“บางครั้ง ความเงียบ...ก็เขียนเรื่องราวของหัวใจได้ไพเราะกว่าคำพูด” เราทุกคนต่างมี "ใครบางคน" ที่หัวใจยังเขียนถึง แม้เวลาจะพาให้เดินแยกกันไกลแค่ไหน เรื่องราวในเล่มนี้เริ่มต้นจากจดหมายเก่าฉบับหนึ่ง... ไม่มีชื่อผู้ส่ง ไม่มีคำอธิบาย มีเพียงประโยคสั้น ๆ ที่ว่า “หัวใจยังเขียนถึงเธอ” ฉันเชื่อว่าในชีวิตจริงของหลายคน อาจเคยมีข้อความบางอย่างที่ไม่เคยถูกส่งออกไป บางความรู้สึกที่ไม่เคยถูกเอ่ย และบางคนที่เราไม่อาจลืม แม้ไม่พบกันอีกเลย “หัวใจยังเขียนถึงเรา” จึงไม่ใช่แค่นิยายรักของชายหญิงคู่หนึ่ง แต่คือบันทึกของหัวใจที่ค่อย ๆ เรียนรู้ว่า รัก...ไม่จำเป็นต้องมีคำพูดใหญ่โต แค่กล้าอยู่ข้างกันในวันที่ธรรมดา และยังอยากเขียนถึงกัน…แม้ไม่มีตอนจบที่สมบูรณ์ ทุกตัวอักษรในเล่มนี้ถูกเขียนขึ้นด้วยความอ่อนโยน ด้วยความตั้งใจจะฝากไว้ให้ใครสักคนที่ยัง “รอ” และอาจจะได้พบคำตอบของหัวใจตัวเองในหน้าหนึ่งของเรื่องนี้ ขอบคุณทุกดวงใจที่ยังเชื่อในความงามของความรัก ไม่ว่าจะผ่านมากี่ฤดูฝน ขอให้ทุกหยดน้ำในเรื่องนี้ กลั่นออกมาเป็นรอยยิ้มเล็ก ๆ ในใจคุณนะคะ �� ด้วยรักและศรัทธาในความอบอุ่นของมนุษย์, – ผู้เขียน “หัวใจยังเขียนถึงเรา” –
เสียงฝน... บางครั้งก็เหมือนเสียงของใจ ตกลงมาครั้งแล้วครั้งเล่า จนเราไม่แน่ใจว่า…มันคือความเศร้า หรือความอบอุ่นกันแน่ นิยายเรื่อง “ในแสงใจ... มีเงาฝัน” เกิดจากความตั้งใจอยากเล่าเรื่องของความสัมพันธ์ที่เติบโตอย่างเงียบงัน ไม่เร่งรีบ ไม่หวือหวา แต่แนบแน่นทีละนิด คล้ายกลิ่นหอมของกาแฟในเช้าฝนพรำ หรือรอยยิ้มบางเบาจากคนที่เข้าใจ...โดยไม่ต้องเอ่ยคำใด ขอบคุณทุกแรงบันดาลใจจากวันฝนตก จากร้านกาแฟเล็ก ๆ ที่มีเสียงเพลงคลอเบา ๆ และจากหัวใจที่ยังเชื่อว่า... ความรักที่ไม่เร่งรีบ คือความรักที่ยาวนาน ขอให้ทุกคนเจอ “แสงใจ” ของตัวเอง ไม่ว่าเงาฝนนั้นจะยาวนานเพียงใด ด้วยใจ นลินฟ้า พิมพ์สกุล
บางครั้ง... ความรักไม่ได้เริ่มต้นจากวันแรกที่เราพบกัน แต่อาจเริ่มตั้งแต่วันที่เรายังไม่รู้ด้วยซ้ำว่า “หัวใจ” คืออะไร มีใครบางคนในชีวิตของเรา ที่ไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหน เพียงได้ยินชื่อเขา หัวใจก็ยังเต้นในจังหวะเดิม และแม้กาลเวลาจะพัดพาให้เราเติบโตแยกทาง แต่ความรู้สึกบางอย่างกลับไม่เคยเลือนหายไปจากใจเลย “สุดปลายฟ้าที่มีเธอ” คือเรื่องราวของ ฟ้า และ พีท สองหัวใจที่เคยเติบโตเคียงกันในเมืองเล็กริมทะเล ก่อนจะพลัดพรากด้วยเส้นทางชีวิตที่แตกต่าง และกลับมาพบกันอีกครั้งในวันที่ต่างฝ่ายต่างมีเรื่องราวของตัวเอง ในคลื่นของวันวานและเสียงหัวใจที่ไม่เคยเงียบ ทั้งคู่จะได้เรียนรู้ว่า — รักแท้ไม่ใช่การรอคอยที่สิ้นสุด แต่คือ “การได้พบอีกครั้ง” เมื่อเราพร้อมจะรัก... ด้วยหัวใจที่เข้าใจมากกว่าเดิม เพราะบางครั้ง “สุดปลายฟ้า” อาจไม่ใช่ที่ที่ไกลสุดสายตา แต่อยู่ตรงที่หัวใจของเรายังมี “ใครคนหนึ่ง” อยู่เสมอ นลินฟ้า พิมพ์สกุล — ผู้เขียน
มีบางครั้งในชีวิต...ที่หัวใจเดินหลงทาง ไม่ใช่เพราะเราไม่รู้ว่าควรไปที่ใด แต่เพราะเราถูกคาดหวังให้ไปในทางที่ไม่ใช่ของเรา สายขิมอาจเป็นเพียงหญิงสาวธรรมดาคนหนึ่ง ที่วันหนึ่งตัดสินใจวางความฝันของใครบางคนลง เพื่อจะได้ออกเดินตามเสียงเรียกแผ่วเบาในใจตนเอง ในขณะเดียวกัน พี่ชล...ชายหนุ่มผู้สงบงามดั่งผืนฝน ผู้เคยฝากหัวใจไว้ในอดีตอันแสนเจ็บปวด กลับเรียนรู้ที่จะอยู่อย่างเงียบงัน ท่ามกลางความคิดถึง โดยไม่รู้เลยว่า…ใครบางคนจะเข้ามาเติมเต็มอีกครา นิยายเรื่องนี้ไม่ได้เร่งเร้า ไม่ได้หวือหวา หากแต่ค่อย ๆ พาเราก้าวย่างไปทีละน้อย ในบรรยากาศของเมืองเล็ก ๆ กลางฤดูฝน ที่ทุกคำพูด ทุกสายตา และความเงียบ...ล้วนมีความหมาย ขอให้ทุกท่านได้พักใจ และปล่อยให้เสียงฝน…พาไปพบแสงใจของตนเอง นล้นฟ้า พิมพ์สกุล— ผู้เขียน
บางการเดินทางเกิดจากความจำเป็น บางการเดินทางเกิดจากความอยากรู้ แต่สำหรับฉัน... การเดินทางในเล่มนี้ เกิดจากความเงียบ ในใจ ที่อยากฟังเสียงของตนเองให้ชัดขึ้น ฉันไม่ได้เป็นนักท่องเที่ยวที่แสวงหาความตื่นเต้น ไม่ใช่นักเขียนที่มองหาภาพสวยเพื่อบันทึก หากแต่เป็นเพียง “ผู้เดินทาง” ที่ก้มหน้ามองเงาตนเอง ในทุกย่างก้าวที่ผ่านเส้นทางและเขียนทุกถ้อยคำจากหัวใจที่เปลือยเปล่า จดหมายถึงปลายฟ้า ไม่ใช่เพียงจดหมายถึงสถานที่หนึ่งหรือใครสักคนแต่มันคือจดหมายถึงตัวเองในวันที่อ่อนแอ วันที่หายใจเหนื่อย วันที่หัวใจต้องการอ้อมกอดจากธรรมชาติ และบางครั้ง…จากคำปลอบโยนที่ไม่มีเสียงตอบกลับ ขอขอบคุณทุกสถานที่ที่ฉันได้ไปเยือน ขอบคุณผู้คนธรรมดาที่ทำให้หัวใจฉันสว่างขึ้นทีละน้อย ขอบคุณความเงียบ ความเหงา ความเปลี่ยว และความไม่สมบูรณ์แบบ ที่ทำให้การเดินทางนี้มีความหมายยิ่งขึ้นกว่าที่คิด หากจดหมายเล่มนี้จะช่วยปลอบใครสักคน ให้ใจเขานุ่มลง ให้เขายิ้มบางๆ กับชีวิต ฉันก็ถือว่าการเดินทางของฉัน...ได้เดินทางถึงแล้วจริงๆ ด้วยหัวใจ ปลาย-ดาว ผู้เดินช้าๆ ใต้ฟ้าเดียวกัน