8 ชั่วโมงที่แล้ว • ข่าว

เกร็ดเล็กๆจากชายแดน เผื่อใครอยากรู้ ….

วันหยุดมาเสนอเกร็ดข้อมูลชายแดนเราแบบเบาๆมั่งดีกว่า
ไม่ซีเรียส ไม่วิจารณ์อะไร
เป็นข้อมูลบางอย่าง ที่หลายคนอาจสงสัย
และอยากรู้ เท่านั้นเอง ….
…เริ่มเลยดีกว่า….
1) ทำไมรอบนี้ F-16
อันนี้มีคนถามกันเยอะ เพราะรอบที่แล้วเราเปิดตัว Gripen
จนเป็นข่าวดังไปทั่วโลก ในฐานะชาติแรก ที่เอาลงสนามจริง
ซึ่งมันก็ใช้ได้อย่างยอดเยี่ยม มีประสิทธิภาพ
ค่าบินรายชั่วโมงก็ถูกกว่า
(กริพเพนคิดรายชั่วโมง ประมาณ 3 แสนเศษ ไม่รวมค่าอาวุธ
แต่ F-16 จะราวๆ 7-9 แสนบาท ต่อชั่วโมง)
หลายคนเลยสงสัย ว่าแล้วทำไม รอบนี้ ทอ. ไทย
ถึงกลับมาใช้ปู่ F-16 ไม่ใช้ของใหม่ๆ อย่าง Gripen
ตอบ….
เนื่องจากรอบนี้ F-16 มีความเหมาะสมกว่ากับภารกิจ
คือการทิ้งระเบิดที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่กว่าครั้งที่แล้วมาก
และจากรอบเดือนกรกฎาคม เราก็พบว่า เขมรไม่มีศักยภาพ
ในการต่อต้านทางอากาศเลย ในเขตปะทะ เนื่องจาก
ระบบป้องกันภัยทางอากาศ ที่ขอทานจีนมา
มันถูกติดตั้งไว้ที่สนามบินทางทหารในพนมเปญ
…ซึ่งก็ไม่รู้เหมือนกัน ว่าเอาไว้ตรงนั้นทำไม เพราะไม่มี
เครื่องบิน ให้ต้องป้องกันเลยสักลำ 555….
กับอีกหลายชุด ที่จีนตั้งไว้เพื่อใช้เองมากกว่า ที่ท่าเรือเรียม
ดังนั้นมันจึงไม่มีความจำเป็นอะไร ที่จะต้องใช้กริพเพน
ซึ่งมีจุดเด่นด้านการทำสงครามอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อหลบเลี่ยง
ระบบป้องกัน และมีจุดเด่นที่การต่อตีบนฟ้าเลย
ทอ. ก็เลยเลือกใช้ F-16 ที่บรรทุกหนักได้ดีกว่าในรอบนี้
และแม้จะมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าต่อรอบ
แต่เพราะ F-16 โหลดน้ำหนักได้มากกว่า
จึงใช้จำนวนรอบที่น้อยกว่า Gripen
ซึ่งกลายเป็นว่า เมื่อถัวเฉลี่ยค่าใช้จ่ายในปฏิบัติการภาพรวม
ทั้งหมดแล้ว การใช้ F-16 จึงประหยัดกว่า Gripen นั่นเอง
…นี่แหละ คือสาเหตุว่าทำไม รอบนี้ Gripen ต้องหลีกทาง
ให้คุณปู่ F-16 โชว์ความเก๋านั่นเอง ….
2) ทำไมเขมรไม่ใช้ทีเด็ด PHL-03
หลายคนสงสัยว่า ที่รบกันอยู่นี่ เขมรใส่สุดรึยัง
อันนี้ต้องบอกว่าไม่นะครับ อาจใช้ไม่ถึง 50% ของพวกเขา
เสียด้วยซ้ำไป เนื่องจากมันไม่ใช่สงครามเต็มรูปแบบ
ก็เช่นเดียวกับไทย ที่ก็ใส่ประมาณ 50% เหมือนกัน
เนื่องจากถ้าดูที่ของเด็ด ของแรงจาก ทร. แล้ว เรายังไม่ได้
ลั่นออกแม้แต่ลูกเดียว
….ซึ่งก็ดีแล้ว เดี๋ยวมันจะดูโหดเกินไป
อธิบายกับชาวโลกเขายากอีก กลายเป็นรังแกชาติเล็กเกินเหตุ
ถามต่อว่า อ้าว เขมรโดนขนาดนี้แล้ว ทำไมยังต้องกั๊ก
ไม่อยากเอาคืนบ้างเหรอ
คำตอบคือ อยากเอาคืนแน่ๆแหละ และมีศักยภาพจะทำได้ด้วย
เพราะทีเด็ดที่จีนทิ้งไว้ให้ คือ PL 03 นั้น สามารถสร้างความ
วายวอดให้ไทยได้แน่ๆ แบบเกือบ 100% ด้วย
ด้วยพิสัยของมัน ที่ไกลถึง 130-150 กิโลเมตร มันสามารถโจมตีฐานทัพ หรือเขตเศรษฐกิจสำคัญไทยได้หลายจุด
ทั้งในภาคอีสานใต้ และตะวันออก
จรวดพวกนี้ คือขีปนาวุธพิสัยใกล้ ที่มาในรูปแบบของจรวด
หลายลำกล้อง มันบินต่ำ สกัดยาก ก็คล้ายๆกับ ATACMS
ของสหรัฐนั่นแหละ เพียงแต่พิสัยสั้นกว่า
เชื่อกันว่า ถ้าเขมรยิงจริงๆ ไทยก็ไม่น่าสกัดได้
เนื่องจากระบบต่อต้านของเรา ไม่น่าจะรองรับ
(แต่อาจได้ก็ได้นะ มันเป็นความลับอยู่แล้ว)
แต่ที่เขมรไม่ยิง ก็เพราะมันอาจทำให้เขาเจ็บตัวหนักกว่าเดิม
มากกว่าเหตุผลอื่น…
เนื่องจากตามกฎหมายระหว่างประเทศแล้ว
หากไม่ใช่การประกาศสงครามเต็มรูปแบบแล้ว
การตอบโต้กันของทั้งสองฝ่าย จะต้องทำในแนวปะทะ
แล้วแนวปะทะคืออะไรล่ะ ?
แนวปะทะที่อธิบายได้ง่ายที่สุด คือแนวระยะของ
พื้นที่ ที่มีส่วนกับการรบ โดยนับจากพื้นที่พิพาทหลัก
ก็คล้ายๆ กับที่สหรัฐเคยบอกยูเครนว่า
เฮ้ย เอ็งต้องใช้อาวุธข้า ในบริเวณดอนบาสเท่านั้นนะ
ห้ามยิงล้ำไปในรัสเซีย อะไรทำนองนั้น
และมีส่วนในการรบ ก็หมายรวมถึง พิสัยสูงสุดของอาวุธ
ของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง สามารถทำได้ต่อสมรภูมิหลักด้วย
จึงหมายความว่า ถ้ากัมพูชาใช้ PL 03 ซึ่งมีพิสัย 150
กิโลเมตร ไทยก็จะต้องนับพื้นที่แนวปะทะ
เพิ่มโดยนับไปจากจุดพิพาทหลักทางบก ซึ่งตอนนี้ก็มี
หลายจุด บวกเข้าไปอีก 150 กิโลเมตร
ซึ่งนั่น ถึงพนมเปญ และสีหนุวิลล์ ทางตราดครับ !
ก็คือ ถ้ากัมพูชาใช้ PL 03 ขึ้นมาจริงๆ
ก็เท่ากับไทยจะมีความชอบธรรมทันทีในการที่จะ
ถล่มหรือกระทั่งบุกยึดพนมเปญ สีหนุวิลล์
หรือก็คือ กลายเป็นสงครามเต็มรูปแบบนั่นเอง
แน่นอน ด้วยศักยภาพที่ต่างกันไม่เห็นฝุ่น
จึงทำให้ฮุนเซนไม่กล้าใช้มัน ให้เจ็บตัวขึ้นอย่างแน่นอน
มีบางกระแสบอกว่า เพราะจีนล็อกรหัส
อันนี้เท่าที่อ่านๆ มา อาวุธประเภทนี้ ไม่มีการล็อกรหัสครับ
เนื่องจากนับเป็นจรวดหลายลำกล้อง ไม่ใช่ขีปนาวุธ
โดยอิงจากข้อมูลของกองทัพปากีสถาน ซึ่งมีใช้เหมือนกัน
ข้อมูลว่าจีนล็อกรหัส น่าจะมาจากพวก little pink
หรือ ติ่งจีน เสี่ยวเฟินหงภาคสมัครใจชาวไทยเอง
ที่พยายามแก้ตัวให้กับจีน ทุกเรื่อง
ส่วนนี้แก้ต่างให้กรณีส่งอาวุธให้เขมรใช้เสียมากกว่า
ความจริงคือกัมพูชาใช้มันได้แต่ไม่กล้าใช้
เพราะนั่นเสี่ยงโดนถล่มแบบจัดหนัก ในระดับสิ้นชาติได้
แล้วผมก็เขื่อด้วย ว่าจีนรู้ดีถึงเรื่องนี้ พวกเขาจึงไม่มีความจำเป็นต้องล็อกรหัส แม้จะทำได้หรือไม่ก็ตาม
…ระดับจีน มีเหรอ จะไม่รู้สันดาน และความรักตัวกลัวตาย
ของจิ้งจอกเฒ่าแซ่ฮุน พวกเขาอาจเปิดทางให้ใช้ด้วยซ้ำ
เผื่อหน้ามืดขึ้นมา จะได้กำจัดฮุนเซน ดันเตียบัญได้สมใจ 555
ในทางกลับกัน…
ที่จริงถ้านับแนวปะทะ ที่เขมรสามารถอ้างความชอบธรรม
ที่จะโจมตีเราได้ ….กรณีถ้ามีปัญญานะ
มันถึงกรุงเทพเลยนะครับ เพราะอาวุธหลักของเราคือเครื่องบิน
ซึ่งนับตามพิสัยรวมอาวุธแล้ว มันมากกว่า 1000 กิโลเมตร
ความจริงทางกฎหมายระหว่างประเทศ เขมรมีความชอบธรรม
ในการโจมตีจุดใดก็ได้ของไทย เพราะไทยเองมีสนามบินอยู่ทั่ว
ซึ่งนับได้เป็นพื้นที่ปะทะ ที่มีผลต่อสมรภูมิหลักได้
…แต่ก็นั่นแหละ พวกเขาไม่มีปัญญาโจมตีไง….
…จึงต้องรับสภาพ ปิดประตูตีแมว อย่างที่เห็นกัน….
3 แล้วพื้นที่ที่ยึดได้ตอนนี้ เป็นของไทยแล้วหรือไม่?
คำตอบแบบง่ายๆ เลย คือ “ไม่” ครับ
แต่ไม่ มันก็มีข้อแม้นะ
คือ มันไม่มีผลต่อการเพิ่มหรือลดขนาดดินแดน
หากว่าตามกฎหมายระหว่างประเทศ ที่ไม่ยอมรับ
การเปลี่ยนแปลงดินแดนด้วยกำลังทหาร
พื้นที่พิพาท จะยังเป็นพื้นที่พิพาทต่อไป จนกว่าจะมีการ
ปักปัน ที่เป็นที่ยอมรับได้ทั้งสองฝ่ายขัดแย้งเป็นหนังสือสัญญา
แต่การยึดครองไว้ ที่ไทยหวัง น่าจะเป็นการเพิ่มพื้นที่
ที่อยู่ในความควบคุมก่อน เพื่อไม่ให้เกิดการล้ำดินแดน
ซ่องสุมกำลัง หรือวางทุ่นระเบิดอีก
พูดง่าย คือบางจุดที่ไปยึดคืนมา ก่อนหน้านี้เขมรมันครองอยู่
มันก็เอาอาวุธมาซ่อน มาวางทุ่นระเบิดได้ แม้จะไม่ใช่เขตมัน
แต่เมื่อเราเข้าไปควบคุมพื้นที่แล้ว มันก็ทำแบบนั้นไม่ได้อีกแล้ว
นี่แหละคือสิ่งที่เป็นเป้าหมายของกองทัพ แม้จะเปลี่ยนสถานะ
พื้นที่พิพาท เป็นเขตแดนถาวรไม่ได้ก็ตาม แต่เราก็ดูแลได้ง่าย
ซึ่งสิทธิตรงนี้ จะเป็นยังไง ก็ต้องว่ากันบนโต๊ะเจรจาอีกขั้น
เมื่อถึงขั้นตอนของการเจรจาหยุดยิง
แต่ตามธรรมเนียมที่ผ่านๆมา ที่เกิดขึ้นในต่างประเทศ
เมื่อหยุดยิง ฝ่ายครองพื้นที่ก่อนหยุด มักจะได้สิทธิ์ควบคุม
กรณีที่เรารู้จักกันดี และถูกอ้างอิงทั่วโลก
ก็คือกรณีของ ที่ราบสูงโกลัน ที่อิสราเอลยึดไว้นั่นเอง
…ซึ่งถึงตรงนี้ มีโอกาสสูงมาก ที่ไทยจะได้สิทธิ์ควบคุม
ไปจนกว่าการปักปันเขตแดนจะเสร็จสิ้น ซึ่งก็ไม่รู้เมื่อไหร่
บางทีมันอาจหมายถึงตลอดไปก็ได้…
แต่ถึงแบบนั้น การควบคุมลักษณะนี้ ไทยก็ไม่มีสิทธิ์
ใช้ประโยชน์พื้นที่แต่อย่างใด ยิ่งถ้าเจอทรัพยากรก็ยิ่งหมดสิทธิ์
ที่จะนำมาใช้งาน สุดท้ายก็ต้องไปว่ากันในเวทีระหว่างประเทศ
กันอีกยาวอยู่ดี….
ดังนั้น การยึดพื้นที่ของทหารไทยครั้งนี้ จึงไม่มีผล
ด้านเขตแดน หรือเปลี่ยนแปลงแผนที่ประเทศไทย
หรือการทวงคืนแหล่งทรัพยากรได้ อย่างที่บางฝ่ายพยายาม
ปั่นกระแสทวงโน่นนี่ไปจนเวอร์
สิ่งที่ไทยจะได้จริงๆจากเรื่องนี้ ก็คือ การป้องกันไม่ให้เขมร
ก่อปัญหาได้อีก และอาจดูแลเรื่องของเถื่อน สแกเมอร์
หรือการค้ามนุษย์ ได้ด้วยอำนาจรัฐไทยเอง
…เราอาจแก้ปัญหาพวกนี้ได้เป็นการถาวร ถ้าว่ากันตาม
หลักการน่ะนะ….
แต่ในทางปฏิบัติ ถ้าคนดูแลของเราเองงี่เง่า มีผลประโยชน์
ทับซ้อนแบบที่ผ่านๆมา การเสียสละของทหารชั้นผู้น้อย
และชาวบ้านที่ยอมเดือนร้อน เพื่อให้จบปัญหาในโอกาสนี้
มันก็จะไม่มีค่าอะไรเลย
…ก็หวังนะ ว่ายึดมาได้แล้ว ก็ดูแลกันให้ดีกว่าเดิมล่ะ…
…เพราะเที่ยวนี้ ยึดมาได้แล้ว ถ้ายังมีปัญหาอีก
คนไทยจะรู้แล้วว่าใครคือตัวการ…
…และจะไม่ชี้นิ้วไปที่ฮุนเซน ว่าเป็นตัวปัญหาอีกแล้ว….
ก็ประมาณนี้นะครับ กับเกร็ดของการปะทะกันในรอบนี้
ที่บางคนอาจอยากทราบ เพราะสื่อเองไม่ค่อยมีการอธิบายกัน
สิ่งที่ผมเห็นมากที่สุด และห่วงที่สุด คือข่าวปลอม
ซึ่งเยอะมากจริงๆ อย่างเมื่อวาน ข่าวท่าน ผบ.ทร.
โดนลอบยิงนั่นก็ชัดเจน
สื่อไทย โดยเฉพาะเพจต่างๆ
ไล่งับข่าวกันแบบไม่เช็คเลย แม้แต่เพจใหญ่ที่สุดก็เอา
แล้วคนไทยก็ดันเชื่อซะด้วย
ข่าวแบบนี้อันตรายกับความเชื่อมั่นของประเทศนะครับ
การลอบสังหารบุคคลสำคัญทางทหาร
มีค่าเท่ากับข่าวการก่อการร้าย หรือวินาศกรรมเลย
มันจะส่งผลต่อความเชื่อมั่น ทางเศรษฐกิจอย่างหนักครับ
โดยเฉพาะฤดูกาลท่องเที่ยวแบบนี้ด้วย
กรองกันให้ดีสักนิดครับ ข่าวสงครามข่าวหลอกมันเยอะ
จากทั้งสองฝั่งนั่นแหละ เราต้องคิดให้สมเหตุผลก่อนที่จะเชื่อ
บางทีฝ่ายทหารเราเองก็ปล่อย เพื่อเล่นสงครามข้อมูลลวง
ให้ฝ่ายตรงข้ามหลงทางในสนามรบจริง
ในไทยผมว่าแย่กว่าในยูเครนอีก ถ้าพูดถึงข่าวปลอมนะ
ทางโน้นเขาเล่นกัน มีแต่ propaganda การเมือง
ซึ่งเข้าใจได้ ของทั้งรัสเซียและยูเครน
ของเราดันมีอีสารพัดเพจ ที่หวังยอดวิว ยอดไลค์
มาหากินกับความเป็นความตายแบบนี้ด้วย
แล้วก็ปั่นกันจนไม่รู้เรื่อง เละเทะ มั่วซั่วไปหมด
…อันนี้แย่นะครับ ต้องระวังกันให้ดี อย่าทำกันเลยดีกว่า…
ก็ฝากไว้แค่นี้ เกร็ดเล็กๆน้อยๆ ถ้ามีอีก จะเอามาฝากกันครับ
แฮปปี้วันหยุด ที่หลายคนก็อาจเริ่มหยุดยาวกันแล้วด้วยล่ะมั้ง
ส่วนผม อีกสามวันปิดบัญชีบริหาร กำลังหัวหมุนเลย 🤣🤣
โฆษณา