ความคิดเห็นบนคำถาม

คิดอย่างไร ในความเห็นคำ burn out ไม่มีอยู่จริง เป็นเพียงวาทะกรรม ที่นิยมใช้มากขึ้นๆ ในช่วงยุคหลังๆ มานี้เอง?
23 ต.ค. 2022 เวลา 01:29 • ความคิดเห็น • 9 คำตอบ
คำตอบ (9)
  • สุดยอดคำตอบ
    สภาพที่ร่างกายไปไม่ไหว และจิตใจที่ไม่อยากไปต่อ
    มันมีและเป็นแบบนี้จริงหรือเปล่า ?...
  • ผมก็คิดว่าไอ้เจ้าคนพูดเขายังไม่เคยเจอกับตัวเองแค่นั้นแหละครับ
    มันมีอยู่จริงครับ คนที่พอเป็นสิ่งที่ไม่เคยเจอ ไม่รู้จักแล้วล่ะก็ เขาจะเชื่อและถือเอาว่ามันไม่มีอยู่จริง...
  • ในทางการแพทย์ ภาวะ burn out มีจริงค่ะ ก่อนจะ burn out มีจะอาการ low motivation ก่อน เป็นสเต็ปๆไป แต่ที่คนทั่วไปชอบบ่นว่าหมดไฟ อาจไม่เข้าเงื่อนไข burn out ตามคำวินิจฉัยของแพทย์ อาจเป็นแค่ความเหนื่อย เบื่อหน่าย ไม่สนุก หรือขี้เกียจ...
  • คนรุ่นใหม่บางคนรีบร้อนใช้ชีวิตมากเกินไป พอทุ่มสุดตัว แล้วผลที่ได้มันไม่เป็นตามความต้องการ เลยหมดไฟเอาดื้อๆ ส่วนคนรุ่นเก่าพอทำงานไปนานๆ เป้าหมายค่อยๆห่างออกไป ไฟมันก้อเริ่มมอดลง คนกลางๆที่ใช้ชีวิตไปตามสเตปไม่เร่ง ไม่อ่อนข้อให้อุปสรรค มักจะได้มุมมองใหม่ๆในการใช้ชีวิต เหนื่อยนักก้...
  • ในสมัยก่อน คือว่า "ฉันเบื่อ" เบื่องาน, เพื่อนร่วมงาน,เจ้านายและตัวเอง(บางขณะ)ทำให้ภาพพจน์ของตัวเองดูไม่ดีเยาะแยะ ไม่อดทน สู้งาน
    ต่อมาใช้ว่า burn out ช่วยให้ผู้ทำงาน ภาพพจน์ดีขึ้น ไฟแรง สู้งานหนัก/เบา ทะเยอทะยาน และคิดว่าตัวเองฉลาดมากแต่ก็ยังเบื่อเหมือนเดิม...
  • มันก็คงเหมือนความจริงที่ว่า
    "ตัวเราไม่มี"
    อยู่ที่ใครจะมองเห็นหรือไม่?
    ❤🤟😊
  • เป็นอาการเบื่อหน่ายเมื่อผลลัพธ์ไม่เป็นไปตามความคาดหวัง ทำให้หมดแรงจูงใจที่จะไปต่อ….
    ในมุมมองส่วนตัวคิดว่าเป็นพฤติกรรมที่มีเป็นปกติอยู่แล้ว แต่ด้วยความที่มนุษย์เรามีความครีเอทีฟ ชอบประดิษฐ์ คิดค้นคำศัพท์ขึ้นมาเพื่อให้ง่ายต่อก...
  • ในคำว่า Burn out สำหรับความคิดเห็นส่วนตัวนะคะ
    Burn มาจากการความหมายที่ว่าการที่เรากักเก็บอุณภูมิความร้อนไว้ อย่างเช่น ร่างกายเรามีอุณหภูมิที่สูงขึ้น อาจจะเกิดจาก อารมณ์หรือความร้อนของสภาพอากาศ...
  • มันมี แหล่ะ แต่ไม่ตลอดหรอกค่ะ จะหมดฟงหมดไฟทุกคนสามารถ จะกลับมาแอคทีฟในเวลาเร็วช้าต่างกันก็สามารถอีก ชีวิตยังดำเนินไป ก็แค่นั้นเอง แค่อย่าเผลอไปดับไฟชีวิตคนอื่นก็พอ แค่นั้นเลยค่ะ