6 พ.ย. 2019 เวลา 11:30 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
เซ็กส์เสื่อมในวัยหนุ่ม
คำถามข้อที่ 2 และ 3 : การ reboot คือลัทธิต่อต้านเรื่องเพศหรือไม่ ? แล้วอาการ Porn-induced ED มีจริงหรือเปล่า ?
เพื่อความเข้าใจในเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง หากท่านใดยังไม่เคยอ่านเนื้อหาในบทก่อน ๆ ผมขอแนะนำให้ท่านย้อนกลับไปอ่านเนื้อหาในบทก่อนหน้านี้นะครับ
.
บทที่ 1 : ปรากฏการณ์ประหลาดที่เกิดกับชายหนุ่มหลายคนในวันนี้
.
บทพิเศษ : ปรากฏการณ์ Coolidge Effect
.
บทที่ 2 : สิ่งเร้ายิ่งยวด vs สมองของเรา
.
คำถาม : ต้นกำเนิดของการ reboot มาจากไหน
.
.
.
Q2 : การ reboot คือลัทธิที่ต่อต้านเรื่องเพศอย่างที่บางคนกล่าวหาใช่หรือไม่ ?
นอกจากกระแสสังคมที่ยังไม่ได้ตระหนักเกี่ยวกับเรื่อง Porn-induced ED แล้ว คนบางกลุ่มยังมีอคติกับกลุ่มคนที่ทำการ reboot ด้วย บางคนอาศัยเพียงเสียงบอกเล่าต่อ ๆ กันมาโดยไม่ได้มีการศึกษาที่มาที่ไปให้ละเอียด หรือบางคนที่ไม่อยากเลิกเสพสื่อโป๊ (ทั้งที่เขาก็รู้ตัวว่าตนเป็น Porn-induced ED แล้วก็ตาม) ก็ทำเป็นหลับหูหลับตาเข้าข้างความคิดนี้ด้วย
พวกเขาเหล่านี้พยายามตั้งแง่ (หรือไม่ก็ล้อเลียน) คนที่ทำการ reboot ว่าเป็นเพียงกลุ่มคนคลั่งศาสนาหรือลัทธิอะไรบางอย่างที่ต่อต้านเรื่องเพศ หรือไม่ก็มองคนที่ทำการ reboot ว่าเป็นกลุ่มคนที่หันหลังให้สื่อโป๊เพราะความเชื่อและเกรงกลัวต่อบาป พูดอีกนัยหนึ่งก็คือ พวกเขาพยายามกล่าวหาการ reboot ว่าเป็นเพียงการกระทำของลัทธิความเชื่อในเรื่องงมงายนั่นเอง
เนื่องจากเรื่องความเชื่อและศาสนาถือเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมาก ๆ หากคำอธิบายบางคำของผมไปกระทบหรือขัดกับหลักความเชื่อทางศาสนาของบางท่าน ผมต้องกราบขออภัยอย่างสูงมา ณ.ที่นี้ด้วย อย่างไรก็ตาม เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องของทุก ๆ ฝ่าย ผมต้องขออธิบายและแจกแจงข้อสงสัย (และคำครหา) เหล่านี้โดยจะอธิบายเป็น 3 ประเด็นดังนี้ …
- ประเด็นแรก ผมเองก็คิดว่าในกลุ่มคนที่ทำการ reboot ทั้งหมด อาจจะมีบางคนที่ตัดสินใจทำการเลิกสื่อโป๊โดยมีแรงจูงใจด้านศาสนาหรือลัทธิจริงอย่างที่พวกเขากล่าวมาก็เป็นไปได้
เพราะผมเชื่อว่าทุกยุคทุกสมัยตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันต่างก็มีกลุ่มคนที่ต่อต้านการประพฤติผิดศีลธรรมจรรยาต่าง ๆ อยู่แล้ว และวิถีโบราณของบางศาสนาหรือบางลัทธิก็รวมเรื่องสื่อโป๊และเรื่องเพศอยู่ในข้อห้ามบางอย่างด้วย
นี่จึงเป็นเหตุผลให้คนภายนอกบางคน (ที่ไม่ได้ศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด) มองคนที่ทำการ reboot แบบเหมารวมทั้งหมดว่าเป็นกลุ่มคนที่มีแรงจูงใจทางศาสนาหรือไม่ก็เป็นลัทธิต่อต้านเรื่องเพศทุกคน
อย่างไรก็ตาม เคยมีฟอรั่มและเว็บไซต์เกี่ยวกับการ reboot ที่แพร่หลายที่สุดได้ทำการออกแบบสอบถามถึงแรงจูงใจที่แต่ละคนต้องการเลิกสื่อโป๊ และพบว่ามีเพียง 5% เท่านั้นที่มีแรงจูงใจในเชิงศาสนาหรือลัทธิ (อย่างที่บางคนกล่าวหา)
แต่คนที่เหลืออีก 95% คือกลุ่มชายหนุ่มที่เจอปัญหา Porn-induced ED จริง ๆ และพวกเขาเหล่านี้ก็ต้องการหายจากอาการนี้ พวกเขาจึงเลือกที่จะทำการเลิกเสพสื่อโป๊ด้วยเหตุผลทางวิทยาศาสตร์เท่านั้น (ทำการ reboot สมอง)
- ประเด็นต่อมา หากท่านใดมีทักษะภาษาอังกฤษในระดับหนึ่ง ท่านสามารถเข้าไปอ่านเรื่องราวการ reboot ในเว็บไซต์ yourbrainonporn หรือในฟอรั่ม reddit/NoFap ได้ หากท่านอ่านด้วยความเป็นกลางไร้อคติ ท่านจะพบว่าข้อกล่าวหาเรื่องลัทธิต่อต้านเรื่องเพศอะไรนี้ ไม่เป็นจริงอย่างยิ่ง (หรืออาจใช้ได้แค่กับคนกลุ่มเล็ก ๆ บางกลุ่มเท่านั้น)
แทบทุกคนที่ทำการ reboot (รวมทั้งหลาย ๆ คนที่ได้ทำการ reboot สำเร็จไปแล้ว) พวกเขาไม่ได้มีแรงจูงใจแบบศาสนาหรือลัทธิความเชื่อใด ๆ หรอกครับ หลายคนไม่มีศาสนาหรือไม่เชื่อในเรื่องพระเจ้าเลยด้วยซ้ำ ในขณะที่อาจมีบางกลุ่มที่มีการนับถือศาสนาหรือเชื่อในเรื่องพระเจ้าก็จริง แต่คนเหล่านี้ก็ไม่ได้ทำการเลิกสื่อโป๊เพราะมีแรงจูงใจทางศาสนาหรือเรื่องจิตวิญญาณเลย
สรุปง่าย ๆ ก็คือ ทั้งคนที่มีการนับถือศาสนาและคนที่ไม่มีการนับถือศาสนา เหตุผลที่พวกเขาทั้งหลายเหล่านี้เลือกที่จะเลิกเสพสื่อโป๊ไม่ใช่เพราะว่าพวกเขากลัวบาปหรือกลัวพระเจ้าลงโทษหรอก แต่ที่พวกเขาเลิกพฤติกรรมนี้เป็นเพราะพวกเขารู้ว่ามันเป็นสิ่งที่ทำร้ายสมองและบั่นทอนสมรรถภาพทางเพศของพวกเขาในระยะยาวต่างหาก
ทุกคนที่พูดคุยกันในฟอรั่มเหล่านี้ แทบไม่มีใครที่มีความคิดต่อต้านเรื่องเพศเลย อันที่จริงแล้ว พวกเขาทุกคน (รวมทั้งพวกเราด้วย) อาจชอบเรื่องเพศมากเกินไปเสียด้วยซ้ำ พวกเราหลงไหลและลุ่มหลงกับสื่อโป๊มากเกินไปโดยไม่ได้รู้ถึงพิษภัยของมัน และนี่จึงเป็นเหตุให้พวกเราต้องเป็น Porn-induced ED และพยายามค้นหาหนทางรักษามันแบบแทบพลิกแผ่นดินไงครับ
ในวันนี้ ที่พวกเราหลาย ๆ คนกำลังทำการ reboot อย่างจริงจังก็เพื่อหวังว่าตัวเองจะหายกลับเป็นปกติและสามารถกลับไปมีเซ็กส์ได้นั่นเอง เราไม่ได้ต่อต้านหรือรู้สึกผิดเกี่ยวกับเรื่องเซ็กส์เลยสักนิดเดียว กลับกัน เราพยายามที่จะกลับไปทำมันได้ดังเดิมด้วยซ้ำ เราแค่ต่อต้านการเสพติดสื่อโป๊ที่เป็นต้นเหตุให้เรามีอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศต่างหาก
- ประเด็นสุดท้าย ผมรู้แค่ว่าตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ ตัวผมเลือกที่จะหันหลังให้กับสื่อโป๊ด้วยเหตุผลทางวิทยาศาสตร์เท่านั้น ผมต้องการฟื้นฟูสมองและดูแลมันเพื่อที่ตัวผมจะสามารถกลับมามีเซ็กส์ได้ปกติดังเดิม ไม่มีความเชื่อเรื่องศาสนาหรือบาปบุญคุณโทษเข้ามาเกี่ยวข้องเลยสักนิดเดียว
ที่สำคัญที่สุด ผมมีความเชื่อส่วนตัวว่า การที่เราทำอะไรก็ตาม แต่กลับมีเหตุผลเพียงแค่ความรู้สึกเกรงกลัวต่อบาป ผมมองว่าเหตุผลแค่นี้ไม่เพียงพอที่จะทำให้เราทำอะไรแล้วประสบความสำเร็จได้เลย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การ reboot
ผมคิดว่าความละอายและความเกรงกลัวต่อบาปอาจจะใช้ได้ผลกับแค่จิตสำนึกพื้นฐานบางเรื่องเท่านั้น มันไม่ใช่แรงจูงใจที่ถูกต้องในการแก้ปัญหาระยะยาว
ในทางกลับกัน แม้ว่าสิ่งที่เรากำลังทำจะยากลำบากและมีหนทางยาวไกลขนาดไหนก็ตาม แต่หากแรงจูงใจของเราเกิดจากสิ่งที่มีความเป็นเหตุเป็นผล มันจะทำให้เรามีกำลังใจในตลอดเส้นทางและสามารถฝ่าฟันอุปสรรคต่าง ๆ ได้ดีกว่าแรงจูงใจอื่นใดทั้งหมดทั้งมวล
อย่างไรก็ตาม ผมเข้าใจดีว่าแต่ละคนต่างก็มีเหตุผลเป็นของตัวเอง หากใครจะเชื่อว่าพระเจ้าของเขาสามารถช่วยเขาให้ผ่านอุปสรรคต่าง ๆ ไปได้ ผมก็ยินดีด้วย หรือหากใครจะคิดว่าการเกรงกลัวต่อบาปสามารถทำให้เขาทำการ reboot ได้สำเร็จ ผมก็จะไม่ขัดขวางความคิดนี้เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม จริงอยู่ว่าอาจจะมีบางคนที่เลิกเสพสื่อโป๊เพราะความเกรงกลัวต่อบาปหรือมีเหตุผลเป็นแรงจูงใจทางศาสนา แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าคนทุกคนที่ทำการ reboot จะต้องคิดหรือมีความเชื่อแบบนั้น ... อย่างน้อยก็ผมคนหนึ่งในนั้นแน่ ๆ
สิ่งเดียวที่ทำให้ผม (และอีกหลาย ๆ คน) สามารถทำภารกิจ reboot อันโหดหินนี้ได้สำเร็จและยังคงสามารถหันหลังให้กับสื่อโป๊ได้จนถึงทุกวันนี้ ไม่ใช่เพราะความเกรงกลัวต่อบาปหรือความเชื่อเรื่องพระเจ้าเลย ความกลัวเพียงอย่างเดียวที่ผลักดันให้ผมหันหลังให้กับสื่อโป๊ได้ก็คือ ผมกลัวที่จะต้องกลับไปเป็น Porn-induced ED อีกครั้งเท่านั้น ไม่ใช่เพราะเรื่องบาปบุญนรกสวรรค์อะไรทั้งสิ้น
ที่ผมอธิบายเช่นนี้ ไม่ใช่เพราะว่าผมเป็นคนไม่นับถือศาสนานะครับ ผมเองก็นับถือศาสนาแบบคนส่วนใหญ่เช่นกัน ผมเพียงแค่ต้องการอธิบายว่าทำไมผมถึงแยกแยะและไม่เอาเรื่องศาสนาหรือพระเจ้าเข้ามาเกี่ยวข้องกับการที่เราควรหันหลังให้กับสื่อโป๊ มันไม่ใช่เรื่องบาปบุญอะไรนั่นเลย มันเป็นเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ล้วน ๆ
สำหรับการ reboot แล้ว ยิ่งเราศึกษาข้อมูลของมันมากเท่าไหร่ เราก็จะยิ่งเห็นแต่มุมมองด้านที่เป็นวิทยาศาสตร์มากขึ้นเท่านั้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น หากใครจะเลิกสื่อโป๊โดยใช้เหตุผลและแรงจูงใจทางศาสนาหรือเพราะเกรงกลัวต่อบาป ผมก็จะยอมรับและไม่ขัดขวางแนวคิดความเชื่อใด ๆ ของพวกเขาทั้งสิ้น ผมเข้าใจดีว่าแต่ละคนต่างมีเหตุผลและมุมมองของตัวเอง
ในมุมมองด้านที่เป็นศาสนาและความเชื่อ สื่อโป๊คือสิ่งที่ทำให้จิตใจของเราย่ำแย่ ซึ่งจะส่งผลเสียต่อชีวิตหลาย ๆ ด้านของเรา นี่อาจหมายถึงบาปหรือเปรียบเสมือนการถูกลงโทษจากพระเจ้า (กระมัง)
ส่วนในมุมมองด้านวิทยาศาสตร์ การหมกมุ่นอยู่กับสื่อโป๊ทำให้สมองของเราเกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางลบ ซึ่งส่งผลเสียต่อสมรรถภาพทางเพศ, สุขภาพร่างกาย, หน้าที่การงาน รวมไปถึงความสัมพันธ์ุของเรา แบบที่พวกเราหลายคนกำลังเผชิญกันอยู่ในทุกวันนี้
จะว่าไปแล้ว หากมองภาพรวมเช่นนี้ เราจะพบว่าวิทยาศาสตร์และศาสนาอาจมองเป้าหมายของบางเรื่องคล้ายกัน เพียงแต่พูดกันคนละภาษาเท่านั้นเอง ตรงนี้อยู่ที่ใครจะเลือกมอง แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ตัวผมขอเลือกที่จะมองเรื่องนี้ในมุมมองของวิทยาศาสตร์เท่านั้น และถ้าหากเป็นไปได้ ผมก็อยากให้ทุกท่านเลือกมองเรื่องนี้ในมุมมองเดียวกับผมเช่นกัน
ผมขอย้ำอีกครั้งว่า “การ reboot ไม่ใช่การต่อต้านเรื่องเซ็กส์” กลับกัน “การ reboot มีจุดประสงค์เพื่อทำให้พวกเราสามารถกลับไปมีเซ็กส์ได้ด้วยซ้ำ” เราไม่ได้ต่อต้านเรื่องเพศเลยแม้แต่น้อย เราแค่ต่อต้านสิ่งที่ทำให้เราเสื่อมสมรรถภาพทางเพศต่างหาก ... ซึ่งในที่นี้ก็คือ “สื่อโป๊ทั้งหลาย” นั่นเอง
.
.
.
Q3 : อาการ Porn-induced ED มีอยู่จริงหรือไม่ หรือเป็นแค่การคิดวิตกไปเอง
บางคนไม่เชื่อว่าอาการ Porn-induced ED มีอยู่จริง พวกเขาตั้งแง่ว่าคนที่มีอาการนี้คือคนที่คิดวิตกไปเอง หรือไม่ก็ป่วยและมีสุขภาพอ่อนแอเพียงแต่ไม่ยอมรับและหันไปโทษสื่อโป๊ว่าเป็นต้นเหตุแทน สำหรับข้อโต้แย้งข้อนี้ สิ่งที่จะให้คำตอบได้ดีที่สุดคือการรอเวลาเท่านั้น เวลาจะเป็นตัวไขข้อข้องใจนี้เอง โดยเฉพาะในอนาคตอันใกล้นี้
อย่างที่บอกไปว่าวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับสมองและระบบประสาท (neuroscience) เป็นอะไรที่ยังค่อนข้างใหม่ในวันนี้ อีกทั้งข้อมูลส่วนใหญ่ล้วนเป็นภาษาอังกฤษทำให้เกิดปัญหาในการเข้าถึง โดยเฉพาะสำหรับคนเอเชียหลายคน
แต่ผมเชื่อว่าในอนาคตอันใกล้นี้ เราทุกคนจะได้รับรู้และตื่นตัวกับความรู้ด้านนี้มากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะเทคโนโลยีในปัจจุบันกำลังทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างสามารถส่งต่อถึงกันกันได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะข้อมูลความรู้และข่าวสารต่าง ๆ
นอกจากข้อมูลและงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ใหม่ ๆ ที่จะแพร่หลายและเป็นที่ยอมรับมากขึ้นแล้ว กลุ่มคนที่ไม่เชื่อหรือต่อต้านเรื่องการ reboot หลายคนก็มีแนวโน้มที่จะต้องประสบกับอาการ Porn-induced ED นี้ด้วยตนเองอย่างแน่นอน (หากพวกเขายังไม่หยุดพฤติกรรมเสพสื่อโป๊)
และเมื่อถึงเวลานั้น พวกเขาจะเข้าใจว่ามันไม่ใช่เรื่องของความคิดวิตกจริตหรือปัญหาสุขภาพทั่วไปแบบที่เขาเข้าใจเลย
แล้วทำไมบางคนก็เสพสื่อโป๊ แต่ยังไม่เห็นเป็นอะไรเลย ?
 
บางคนที่เขาไม่เชื่อเรื่อง Porn-induced ED อาจเป็นเพราะว่าตัวเขายังไม่ออกอาการ เนื่องจาก Porn-induced ED เป็นอาการสะสมเหมือนกับโรคภัยไข้เจ็บส่วนใหญ่ มันเป็นอาการที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงในสมองเนื่องจากการทำพฤติกรรมบางอย่างต่อเนื่องกันมายาวนาน ซึ่งกระบวนการนี้ต้องใช้ระยะเวลา
มันอาจต้องใช้ระยะเวลากว่า 5-10 ปีจึงจะแสดงอาการออกมาอย่างชัดเจน (แต่ในกรณีที่เสพติดหนัก ๆ อาจใช้เวลาแค่ 3-5 ปีเท่านั้น)
เหมือนกับที่การกินของหวาน 5 ถ้วยเพียงวันเดียว ไม่สามารถทำให้เราป่วยเป็นโรคเบาหวานหรือความดันได้ในทันที แต่การกินของหวานวันละ 2-3 ถ้วยทุกวันต่อเนื่องกันหลายปีต่างหากที่ทำให้เราป่วยเป็นเบาหวานความดัน
ในกรณีของโรคตับแข็งก็เช่นกัน การกินเหล้าเบียร์ 5 ขวด 10 ขวดเพียงวันเดียวไม่ได้ทำให้เราเป็นโรคตับแข็งในวันนั้นเลย แต่การกินเหล้าเบียร์วันละ 2-3 ขวดทุกวันต่อเนื่องกันหลายปีต่างหากที่ทำให้เราป่วยเป็นโรคตับแข็ง
มะเร็งปอด, มะเร็งตับ, เบาหวาน, ความดัน, โรคหัวใจ, ตับแข็ง, อัมพฤกษ์ โรคเหล่านี้ล้วนต้องใช้เวลาสะสมสักระยะหนึ่งก่อนจะแสดงอาการออกมา ถ้าเราลองพิจารณาให้ดี เราจะพบว่าโรคภัยเหล่านี้ล้วนเกิดจากการบริโภคบางสิ่งบางอย่างมากเกินไปสะสมติดต่อกันมาอย่างยาวนานทั้งสิ้น เราจะเรียกพฤติกรรมการบริโภคที่มากเกินพอดีนี้ว่า “การเสพติด” ก็น่าจะได้ด้วยซ้ำ
เช่น โรคเบาหวาน (ชนิดที่ 2) เกิดจากการที่เราชอบกินของหวาน ๆ แม้เราจะรู้ว่ามันไม่ดีและอยากจะเลิก แต่ก็ห้ามใจไม่ได้สักที (สมองเริ่มเสพติดมันแล้ว) ทำให้เรามีการกินของหวานสะสมกันมาหลายต่อหลายปีจนโรคนี้ออกอาการขึ้นมา
โรคมะเร็งปอดหรือโรคตับแข็งก็เกิดจากสาเหตุคล้าย ๆ กัน นั่นก็คือ เราเสพติดบุหรี่หรือไม่ก็สุรา แม้เราจะรู้ว่ามันบั่นทอนสุขภาพและอยากเลิก แต่สมองมันกรีดร้องต้องการอยู่ตลอดเวลา ทำให้เราเสพสิ่งเหล่านี้สะสมกันมาอย่างยาวนานจนโรคนี้แสดงอาการออกมา
Porn-induced ED ก็เช่นกัน บางคนที่ยังไม่มีอาการในตอนนี้ ไม่ได้แปลว่าเขาจะปลอดภัยจากมันนะครับ มันอาจกำลังสะสมอาการและรอวันปะทุออกมาก็ได้ หรืออาจจะออกอาการแล้วเพียงแต่เขาแค่ยังไม่รู้ตัวเท่านั้น เพราะการที่เราจะรู้ตัวว่าเป็นโรคนี้หรือไม่ ก็ต้องเป็นตอนที่กำลังจะมีเซ็กส์เท่านั้น ซึ่งบางคนอาจไม่มีคนรัก จึงทำให้เขาไม่มีโอกาสได้รู้ตัวว่าตัวเขาเป็นโรคนี้หรือไม่
อย่างไรก็ตาม เรามีวิธีเช็คตัวเองว่าเรามีอาการ Porn-induced ED หรือไม่ ซึ่งวิธีทดสอบที่ผมกำลังพูดถึงอยู่นี้ ผมได้อธิบายขั้นตอนคร่าว ๆ ไว้ในบทที่ 1 แล้ว
สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ “จงสังเกตุตัวเองและอย่าหลอกตัวเองเด็ดขาด”
.
.
.
สิ่งสำคัญอื่น ๆ ที่ต้องรู้ https://www.blockdit.com/articles/5dc448f820a7f57be912d786
สำหรับเนื้อหาบทต่อ ๆ ไป ท่านผู้อ่านต้องเข้าไปอ่านใน ebook นะครับ (ทดลองอ่านฟรีได้ตั้งแต่บทที่ 1 ไปจนถึงบทที่ 4)
.
ผู้เขียนขอขอบคุณท่านผู้อ่านทุกท่านที่อ่านบทความของผมมาถึงตรงนี้ ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเนื้อหาทั้ง 2 บทที่ผ่านมาจะให้ประโยชน์และความรู้แก่ท่านผู้อ่านได้ไม่มากก็น้อย
.
แต่เนื้อหาทั้งหมดไม่ได้มีเพียงแค่ 2 บทนี้นะครับ บทความ 2 บทที่ผ่านมาเป็นเนื้อหาเพียงแค่ 15-20% เท่านั้น ในหนังสือ ebook เล่มนี้ยังมีเนื้อหาที่เป็นประโยชน์อีกมากถึง 13 บท
.
ซึ่งท่านผู้อ่านสามารถเข้าไปทดลอง “อ่านฟรี” ได้ตั้งแต่บทที่ 1 จนถึงบทที่ 4 นะครับ (เลือกหนังสือ แล้วกดที่ช่อง “ทดลองอ่าน”)
.
.
.
บทความนี้เป็นส่วนหนึ่งของหนังสือ e-book “เซ็กส์เสื่อมในวัยหนุ่ม” (ในหนังสือมีเนื้อหาทั้งหมด 13 บท)
.
*** ต้องโหลดแอปฯ “Meb : หนังสือดี นิยายดัง” ก่อนนะครับ (แอปฯนี้โหลดฟรี) ถ้าโหลดแอปฯนี้เสร็จแล้ว เราก็จะสามารถดาวน์โหลดสั่งซื้อหนังสือและเปิดอ่านผ่านแอปฯนี้ได้เลยครับ
โฆษณา