5 เม.ย. 2020 เวลา 01:30 • การศึกษา
ปัญหาเรื่องพระอาทิตย์
เมื่อครั้งที่ ”ขงจื้อ” เดินทางท่องเที่ยวไปตามแคว้นต่าง ๆ ในประเทศจีน มีคราวหนึ่งขณะที่เขากำลังนั่งอยู่บนรถที่กำลังวิ่งอยู่นั้น ขงจื้อมองไปยังข้างถนน เห็นเด็กชายสองคนกำลังถกเถียงกันอยู่ ในขณะนั้นขงจื้อนั่งอยู่บนรถซึ่งห่างจากเด็กทั้งสองพอสมควร จึงทำให้ได้ยินเรื่องราวไม่ชัดเจนว่าเด็กทั้งสองกำลังถกเถียงกันเรื่องอะไร แต่เขาก็มองเห็นว่าเด็กทั้งสองกำลังตอบโต้กันด้วยวาจาอย่างหน้าดำหน้าแดง
เสียงของเด็กทั้งสองดังขึ้นเรื่อย ๆ และดูท่าทีจะลงมือลงไม้กันแล้ว ขงจื้อจึงตัดสินใจลงจากรถ แล้วเดินไปหาเด็กทั้งสองโดยเขาตั้งใจจะช่วยไกล่เกลี่ย
ขงจื้อเอ่ยถามเด็กทั้งสองว่า “พวกเธอกำลังถกเถียงกันเรื่องอะไรอยู่หรือ”
เด็กชายคนหนึ่งพูดขึ้นว่า “คุณลุงเป็นใครครับ
เรื่องที่คุณลุงรู้ จะต้องมากกว่าที่พวกผมรู้แน่ ๆ ขอเชิญคุณลุงช่วยเป็นกรรมการตัดสินให้พวกเราด้วยนะครับ”
ขงจื้อจึงตอบเด็กชายว่า “ข้าคือขงจื้อ แห่งแคว้นหลู่ เชิญเจ้าบอกกับข้าก่อนเถอะว่า พวกเจ้ากำลังถกเถียงกันเรื่องอะไร”
เด็กชายอีกคนพูดขึ้นทันทีที่ได้ยินคำตอบแรกของขงจื้อ “ที่แท้คุณลุงก็คือขงจื้อ คุณลุงต้องสามารถตัดสินปัญหานี้ ให้พวกเราได้แน่ ๆ เพราะใคร ๆ ต่างก็รู้ว่าคุณลุงเป็นคนที่ฉลาดที่สุดในโลก”
ขงจื้อจึงพูดกับเด็กทั้งสองว่า “พวกเจ้ารีบบอกปัญหาให้ข้าฟังสิ”
เด็กชายคนหนึ่งพูดว่า “ผมคิดว่าเมื่อพระอาทิตย์โผล่พ้นขอบฟ้าในเวลาเช้าจะอยู่ใกล้ตัวเรา ส่วนเวลาเที่ยงมันจะอยู่ไกลออกไป”
เด็กชายอีกคนหนึ่งรีบพูดขึ้นทันทีว่า “ที่เขาพูดนั้นไม่ถูกต้อง ผมคิดว่าพระอาทิตย์ในตอนเช้าอยู่ไกลออกไป ส่วนตอนกลางวัน มันจะอยู่ใกล้ตัวเรามากกว่า”
ขงจื้อได้ฟังดังนั้นจึงถามต่อไปว่า “พวกเธอลองอธิบาย เหตุผลของตัวเองมาสิ”
เด็กคนแรกครุ่นคิดครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดว่า “พระอาทิตย์ขณะที่เพิ่งพ้นขอบฟ้าในเวลาเช้านั้นมีดวงกลมโต โตพอ ๆ กับล้อรถเลยทีเดียว แต่พอกลางวันมันก็เล็กลงเหลือขนาดราว ๆ ชามข้าวเท่านั้น สิ่งของยิ่งอยู่ไกลก็ยิ่งดูเล็ก ฉะนั้นแสดงว่าพระอาทิตย์ในตอนเช้าอยู่ใกล้ ตอนกลางวันอยู่ไกลครับ”
เด็กชายอีกคนเอ่ยขึ้นในทันทีที่เด็กชายคนแรกพูดจบ “ผิดโดยสิ้นเชิง ในตอนเช้าพระอาทิตย์เพิ่งออกมา พวกเรารู้สึก เย็นสบาย แต่พอถึงตอนเที่ยงมันก็ส่องแสงจนคนเหงื่อท่วมตัว เวลาเราอยู่ใกล้ไฟก็จะรู้สึกร้อน ถ้าอยู่ห่างออกมาก็จะไม่ค่อยรู้สึกร้อน ดังนั้นผมคิดว่าพระอาทิตย์ตอนเที่ยงอยู่ใกล้ตัวเรามากกว่า”
เมื่อเด็กทั้งสองอธิบายความคิดของตนเองจนจบ เขาก็หันไปถามขงจื้อในทันทีว่าจริง ๆ แล้วความคิดของใครถูกต้องที่สุด
ขงจื้อดูเหมือนจะได้รับความลำบากใจจากปัญหานี้ไม่น้อย เขาไม่รู้จะตอบเด็ก ๆ อย่างไร จึงนิ่งเงียบไปชั่วขณะ
และแล้วเขาก็ตอบเด็กทั้งสองไปว่า “ฉันยังไม่อาจตัดสินโดยเด็ดขาดได้ ว่าความคิดของพวกเธอคนใดถูกต้อง เพราะฉันเอง ก็ยังไม่เคยวิจัยเรื่องนี้มาก่อน”
เด็กสองคนนั้นคิดในใจว่า “ขงจื้อได้ชื่อว่าเป็นนักวิชาการที่เก่งที่สุด แต่ปัญหานี้ แม้กระทั่งขงจื้อยังตอบไม่ได้ แล้วพวกเรา นั้นมีความรู้สักเท่าไรเชียว จึงได้ปักใจเชื่อหัวชนฝาว่าความคิดของตนถูกต้อง ช่างเป็นเรื่องไม่สมควรจริง ๆ”
ท่านทั้งหลาย...
เคยเป็นคนดื้อดึง ปักใจมั่น เชื่อในความคิดของตนเองจน ไม่ยอมรับฟังความคิดของผู้อื่นบ้างหรือไม่
แก้วน้ำที่ปิดฝาอยู่ ต่อให้นำน้ำมาเทสักโอ่ง น้ำก็ไม่สามารถ เข้าไปในแก้วได้แม้สักหยดเดียว แต่ถ้าเปิดฝาออกแล้วเทนน้ำลงไป ประเดี๋ยวก็เต็มเปี่ยมฉันใด ถ้าเราเปิดใจให้กว้าง ก็จะได้เรียนรู้ เรื่องราวต่าง ๆ มากมาย ไม่เป็นกบในกะลาครอบฉันนั้น
ขอให้ดูตัวอย่างขงจื้อ แม้ได้รับการยกย่องว่าเป็นปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ในยุคนั้น แต่เมื่อต้องเผชิญกับเรื่องราวที่ตนเองไม่รู้ ก็บอกตามตรงว่าไม่รู้ ไม่มีอาการกลัวหน้าแตกแล้วตอบส่งเดชไป คนไม่รู้แล้วไม่ชี้ ยังดีกว่าคนไม่รู้แต่ชี้ แล้วชี้ผิด ๆ พาคนอื่นเข้าใจผิดตาม ๆ กัน
ความรู้ต่าง ๆ ในโลกอันเกิดจากการขบคิดไตร่ตรองด้วย
เหตุผลของนักวิชาการที่เก่งเพียงใด ก็ล้วนมีโอกาสผิดพลาดทั้งสิ้น
ทฤษฎีต่าง ๆ ในโลก ตั้งขึ้นแล้วก็มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา เพราะเป็นความรู้ที่เกิดจากความคิด ซึ่งมีเพียงความรู้ ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า อันเกิดจากการทำสมาธิภาวนาเท่านั้น ที่จะทนทานต่อการพิสูจน์ ไม่ว่าจะในยุคสมัยใดก็ตาม
มหาสมุทรซึ่งเป็นที่ไหลมารวมกันของน้ำจากทุกสารทิศ จะต้องมีระดับพื้นที่ตํ่ากว่าพื้นที่ตรงต้นน้ำทั้งหลายฉันใด ผู้ที่ ต้องการจะรับการถ่ายทอดคุณความดีจากบุคคลทั้งหลาย ก็ต้องมีความอ่อนน้อมก่อนฉันนั้น

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา