27 เม.ย. 2020 เวลา 05:10 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
เมื่อไม่นานมานี้ มีข่าวความเคลื่อนไหวล่าสุดของ Libra สกุลเงินที่ใคร ๆ ก็ว่าจะมาเปลี่ยนโลกกัน
โดยได้มีการออกเอกสาร White Paper 2.0 เพื่อเป็นการ Update วิธีการและรูปแบบต่าง ๆ ที่เปลี่ยนแปลงไปจาก 1.0 ที่เรียกเสียงฮือฮาในโลกออนไลน์ เมื่อเดือน มิถุนายน ปีที่แล้ว
ถ้าถามว่ามีอะไรที่น่าสนใจและมีอะไรที่เปลี่ยนไป ผมรวมมาให้อ่านกันในบทความเดียว ใครที่ยังไม่เคยอ่านเรื่อง Libra อ่านได้ ใครเคยอ่านแล้ว ยิ่งอ่านดี
เอ้า เริ่ม!!
ก่อนอื่นต้องมาทำความเข้าใจกันสักหน่อยว่า Libra คืออะไร สำหรับคนที่ไม่เคยติดตามเรื่องนี้เลย
แต่ถ้าใครรู้อยู่แล้ว ข้ามไปที่ย่อหน้าถัดไปได้เลย
Libra คือสกุลเงิน ดิจิทัล รูปแบบหนึ่งที่อาศัยระบบการจัดการที่เรียกว่า Blockchain มาใช้ (*1)
ความใฝ่ฝันของ Libra นั้นคือการสร้าง "อิสระทางการเงิน" คือการที่ใครต่อใครสามารถเข้าถึงเงินได้หมด(*2)ไม่ว่าจะเป็นชนชั้นไหน ขอเพียงแค่มี Internet และสามารถใช้งานมันได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว
*1 แนะนำว่าให้อ่านตัวซีรีส์ของผม ได้อธิบายไว้เรียบร้อยแล้วในตอนที่ 4
*2 เนื่องจากว่าประชากรส่วนใหญ่บนโลกไม่สามารถเข้าถึงระบบธนาคารแต่เข้าถึง Internet มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์กเลยมองว่า อยากที่จะทำให้คนเข้าถึงได้งาย ๆ แค่ใช้ผ่าน internet
แต่เมื่อปีที่แล้ว พอออก ข้อกำหนด การใช้งาน เอกสารชี้แจงต่าง ๆ ออกมา ปรากฎว่า โดนด่าเพียบ!!
มีแต่คนจองกฐิน รุมยำ ซะจนพี่ มาร์ค มึนไปเลยทีเดียว เหตุผลหลัก ๆ นั่นเพราะสิ่งที่เสนอมานั้นมัน ไม่สามารถควบคุมได้นั่นเอง!! ลองคิดเล่น ๆ ว่าถ้าเรื่องเงินและตรวจสอบควบคุมไม่ได้มันจะเละเทะแค่ไหนกัน??
นั่นแหละครับเป็นประเด็นที่ทำให้ เจ้าภาพร่วม 27 บริษัท ถอนตัวออกไป จนเหลือ 22 บริษัท และมีมาเพิ่มใหม่อีก 1 จนตอนนี้มีทั้งหมด 23 บริษัท
แต่พวกเขาไม่ยอมแพ้ครับ ได้ทำ คอมเม้นต์ ต่าง ๆ ที่โดนมาในรอบที่แล้ว ไปปรับปรุงแก้ไขใหม่ จนในที่สุดก็คลอด White Paper 2.0 ออกมาให้เราได้ยลโฉมกัน
Libra รอบนี้มีอะไรน่าสนใจบ้าง??
การเปลี่ยนแปลง หลัก ๆ แบ่งเป็น 4 หัวข้อครับ นั่นก็คือ
1. รูปแบบของ libra coin ที่เปลี่ยนไป
2. กำหนดกลุ่มผู้ให้บริการ Libra อย่างชัดเจน
3. เปลี่ยนข้อกำหนดใหม่สำหรับการเข้ามาเป็นสมาชิก
4. มีระบบป้องกันที่แข็งแกร่งที่มากขึ้นของ Libra Reserve
แต่ละข้อคืออะไรบ้าง??
บอกเลยว่ารายละเอียดที่สำคัญทั้งหมด อยู่ใน 4 ข้อใหญ่ที่แหละครับ เพื่อให้เข้าใจมากขึ้น มาเจาะกันเป็นข้อ ๆ เลย ดังนี้ครับ
1. รูปแบบของ Libra coin ที่เปลี่ยนไป
แต่เดิม Libra นั้น มีแค่ รูปแบบเดียว ที่อิงค่าเงินจาก สกุลหลัก 5 สกุลเงิน แต่ใน 2.0 นั้นเปลี่ยนไป มี 2 รูปแบบ คือ
1.1 แบบ single-currency stablecoins คือ Libra+ชื่อสกุลเงิน ในครั้งนี้ Libra มองตัวเองเป็น Platform ให้แบงค์ชาติของแต่ละประเทศนั้นมาใช้ Platform ของตัวเอง และสามารถสร้างเงินดิจิทัลของตัวเองได้ในทันที โดยใช้อัตราส่วน 1:1 Ratio
1
เช่น แบงค์ชาติอเมริกาอยากได้ LibraUSD แต่ตัวเองไม่มีระบบที่จะสร้าง ก็มาที่ Libra ขอใช้ Platform จ่ายเงินให้ Libra 1,000,000 USD Libra ก็จะออก LibraUSD มาให้ 1,000,000 coin เอาไว้ใช้ในระบบต่าง ๆ ภายในประเทศ
ในแรกเริ่มนั้น มีตั้งต้นมาทั้งหมด 4 สกุลเงินได้แก่ USD, GBP, EUR และ SGD แต่เอกสารลงไว้ว่าสามารถเปิดรับสกุลอื่น ๆ ได้อย่างไม่จำกัด
นั่นก็หมายความว่า ถ้าประเทศไหนอยากมี Libra ใช้ในประเทศที่เป็นสกุลเงินของตัวเอง ก็สามารถมาใช้ Platform ของ Libra ในการผลิตเหรียญได้เลย
ซึ่งข้อดี ที่เขาการันตีไว้นั่นก็คือ สะดวก, รวดเร็ว, ปลอดภัย, และความหน่วงต่ำ เรียกว่าเรียกแขกกันสุด ๆ
1.2 แบบ Global Libra คือ สกุล Libra หลักที่ไม่มีอะไรต่อท้าย และใช้กันในระดับโลก
คือแบบแรกจะใช้ได้แค่ภายในประเทศของตัวเองเท่านั้นนะครับ ไม่ได้ใช้นอกประเทศ ถ้าจะ Transfer กัน จะต้องใช้แบบหลังนี้
ซึ่ง Libra หลักนี่ก็จะมีมูลค่าเป็นค่าเฉลี่ยของสกุลเงิน 4 สกุล ได้แก่ USD, GBP, EUR และ SGD นั่นเอง
สรุปก่อนไปข้อ 2 แบบแรกนั้นจะเป็นเหรียญที่ใช้ภายในประเทศเท่านั้น ไม่สามารถใช้ข้ามประเทศได้ และมีอัตราการแลกเปลี่ยนจากเงิน ปกติเป็น เหรียญดิจิทัลแบบ 1 ต่อ 1 แต่ถ้าเกิดอยากซื้อของต่างประเทศ โอนเงินไปต่างประเทศ ก็จะใช้ แบบที่ 2 คือ Libraglobal ที่เรียกได้ว่าเป็นเสมือนค่าเงินกลางของโลกยุคใหม่ ในอนาคตปลายทางการรับโอนอาจจะถามเราว่าจะจ่ายเป็น Libra coin รึเปล่า ซึ่งจ่ายกี่เหรียญ ก็แค่เอาเงินที่มีไปแลกเอา
2. กำหนดกลุ่มผู้ให้บริการ Libra อย่างชัดเจน
เมื่อมีเหรียญ Libra ใช้กันแล้วทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ก็ต้องมีการกำหนด คนที่สามารถเข้ามาใช้งานได้อย่างชัดเจนด้วยเช่นกัน โดยมีการแบ่งกลุ่มเหล่านี้ เป็น 4 กลุ่มหลัก ๆ ดังนี้
2.1 Designated Dealers หรือจะเรียกว่าตัวแทนจำหน่ายรายใหญ่ก็ได้
จะเป็น หน่วยงานของรัฐ หรือองค์กรอิสระ ก็แล้วแต่ สามารถเข้าไป ทำข้อตกลงกับ Libra เพื่อที่จะขอนำ Platfrom Libra มาใช้เพื่อออกสกุลเงินของตัวเอง ถ้ามองระดับประเทศ ก็คงจะเป็น แบงค์ชาติ หรือตัวแทนของประเทศที่จะมาขอใช้ Platform นั่นเอง
2.2 Virtual Asset Service Providers (VASP)
หรือพูดง่าย ๆ ก็คือตัวแทนสำหรับ Exchange Libra coin อย่างถูกกฎหมายนั่นเอง ถ้ามองภาพ ในปัจจุบัน ก็คงจะประมาณ Super rich ในบ้านเรานี่แหละ แต่ตรงนี้มีข้อกำหนดว่า จะต้องได้ใบอนุญาติ Financial Action Task Force (FATF) ที่สหรัฐอเมริกาก่อน เพื่อจะได้เป็นผู้ประกอบธุรกิจภายใต้ใบอนุญาต (Regulated VASPs) ถึงจะให้บริการได้
2.3 VASP ที่ไม่มีใบอนุญาติแบบข้อ 2
ข้อนี้ง่าย ๆ ครับ คือ ผู้ประกอบการแลกเปลี่ยนต่าง ๆ ที่ไม่มีใบอนุญาติแบบข้อ 2 สามารถที่จะไปขอใบอนุญาติได้โดยตรงกับทาง Libra ซึ่ง Libra จะเป็นคนตรวจสอบเองทั้งหมด Approve เองทั้งหมด ถ้าผ่านก็สามารถที่จะประกอบการได้
2.2 และ 2.3 พูดง่าย ๆ ว่า คือตัวแทนในการแลกเปลี่ยน Libra coin นั่นเอง เพราะอย่างที่ได้บอกไปว่า มันจะมี 2 แบบ แบบแรกที่ใช้ในประเทศกับแบบที่ 2 ที่ใช้นอกประเทศ ไม่ว่าแบบไหนถ้าคนต้องการก็ต้องผ่านตัวแทนที่ว่าก่อนนี่แหละ
2.4 อื่นๆ
ง่าย ๆ อีกเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นบุคคล หรือ นิติบุคคล ที่ไม่เข้าข่าย 3 ข้อด้านบน และอยากที่จะให้บริการแลกเปลี่ยนจะตกที่ข้อนี้ทั้งหมด ซึ่งถ้ามองภาพให้ชัดไปอีก ก็น่าจะเป็น พวก ตัวกลางต่าง ๆ เช่น Line, grab, shopee พวกนี้แหละครับ ที่อยากจะให้เงิน Libra เข้ามาใช้เป็นตัวเลือกหนึ่งในการใช้งานด้วยเช่นกัน
ทั้งหมดทั้งมวลนี้ ใน White paper ยังไม่ได้มีการพูดถึงเรื่องค่าธรรมเนียมแต่อย่างใด ว่าจะออกมาถูกหรือแพงเพียงไหน ทำได้แต่เพียงต้องติดตามกันต่อไปว่าจะเป็นอย่างไร
3. เปลี่ยนข้อกำหนดใหม่สำหรับการเข้ามาเป็นสมาชิก
สำหรับใครที่ยังไม่รู้ ว่าการเป็นสมาชิกใน Libra ตอน 1.0 นั้นโหดหินแค่ไหน ผมจะบอกให้ฟัง
- มีมูลค่าบริษัทเกินพันล้านดอลลาร์
- ผู้ใช้เกิน 20 ล้านคน
- เป็นแบรนด์ระดับ 100 แบรนด์แรกของโลกในการจัดอันดับรายใหญ่
คุณต้องมีคุณสมบัติ 2 ใน 3 ข้อนี้จึงจะสามารถเข้ามาเป็นได้
แต่นี่คือ 2.0 และทุกอย่างได้เปลี่ยนไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วจาก คุณสมบัติ ด้านบนตอนนี้ได้หายไปเป็นที่เรียบร้อย เพราะในตอนแรก เขาบอกว่าไม่มีการตรวจสอบคนที่เข้ามาเป็นสมาชิก ขอแค่มีคุณสมบัติ ข้อนี้ทำให้หลาย ๆ ฝ่ายกังวล ว่าถ้ามีคนไม่ดีเข้ามาเป็นสมาชิกและคดโกงจะทำยังไง
ใน 2.0 นี้จึงแก้ข้อนี้ให้มีการตรวจสอบอย่างเข้มข้นก่อนที่จะได้เข้ามาเป็นสมาชิกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คร่าว ๆ ก็คือ ต้องมีระบบรองรับที่ดีมากพอ ต้องจ่ายเงินช่วยสนับสนุน และถูกตรวจหลังบ้านด้วยอีกมากมาย
4. มีระบบป้องกันที่แข็งแกร่งที่มากขึ้นของ Libra Reserve
ต้องบอกแบบนี้ก่อนครับ โดยปกติแล้ว เวลาเราเอาเงินไปฝากธนาคาร ธนาคารไม่ได้เก็บเงินเราไว้เต็ม 100% แต่จะนำเงินส่วนหนึ่งไปปล่อยกู้หรือลงทุนต่อไป และสำรองไว้ 10% กันเวลาเรามาถอนออก เลยมีคำพูดที่บอกว่าถ้าเกิดทุกคนแห่ไปแบงค์และถอนเงินออกหมดรับรองแบงค์ได้ล้มละลายแน่นอน
Libra เองก็เช่นกัน เขาบอกว่ามีการสำรองเงิน แบบ 1 ต่อ 1 สำหรับการผลิตเหรียญ
ถ้ามองง่าย ๆมันก็ไม่ต่างกับธนาคารจริงไหมครับ แต่เพื่อความมั่นคงที่ต้องมีมากกว่า ธนาคาร Libra เลยบอกว่า จะสำรองเป็นเงินสดไว้ถึง 20% ส่วนที่เหลือ จะนำไปลงทุนในตราสารรัฐบาลระยะสั้น ไม่เกิน 3 เดือน เพื่อกินกำไรส่วนต่างเพียงเล็กน้อย และสามาถซื้อขายได้อย่างรวดเร็ว ในกรณีที่มีคนมาถอนเงินที่ขอสร้างเอาไว้
นอกจากนี้ยังมีการจัดตั้งกองทุน Capital buffer ขึ้นมาสำหรับในกรณีที่ต้องนำเงินสำรองเวลาฉุกเฉินมาใช้ จริง ๆ ซึ่งเงินตรงนี้ก็ไม่ได้บอกว่า นำมาจากไหน (แต่ถ้าจะให้เดา ก็น่าจะเป็นจากสมาชิกนี่แหละ ที่ต้องลงขันกัน)
จบไปแล้วกับ 4 ข้อสำคัญของ Libra 2.0 ที่มีทั้งการปรับเปลี่ยน หรือเปลี่ยนไปสิ้นเชิงเลยก็มี
ถ้ามองให้ดี ตอนนี้ Libra จะกลายเป็นเสมือน Paypal รูปแบบ ใหม่ที่ใช้ Blockchain ไปซะแล้ว ซึ่งอาจจะไม่ตรงกับวัตถุประสงค์แรกเริ่ม ที่อยากให้ใช้อย่างอิสระมากกว่านี้
แต่แน่นอนว่า เรื่องของการเงิน ต้องอยู่ภายใต้กฎหมายที่สามารถควบคุมได้ ไม่เช่นนั้น จะมีการกระทำที่ผิดกฎหมายเต็มไปหมด
สุดท้ายก็เลยต้องปรับข้อตกลงการใช้งานต่าง ๆ ให้มาอยู่ในกฎในเกณฑ์ มากขึ้น
แต่ว่า ท้ายที่สุดแล้วจะผ่านหรือไม่ผ่าน สภาครองเกส ของสหรัฐนั้น ก็ต้องมานั่งลุ้นกัน
ที่น่าสนใจก็คือ จีนได้ประกาศไปแล้วว่าจะทดลองใช้ Digital Yuan ที่ใช้ระบบ Blockchain เหมือนกัน งานนี้ สหรัฐจะยอมนิ่งดูดายปล่อยให้จีนเปิดตัวใช้ไปชิว ๆ หรือว่าจะรีบ แก้เกมกลับ ดึง Libra มาชูโรง และออกไปท้าชนกับ Digital Yuan กันแน่
ผลสรุปจะเป็นอย่างไรเรื่องนี้คงต้องติดตามกันในอนาคต
และถ้าถามว่า ไอ้ Digital Currency นี่มันสำคัญยังไง ตอนนี้หลาย ๆ คนคงจะไม่เข้าใจ และมองว่ามันน่าจะไกลตัว
แต่สำหรับผม เชื่อเป็นอย่างยิ่งว่า นี่แหละ คือสิ่งที่จะมาเปลี่ยนแปลงโลกแห่งการเงินอย่างแท้จริง ซึ่งดูจากเวลาแล้ว ก็คงอีกไม่นานเกินรอ
Ref
2. ผมฟังคุณท๊อป จิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา พูดใน Live แล้วมาใส่ภาษาแบบอ่านงา่ยเข้าใจกันทุกคน

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา