อะไรเอ่ย!?
ชื่อขนม แต่ไม่ใช่ขนม และไม่ได้มาจากจีน!!
แล้วทำไมถึงเรียก "ขนมจีน" !?
ถึงจะเรียกว่าขนม แต่จริง ๆ แล้วขนมจีนเป็นอาหารคาวประเภทเส้นชนิดหนึ่ง แถมยังไม่มีอะไรเกี่ยวกับประเทศจีนเลยค่ะ
"ขนมจีน" เป็นอาหารพื้นบ้านของชาวมอญที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย และมีชื่อในภาษามอญว่า "คนอมจิน" โดย คนอม หมายถึง การจับกันเป็นกลุ่มก้อน และ จิน คือ การหุงต้ม การทำให้สุก นั่นเองค่ะ
ขนมจีนแกงเนื้อ
ขนมจีนแพร่หลายเข้าสู่ประเทศไทยตั้งแต่เมื่อไหร่ยังไม่มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่แน่ชัดค่ะ แถมในแต่ละภูมิภาคยังมีชื่อเรียกแตกต่างกันอีก อย่างภาคกลางเรียก"ขนมจีน" ภาคเหนือเรียก"ขนมเส้น" ภาคอีสานเรียก"ข้าวปุ้น" ภาคใต้เรียก"โหน้มจีน" ซึ่งแต่ละภาคก็มีการนำขนมจีนมาทำเมนูที่หลายหลากแตกต่างกันไปค่ะ
ตำซั่ว
ขนมจีนทำจากข้าวเจ้าพันธุ์แข็ง ที่นำมาผ่านการบดเป็นแป้ง มีสองแบบคือแป้งสด และแป้งหมัก โดยแบบแป้งหมักจะเหนียวและเก็บได้นานกว่า
ขนมจีนน้ำเงี้ยว
เส้นขนมจีน 100 กรัม ให้พลังงานเพียง 80 กิโลแคลอรี่เท่านั้นค่ะ เป็นมิตรกับคนลดหรือควบคุมน้ำหนักจริง ๆ แต่ไม่ใช่ว่าทุกเมนูของขนมจีนจะให้พลังงานต่ำนะคะ
หม่ามี้รวบรวมพลังงานเฉลี่ยของแต่ละเมนูขนมจีนมาฝากให้เลือกทานกันค่ะ (เส้นขนมจีน 2 จับ)
◎ขนมจีนน้ำเงี้ยว 250 กิโลแคลอรี่
◎ขนมจีนน้ำยาป่า 150 กิโลแคลอรี่
◎ขนมจีนน้ำยา 340 กิโลแคลอรี่
◎ขนมจีนน้ำพริก 230 กิโลแคลอรี่
◎ขนมจีนซาวน้ำ 320 กิโลแคลอรี่
◎ขนมจีนแกงเขียวหวาน 590 กิโลแคลอรี่
◎ยำขนมจีน 220 กิโลแคลอรี่
◎ขนมจีน+ส้มตำ 200 กิโลแคลอรี่
ขนมจีนแกงเขียวหวานไก่
ใครที่กำลังคุมอาหารเพื่อลดน้ำหนัก วิธีคร่าว ๆ ที่ช่วยควบคุมพลังงานจากอาหาร คือ แนะนำทานอาหารมื้อหลักที่ให้พลังงาน 300-350 กิโลแคลอรี่ต่อมื้อ ควรมีมื้อย่อยหรืออาหารว่างที่พลังงานไม่เกิน 100 กิโลแคลอรี่อีก 2 มื้อ และดื่มน้ำเปล่าให้ได้วันละ 2 ลิตรนะคะ
ใครที่มีโรคประจำตัวควรปรึกษาแพทย์ ใครที่ต้องการคุมอาหารอย่างถูกต้องกับสุขภาพของตัวเองที่สุดควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญนะคะ
ยำขนมจีน
เส้นขนมจีนปกติจะเก็บได้ไม่นานค่ะ ยิ่งแบบแป้งสดเก็บวันสองวันก็เสียแล้ว พ่อค้าแม่ขายบางคนจึงใช้วิธีใส่สารกันบูดเพื่อให้เก็บไว้ได้นาน เราไม่สามารถตรวจสารกันบูดด้วยตาเปล่าค่ะ แต่อาจสังเกตลักษณะเส้นขนมจีนที่เก็บมานาน ได้แก่ บรรจุภัณฑ์มีไอน้ำเกาะเยอะ หลุดหลวม ลักษณะเส้นขุ่นเหลือง ไม่เป็นจับสวยงาม
ทั้งนี้สารกันบูดสามารถถูกทำลายได้ด้วยความร้อนค่ะ ดังนั้นเราควรจะลวกหรือนึ่งเส้นขนมจีนก่อนทาน เพื่อให้ปลอดภัยจากสารกันบูดนะคะ
ปัจจุบันจึงมีการผลิตแบบเส้นแห้ง แถมยังมีการเพิ่มคุณค่าสารอาหารด้วยการผสมผักหรือสมุนไพรลงไปด้วยค่ะ
อยากอร่อยแบบไหนอย่าลืมเลือกให้ดีต่อสุขภาพกันด้วยนะคะ
อ้างอิง :
◎ ที่มาของ "ขนมจีน" อาหารจากดินแดนสุวรรณภูมิ https://mgronline.com/travel/detail/9520000015345
◎ ชื่อ”ขนม”แต่ไม่ใช่ขนม https://food.mthai.com/easy-menu/125831.html
◎ สารกันบูดในขนมจีน https://www.thairath.co.th/content/513598
◎ ตารางแคลอรี่ในอาหารไทย https://www.honestdocs.co/table-of-calories-in-food-types
ชอบกดไลก์ ใช่กดแชร์
และอย่าลืมกดติดตามมี้นะคะ
ขอบคุณทุกกำลังใจค่า
หม่ามี้มีเรื่องเล่า
- 5
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
