
ด้วยความปรารถนาดีครับ
เอกสารอ้างอิง:
1. Sungnak, W., et al. (2025). Distinct systemic immune responses in asymptomatic and symptomatic dengue virus infection. Science Translational Medicine. DOI: 10.1126/scitranslmed.ads5932
2. Mahidol University. (2025, December 18). Silent dengue infections may hold clues to future vaccine design. Medical Xpress. Retrieved from https://medicalxpress.com/news/2025-12-silent-dengue-infections-clues-future.html
โฆษณา