2 ต.ค. 2020 เวลา 14:45 • ประวัติศาสตร์
บทสุดท้าย โฉมงามคลีโอพัตรา ในวันที่ถูกบีบให้เลือกระหว่างความตายกับการเป็นเชลย เมื่อชู้รัก มาร์ก แอนโทนีได้เลือกที่จะทำอัตนิบาตกรรมและทิ้งให้พระนางต้องสะสางทางเลือกด้วยตัวเอง การเลือกที่จะตายด้วยทางเลือกที่ทรมานน้อยที่สุด คงดีกว่าการตกเป็นเชลยที่ถูกเกลียดชัง
cr:YouTube.com
EP4.สุดท้าย ในตอนจบของบทความที่เกี่ยวเนื่องกับชีวิตของพระนางคลีโอพัตราที่ 7 บทสรุปวาระสุดท้ายของพระองค์
บุรุษที่พระองค์ได้เลือกเพื่อครองความเป็นใหญ่เหนือแผ่นดินอียิปต์ และในวันที่ไม่เหลือใคร ความพ่ายแพ้ บีบให้พระองค์ต้องเลือกที่จะฆ่าตัวตายหรือต้องไปอยู่ในกำมือศัตรูที่เกลียดชังพระองค์
มากุส อันโตนิอุส มาร์กี ฟีลีอุส มาร์กี แนโบส หรือ มาร์ก แอนโทนี แม่ทัพ นักการเมือง ผู้ปกครอง สหายและญาติของจูเลียส ซีซาร์
ซึ่งเป็นผู้ช่วยในการรวบรวมและขยายอาณาเขตแห่งโรม ให้มีความยิ่งใหญ่ ก่อนที่ จูเลียส ซีซาร์จะถูกลอบฆ่า และหลานซึ่งเป็นทายาทของเขาได้ขึ้นเป็นองค์จักรพรรดิองค์ที่1แห่งโรม
และนั้นคือบทสรุปเส้นทางที่ มาร์ก แอนโทนี ตัดสินใจเลือก คือออกจากโรมและทิ้ง อ็อตตาเวีย ภรรยา ซึ่งเป็นน้องสาวของอ็อตตาเวียส หรือเจ้าแห่งโรมคนใหม่หลังการตายของจูเลียส ซีซาร์ ซึ่งถูกลอบฆ่า การออกจากโรมของพระนางคลีโอพัตราในทันที น่าจะมีเขาที่คอยช่วยเหลือ
cr:YouTube.com
พ.ศ. 512 - 514 แอนโทนีเลือกมาอยู่กับพระนางคลีโอพัตรา พร้อมการสร้างความยิ่งใหญ่ให้อียิปต์ด้วยความสามารถของเขา และความลุ่มหลงที่มีให้กับพระนางคลีโอพัตรา จะด้วยความสวยงามหรือเพราะความเฉลียวฉลาดของพระนางคลีโอพัตรา ทำให้แอนโทนีพยายามทำทุกอย่างเพื่ออียิปต์และการมีบุตรกับพระนางถึง 3 คน คือ บุตรชายปโตเลมี ฟิลาเดลฟัส และลูกฝาแฝดชายหญิงคือ คลีโอพัตรา เซเลเนที่2 และอเล็กซานเดอร์ เฮอลิออสซึ่งเป็นที่รักของทั้งสอง อย่างมากมาย
แม้ว่าแอนโทนี ในวัย 50 กว่า และผ่านการสมรสมาหลายครั้ง แต่สิ่งหนึ่งที่แสดงว่าเขารักพระนางอย่างที่สุด คือการที่เขาทำทุกอย่างเพื่อพระนางคลีโอพัตราที่ 7 และเพื่อลูกของเขา เขาล่าดินแดน เพื่อขยายอำนาจ และการไม่ยอมสวามิภักดิ์ต่อโรม อาจเป็นการแสดงถึงความไม่ภักดีต่อจักรพรรดิองค์ใหม่แห่งโรม ท่าทีที่แข็งกร้าวและอดีตภรรยาที่เป็นน้องสาวขององค์จักรพรรดิถูกทอดทิ้งสร้างความเจ็บแค้น และความต้องการกำจัดศัตรู ทำให้องค์จักรพรรดิต้องการกำจัดหอกข้างแคร่และเหยียบอียิปต์ให้จม
จนในที่สุดทำให้เกิดสงครามการสู้รบระหว่างกัน ความได้เปรียบเป็นของจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ อียิปต์ถูกโรคระบาดเล่นงาน และภัยพิบัติทำให้กองกำลังของอียิปต์และทัพของแอนโทนี ไม่แข็งแกร่งเหมือนเดิม และทหารส่วนหนึ่งได้หนีกลับไปสวามิภักดิ์กับจักรพรรดิแห่งโรม
สงครามครั้งสุดท้ายของสาธารณโรมัน (31ปีก่อนคริสต์ศักราช)ยุทธนาวีอักติอุง เป็นสาเหตุให้กองทัพเรือของแอนโทนีแตกพ่าย และพระนางคลีโอพัตราชิงหนีออกจากสนามรบ เป็นสาเหตุให้แอนโทนีหนีทัพตามพระนางออกมา ก่อนที่มาร์กแอนโทนี จะทำอัตนิบาตที่เมืองอเล็กซานเดรียในวันที่1สิงหาคม พ.ศ. 514
cr:YouTube.com
พระนางคลีโอพัตรากับการที่ต้องอยู่กับความพ่ายแพ้ และสูญเสียที่พึ่งไป
ในประวัติศาสตร์ได้กล่าวอ้างถึงความโหดร้ายที่พระองค์ได้หาวิธีที่จะปลงพระชนน์ชีพของตัวเองด้วยวิธีการต่างๆ เช่นการทดลองใช้ยาพิษ (ซึ่งพระองค์น่าจะรู้ดีเพราะมีบางบันทึกได้บอกว่าพระองค์ได้ใช้ยาพิษกับองค์ฟาโรห์พระสวามีหรือน้องของพระองค์เอง การทดลองให้งูกัดทาสหรือหญิงรับใช้เพื่อสังเกต อาการก่อนสิ้นใจของคนเหล่านั้น
1
ในบันทึกบางเล่มบอกว่าพระองค์ใช้ยานอนหลับ หรืออาจจะเป็นยาเสพติดที่ออกฤทธิ์ให้ง่วงหลับก่อนปล่อยงูเห่าอียิปต์ให้กัดพระองค์
cr:YouTube.com
12 สิงหาคม พ.ศ.514 วันสิ้นพระชนน์ ทางเลือกสุดท้ายในฐานะผู้แพ้ปิดฉากลงเมื่อพระชนน์มายุ 39 พรรษา เมื่อจักรพรรดิแห่งโรมเสด็จมาถึง การสั่งฆ่าองค์ฟาโรห์ปโตเลมีที่15 ซึ่งเป็นโอรสของพระองค์กับซีซาร์
ปิดฉากอียิปต์ อาณาจักรโบราณยาวนานกว่า 3000ปีลง ลูกๆของพระองค์ที่เกิดกับมาร์กแอนโทนี ได้รับการช่วยเหลือจากอ็อตตาเวีย ภรรยาเก่าของแอนโทนีพากลับไปเลี้ยงดูที่อาณาจักรโรม
1
Tomb of Anthony and Cleopatra คาดว่าอยู่ในเมืองอเล็กซานเดรียในอียิปต์ แต่ไม่มีบันทึกการขุดเจอมัมมี่ของทั้งสองแต่อย่างใด
ประวัติศาสตร์ของอียิปต์ได้รับการบันทึกไว้เป็นอย่างดี แม้บาง
ส่วนสูญหายและถูกทำลายจากกาลเวลา แต่ก็ยังสามารถบอกเล่า
เรื่องราวในอดีต ความเจริญรุ่งเรืองที่อาจจะหาอาณาจักรใดมาเทียบ
ได้ บทบาทที่ต้องจารึกโลกไม่ลืมบทหนึ่งคือ พระนางคลีโอพัตราที่7
แห่งอียิปต์
สามารถติดตามep1-3ตามลิงค์ท้ายบทความ
reference
โฆษณา