19 ธ.ค. เวลา 14:11 • ธุรกิจ

🛑 องค์กรที่กำลังเป็น “อัมพาต” ไม่ได้ป่วยเป็นข้อๆ แต่ป่วยเป็นระบบ

ทำไมหลายธุรกิจอาจไปไม่ถึงปี 2026 ทั้งที่มีคนเก่ง กลยุทธ์ดี เทคโนโลยีพร้อม และ AI ก็ช่วยไม่ได้ถ้าโครงสร้างยังช้า?
* ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เราจะเห็นภาพที่คุ้นตาในองค์กรจำนวนมาก ผู้บริหารลงทุนอย่างจริงจังกับ Strategy, Digital Transformation และ AI มีการนำเสนอแผนงานที่ดูทันสมัย เต็มไปด้วยคำว่า Data, Automation และ Platform
* แต่เมื่อมองลึกลงไปในชีวิตการทำงานจริง กลับพบว่าองค์กรจำนวนไม่น้อย “ขยับตัวได้ช้าลง” เหนื่อยขึ้น และใช้เวลาตัดสินใจนานกว่ายุคก่อนเสียอีก
สิ่งที่น่าคิดคือ ปัญหานี้ไม่ได้เกิดจากคนไม่เก่ง หรือเทคโนโลยีไม่ดี หากเกิดจากสิ่งที่มักไม่ถูกพูดถึงในห้องประชุมบอร์ด นั่นคือ “โครงสร้างองค์กร”
* โครงสร้างองค์กรไม่ใช่แค่ผังกล่องใน Org Chart หรือการจัดตำแหน่งงาน แต่คือ วิธีที่งาน อำนาจ และข้อมูลไหลผ่านองค์กรในแต่ละวัน มันคือระบบเบื้องหลังที่กำหนดว่า ใครตัดสินใจได้เร็วแค่ไหน ใครต้องรอใคร และข้อมูลสำคัญถูกส่งไปถึงคนที่ควรใช้จริงหรือไม่
* เมื่อโครงสร้างถูกออกแบบมาไม่สอดคล้องกับความเร็วของโลก องค์กรจะไม่พังในทันที แต่จะค่อยๆ เข้าสู่ภาวะที่เรียกว่า “อัมพาต” คือ ยังดูทำงานอยู่ ยังมีประชุม ยังมีรายงาน แต่ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างคล่องตัวเหมือนที่ควรจะเป็น
แทนที่จะมององค์กรป่วยเป็นอาการย่อยๆ แบบแยกส่วน บทความนี้อยากชวนผู้อ่านมองในระดับระบบว่า องค์กรที่กำลังเป็นอัมพาต มักติดอยู่ใน 3 โหมดใหญ่ ซึ่งยิ่งปล่อยไว้นาน ยิ่งฉุดรั้งความสามารถในการแข่งขัน และอาจพาธุรกิจออกนอกเส้นทางก่อนจะถึงปี 2026
====
1. ระบบตัดสินใจล้มเหลว (Decision System Failure)
* องค์กรจำนวนมากไม่ได้ตัดสินใจช้าเพราะรอบคอบ แต่ช้าเพราะ ไม่มีใครรู้ชัดว่าใครควรตัดสินใจเรื่องอะไร? และใครควรรับผิดชอบผลลัพธ์ของการตัดสินใจนั้น?
* ภาพที่พบได้บ่อยคือ “เรื่องเล็กถูกทำให้กลายเป็นเรื่องใหญ่ ทุกประเด็นต้องถูกยกขึ้นประชุม ต้องรอการอนุมัติจากหลายชั้น และสุดท้ายทุกคนเลือกทางที่ปลอดภัยที่สุดคือการ โยนเรื่องขึ้นข้างบน (Escalate) เพื่อป้องกันความเสี่ยงของตัวเอง”
นี่ไม่ใช่วัฒนธรรมความรอบคอบ แต่คือสัญญาณของโครงสร้างที่ไม่กล้ากระจายอำนาจ เมื่อการตัดสินใจไม่มี “เจ้าของ” ที่ชัดเจน ความรับผิดชอบก็จะเลือนหาย และองค์กรทั้งองค์กรจะเคลื่อนที่ด้วยความเร็วเท่ากับคนที่ตัดสินใจช้าที่สุดเสมอ
ในโลกที่การแข่งขันวัดกันเป็นสัปดาห์ หรือบางอุตสาหกรรมวัดกันเป็นวัน โครงสร้างแบบนี้ไม่ใช่แค่ไม่ทันคู่แข่ง แต่กำลังบั่นทอนโอกาสทางธุรกิจโดยไม่รู้ตัว
====
2. ยุ่งทั้งองค์กร แต่ไม่ไปไหน (Execution without Direction)
* หนึ่งในภาพลวงตาที่อันตรายที่สุดขององค์กรยุคใหม่ คือการเข้าใจว่า “ความยุ่ง = ความก้าวหน้า”
* ปฏิทินของผู้บริหารทุกระดับ และพนักงานเต็มไปด้วยการประชุม รายงานถูกผลิตออกมาอย่างต่อเนื่อง ระบบติดตามงานถูกตั้งค่าอย่างละเอียด แต่เมื่อมองผลลัพธ์ปลายทาง กลับพบว่ายอดขายไม่เติบโต ลูกค้าไม่พอใจ และนวัตกรรมไม่เกิดขึ้นจริง
นี่คืออาการคลาสสิกของโครงสร้างแบบ Silo ที่แต่ละฝ่ายทำงานหนักในขอบเขตของตนเอง แต่ไม่มีใครรับผิดชอบภาพรวมของผลลัพธ์ โครงสร้างที่ซับซ้อนเกินไปทำให้คนใช้พลังไปกับการประสานงาน การอธิบายซ้ำ และการปกป้องขอบเขตของตนเอง แทนที่จะใช้พลังไปกับการสร้างคุณค่าใหม่ให้ธุรกิจ
องค์กรที่ดีไม่ควรทำให้คน “งานล้น” แต่ควรทำให้ทุกคนเห็นชัดว่า งานของตนเชื่อมโยงกับเป้าหมายและผลลัพธ์อะไร? หากโครงสร้างไม่เอื้อให้เห็นภาพรวม ความยุ่งจะกลายเป็นกับดักที่ทำให้องค์กรช้าลงอย่างเป็นระบบ
====
3. ระบบที่ฆ่าคนทำงานโดยเฉพาะคนเก่งแบบเงียบๆ (Talent Drain by Design)
* สัญญาณที่น่ากลัวที่สุดขององค์กรที่กำลังเป็นอัมพาต ไม่ใช่เสียงบ่น แต่คือ “ความเงียบ”
* เมื่อคนเก่งเริ่มไม่เสนอความเห็น ไม่ตั้งคำถาม และเลือกทำตามคำสั่งเพียงอย่างเดียว นั่นไม่ใช่เพราะเขาหมดไฟ แต่เพราะเขาเรียนรู้แล้วว่า “พูดไปก็ไม่เปลี่ยนอะไร?” โครงสร้างที่แข็งตัวเกินไปจะค่อยๆ สอนให้คนเก่งลดความคาดหวังกับองค์กรลงทีละน้อย
ผลที่ตามมาคือ คนใหม่เข้ามาแล้วหลงทาง ใช้เวลานานกว่าจะทำงานได้จริง คนเก่าทำงานนานขึ้นแต่เหนื่อยขึ้น ขณะที่ผู้นำต้องกลายเป็นคอขวดที่ต้องตอบทุกคำถาม แก้ทุกปัญหา และตัดสินใจแทบทุกเรื่อง
ในระยะยาว องค์กรอาจยังมีคนอยู่ครบ แต่ ศักยภาพ ความคิดสร้างสรรค์ และพลังในการขับเคลื่อนจะค่อยๆ ไหลออกไปอย่างเงียบๆ โดยที่ตัวเลขทางการเงินอาจยังไม่สะท้อนทันที
====
แล้วควรทำอย่างไร ในวันที่ AI เร็วกว่าคน แต่โครงสร้างยังช้ากว่าความจริง?
คำตอบไม่ใช่การเพิ่มกฎระเบียบ ไม่ใช่การตั้งคณะทำงานใหม่ และไม่ใช่การเพิ่มจำนวนการประชุม แต่คือการกลับมาตั้งคำถามเชิงโครงสร้างอย่างจริงจัง เช่น
* การตัดสินใจเรื่องใด ควรถูกผลักไปอยู่ระดับไหน เพื่อให้เร็วและใกล้หน้างานมากที่สุด?
* โครงสร้างเอื้อให้คนรับผิดชอบ “ผลลัพธ์” หรือแค่รับผิดชอบ “กระบวนการ”?
* ผู้นำกำลังทำหน้าที่นำทางองค์กร หรือกำลังกลายเป็นคอขวดของระบบโดยไม่รู้ตัว?
“โครงสร้างที่ดีไม่ได้ทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้น แต่ทำให้ สิ่งที่ควรยาก อยู่ในที่ที่ควรยาก และทำให้สิ่งที่ควรเร็ว ไม่ถูกถ่วงด้วยระบบที่ล้าสมัย”
* เพราะต่อให้ AI คิดคำตอบได้ในเสี้ยววินาที หากโครงสร้างยังต้องรออนุมัติเป็นสัปดาห์ คำตอบที่ดีที่สุดก็ไม่มีวันถูกนำไปใช้
* องค์กรที่รอดปี 2026 จึงไม่จำเป็นต้องเป็นองค์กรที่ฉลาดที่สุด หรือมี AI เก่งที่สุด แต่ต้องเป็นองค์กรที่ ออกแบบการตัดสินใจและการเคลื่อนไหวได้เร็วที่สุด และสอดคล้องกับความเป็นจริงของโลก
เพราะในโลกธุรกิจยุคใหม่ “ปลาเร็วกินปลาช้า” และไม่มีปลาตัวไหนว่ายน้ำได้เร็ว หากกระดูกสันหลังของมันบิดเบี้ยวตั้งแต่แรก
#วันละเรื่องสองเรื่อง
#OrganizationalDesign
#BusinessTransformation
#Leadership
#Management2026
โฆษณา