ปัญหาหัวล้านคือความเสี่ยงต่อการมีชีวิตรอด
ประธานาธิบดีเกาหลีใต้เตรียมผลักดัน ประกันสุขภาพต้องครอบคลุมการรักษาผมร่วง
ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ อี แจ-มยอง เตรียมผลักดันให้คอร์การรักษาผมร่วงเข้าระบบประกันสุขภาพแห่งชาติ เพราะปัญหาหัวล้าน มีความสำคัญระดับความเป็น ความตาย ในสังคมที่ควรได้รับการดูแลในฐานะปัญหาสุขภาพ ไม่ใช่แค่การเสริมความงามส่วนบุคคล
อันเนื่องจากเกาหลีใต้ เป็นประเทศที่ให้ความสำคัญกับภาพลักษณ์อย่างมาก และการมีผมดกดำเป็นหนึ่งในมาตรฐานความงามของชาวเกาหลี ดังนั้นการที่หนุ่ม-สาว สักคนเกิดมีภาวะหัวล้าน ก็จะถูกมองในแง่ลบ หรือเข้าใจว่าเป็นความป่วยไข้ ไม่แข็งแรง อีกทั้งยังสร้างความอับอาย แปลกแยกจนเสียความมั่นใจในตัวเอง ซึ่งส่งผลกระทบต่อจิตใจ และการใช้ชีวิตในสังคม
ด้วยเหตุผลที่ยกมา ประธานาธิบดีเกาหลีใต้จึงทุบโต๊ะกลางที่ประชุมคณะรัฐบาลของตนว่า ปัญหาหัวล้าน คือ "Matter of Survival" ที่มีผลต่อการมีชีวิตรอดในสังคมเกาหลี การรักษาภาวะหัวล้านจึงไม่ใช่แค่การเสริมสวย แต่ควรถือเป็นปัญหาสุขภาพที่รัฐต้องเข้าไปดูแลผ่านโครงการประกันสุขภาพสาธารณะ
และนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ อี แจ-มยอง พยายามผลักดันนโยบายเรื่องการรักษาผมร่วง เขาเคยนำเสนอนโยบายนี้ตั้งแต่ช่วงหาเสียงเลือกตั้งในปี 2022 ซึ่งเป็นครั้งที่เขาพ่ายแพ้ให้กับยุน ซ็อก-ยอล
และนโยบายแก้หัวล้านของเขาถูกโจมตีอย่างรุนแรงว่าเป็นแค่แคมเปญหาเสียงเพื่อเอาใจฐานคะแนนเสียงที่เป็นคนหนุ่มสาวเท่านั้น โดยอิงจากผลสำรวจความคิดเห็นหนุ่ม-สาว เกาหลีใต้กว่า 98% เชื่อว่าการมีรูปลักษณ์ดี มีผลต่อความได้เปรียบในสังคม
ด้วยค่านิยมนี้ ทำให้หนุ่ม-สาวเกาหลีต้องดูแลรูปร่างหน้าตาของตนอย่างเข้มงวด และยอมเข้าคลีนิครักษาปัญหาศีรษะล้านแม้ต้องเสียค่าใช้จ่ายแพงแค่ไหน
ในปี 2024 มีชาวเกาหลีใต้กว่า 2.4 แสนคน ที่เข้ารับการรักษาอาการผมร่วงในโรงพยาบาล ซึ่งในจำนวนนี้มีถึง 40% ที่เป็นคนอายุตั้งแต่ 20-30 ปี และหากการรักษาดูแลเส้นผม และเสริมความงามอื่นๆ จะทำให้เกาหลีใต้เป็นแหล่งตลาดด้านการดูแลเส้นผมที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
จากตัวเลขปี 2024 พบว่า เฉพาะตลาดคลินิกรักษาผมร่วงในเกาหลีใต้มีมูลค่าสูงกว่า 1.88 แสนล้านวอน (ประมาณ 4 พันล้านบาท) และมีแนวโน้มโตขึ้นอีก แม้บางผลิตภัณฑ์ยังมีข้อสงสัยในประสิทธิภาพของผลลัพธ์ที่แท้จริงก็ตาม
แน่นอนว่า การพยายามผลักดันเรื่องการแก้ปัญหาผมร่วงให้มาอยู่ในประกันสุขภาพแห่งชาติของประธานาธิบดีเกาหลีใต้ จะมีคนคัดค้านอยู่ไม่น้อย ไม่ใช่เพราะไม่เห็นใจคนหัวล้าน แต่อันที่จริง ในหมวดประกันสุขภาพระดับพรีเมียมของรัฐบาลก็ครอบคลุมการรักษาผมร่วงอยู่แล้ว เพียงแต่ระบุเฉพาะสาเหตุทางการแพทย์ เช่นโรคผมร่วงเป็นหย่อม แต่ถ้าเป็นการรักษาภาวะศีรษะล้านแบบทั่วๆไป หรืออาการที่เกิดจากพันธุกรรม ยังไม่ครอบคลุม
แต่หากผู้นำเกาหลีใต้ นิยามอาการหัวล้านเป็นปัญหาระดับความเสี่ยงต่อการเอาชีวิตรอดในสังคม ทุกอาการผมร่วง บาง ศีรษะล้าน จะถูกรวมในค่ารักษาพยาบาลในระบบประกันสุขภาพทั้งหมด
และนั่นจึงกลายเป็นประเด็นที่ถกเถียงอย่างร้อนแรงโดยผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบายสุขภาพ และคนในแวดวงการแพทย์อย่างมาก เพราะกองทุนประกันสุขภาพของรัฐกำลังตกอยู่ในสภาวะขาดดุลอย่างหนัก และมีแนวโน้มขาดดุลทะลุ 4 ล้านล้านวอนภายในปี 2026
สมาคมแพทย์เกาหลีจึงออกโรงคัดค้านนโยบายนี้ว่า “แทนที่จะเจียดเอาเงินในกองทุนประกันสุขภาพที่ตึงมืออยู่แล้วไปรักษาผมร่วง ควรให้ความสำคัญกับการรักษามะเร็งและโรคร้ายแรงอื่นๆจะดีกว่า”
แต่ถ้าประธานาธิบดี อี แจ-มยอง สามารถผลักดันให้การรักษาภาวะหัวล้านให้เข้าประกันสุขภาพได้จริง ก็อาจทำให้เกาหลีใต้เป็นชาติแรกๆ ที่ตอกย้ำให้โลกเห็นว่า "มาตรฐานความงามที่สมบูรณ์" เป็นเรื่องสำคัญที่มีผลต่อความอยู่รอดในสังคมเกาหลีใต้จริงๆ
****************
ติดตามบทความของ "หรรสาระ" เพิ่มเติมได้ที่
Facebook - หรรสาระ By Jeans Aroonrat
Twitter - @HunsaraByJeans
Blockdit - หรรสาระ By Jeans Aroonrat
แพลทฟอร์มคุณภาพ ไม่ปิดกั้นการมองเห็นเนื้อหา
****************
แหล่งข้อมูล
- 41
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
