29 ส.ค. 2020 เวลา 16:05 • ธุรกิจ
คุณมีหรือยัง?
"Learning Agility สมรรถนะสุดสำคัญของบุคคลในโลกของการเปลี่ยนแปลง"
Learning Agility คืออะไร?
Learning Agility is “knowing what to do when you don’t know what to do.”
คือ การที่เรามีจิตใต้สำนึกเรียนรู้ได้เองว่า ควรทำอะไร ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านั้นเราไม่เคยรู้หรือคาดการณ์ว่าจะทำมันมาก่อน
Dr. W. Warner Burke นักวิชาการจาก The Teachers College at Columbia University ได้กล่าวว่า..
ผู้ที่มี Learning Agility นั้น คือ ผู้ที่เชื่อมโยงข้อมูลจากประสบการณ์ในอดีตและปัจจุบัน และสามารถใช้ข้อมูลนั้นทำความเข้าใจในสิ่งต่าง ๆ บนโลกที่เปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา
1
ในขณะที่ นักวิชาการด้านโค้ชชิ่ง อธิบายลักษณะของ Learning Agility ว่า เป็นความสามารถในการประยุกต์ใช้สิ่งที่ได้เรียนรู้จากประสบการณ์ได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงมีความยืดหยุ่นในการเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ที่ไม่คุ้นเคย หรือเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอแบบไม่หยุดนิ่ง
Learning Agility ยังหมายถึง ความต้องการศึกษาหาความรู้อย่างรอบด้านในหลาย ๆ แขนง และทำความเข้าใจ พร้อมทั้งเชื่อมโยงหลักการที่เป็นแก่นสำคัญของแขนงต่าง ๆ เหล่านั้น โดยนำหลักการสำคัญที่ได้เรียนรู้มาประยุกต์ใช้กับสิ่งที่เรามีความเชี่ยวชาญอยู่เดิม นำไปสู่การสร้างสรรค์สิ่งใหม่ที่เป็นประโยชน์
โดยผู้ที่มีคุณลักษณะข้างต้นเรียกว่า “Expert-Generalist” หรือ “ผู้รอบรู้อย่างลึกซึ้ง”
2
#สาระจี๊ดจี๊ด
ดร.มาร์แชล โกลด์สมิท (Marshall Goldsmith) โค้ชเบอร์หนึ่งของโลก ได้กล่าวไว้ว่า...
"Learning Agility เป็นหนึ่งในสมรรถนะที่สำคัญของบุคคลในโลกของการเปลี่ยนแปลง"
7 ทักษะสำคัญสำหรับผู้ที่มี Learning Agility สูง ได้แก่
1. การเป็นนักแก้ไขปัญหา (Problem Solver)
2. เป็นผู้นำทางความคิด (Thought Leader)
3. เป็นผู้บุกเบิก (Trailblazers)
4. เป็นแชมเปี้ยนในทุกเรื่อง (Champion)
5. เป็นเสาหลักในการทำงาน (Pillar)
6. เป็นนักการทูต (Diplomats)
7. เป็นผู้ทำให้ (ทีมงาน) เกิดพลัง (Energizers)
ถ้าอยากรู้ว่าเรามีสมรรถนะด้าน Learning Agility หรือไม่ ลองตอบคำถามเหล่านี้
1
1. Mental Agility – คุณไม่มีปัญหาในการเผชิญกับความยุ่งยากซับซ้อน?
2. People Agility – คุณเป็นคนที่มีทักษะในการสื่อสารที่ดีมากโดยเฉพาะในการทำงานร่วมกับกลุ่มผู้คนที่หลากหลายได้?
3. Change Agility – คุณชอบทดลอง และไม่กลัวที่จะเป็นผู้นำในการเปลี่ยนแปลงใด ๆ?
4. Results Agility – คุณสามารถทำผลงานได้ดี แม้ว่าจะเป็นอะไรที่ทำเป็นครั้งแรก?
5. Self-Awareness – คุณรู้ว่าจุดแข็ง และจุดอ่อนของคุณคืออะไร ?
1
Elon Musk – แบบอย่างของผู้ที่มี Learning Agility
วิธีการเรียนรู้หลักๆ 2 อย่างของ Elon Musk คือ
1. อ่านมากและหลากหลาย
Elon Musk อ่านหนังสือวันละ 2 เล่ม หากคำนวณปริมาณต่อเดือน เท่ากับว่า เขาอ่านหนังสือเดือนละ 60 เล่มด้วยกัน โดยหนังสือที่เขาอ่านนั้นเป็นความรู้จากหลากหลายแขนง ไม่ว่าจะเป็น การเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ชีวประวัติของนักวิทยาศาสตร์ วิศวกรรม การเป็นผู้ประกอบการ ฟิสิกส์ การออกแบบสินค้า ธุรกิจ เทคโนโลยี พลังงาน นิยายวิทยาศาสตร์ หรือแม้กระทั่ง ปรัชญา และศาสนา ซึ่งความรู้ที่หลากหลายนี้ช่วยให้ Elon Musk สามารถนำไปต่อยอดให้เกิดองค์ความรู้ใหม่ ๆ ได้
2. ถ่ายโอนความรู้ (Learning Transfer)
การถ่ายโอนความรู้ของ Elon Musk นั้นเป็นสิ่งที่เขาทำต่อเนื่องมาจากการอ่าน เขานำความรู้ที่ได้จากเรื่องหนึ่งมาประยุกต์ใช้กับอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งแน่นอนว่าเขาต้องเข้าใจถึงหลักการพื้นฐานสำคัญก่อน จึงจะสามารถถ่ายโอนความรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสร้างสรรค์สิ่งต่าง ๆ จากองค์ความรู้ใหม่ที่เกิดขึ้น
1
ผู้ที่มี Learning Agility ในประเทศไทย เช่น
ท่านผู้ว่าฯ ณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร และทีมงาน (ภารกิจการค้นหา 13 หมูป่า)
การพัฒนาให้บุคคลมี Learning Agility อาจจะเป็นเรื่องง่ายดายสำหรับผู้ที่ชอบเรียนรู้ในสถานการณ์แปลกใหม่ แต่อาจใช้เวลามากขึ้นสำหรับผู้ที่ไม่ชอบสถานการณ์ที่เต็มไปด้วยความเสี่ยง หรือสถานการณ์ที่คาดเดายาก
ในระดับองค์กร การสร้าง Learning Agility ให้กับบุคลากรถือเป็นเรื่องสำคัญ
โดยเฉพาะในสถานการณ์ปัจจุบัน ที่องค์กรกำลังเผชิญหน้ากับความเปลี่ยนแปลงที่ยากต่อการคาดเดา องค์กรต้องการบุคลากรที่มีทักษะนี้ เพื่อรับมือกับปัญหาที่ซับซ้อนมากขึ้น การสร้างทักษะเหล่านี้ไม่เพียงแต่จำเป็นกับบุคลากรระดับผู้บริหาร แต่ควรจะสร้างให้เกิดกับบุคลากรทุกระดับ เพื่อผลักดันให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในระยะยาว
#Wasabi ขอเพียงมีส่วนเล็ก ๆ ที่ช่วยให้คุณ!
"เจริญเติบโต ก้าวหน้า สำเร็จ อย่างภาคภูมิใจ"
พิสูจน์อักษรโดย วาลีพ
#สาระจี๊ดจี๊ด #Wasabi #ความรู้ขึ้นสมอง
โฆษณา