7 ต.ค. 2020 เวลา 07:49 • การศึกษา
ปัญหาความรัก มาจากสิ่งที่ไม่ใช่ความรัก
“ปัญหาความรัก มาจากสิ่งที่มิใช่ความรัก” สิ่งที่มิใช่ความรักนั้นมักล่วงเกินหวังผล รวมทั้งยังมุ่งอยู่กับการก้าวก่ายกอบโกย
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา
ผมได้มีโอกาสเข้าไปแบ่งปันประสบการณ์
ให้กับรุ่นน้อง ป.ตรี สาขาจิตวิทยาได้รับฟังในหัวข้อ
“เส้นทางการเป็นนักจิตวิทยาการปรึกษาของผมเอง”
รวมทั้งยังมีโอกาสได้ตอบคำถามและความสงสัยของน้อง ๆ
เกี่ยวกับการทำงาน การพัฒนาตัวเอง
และแบ่งปันความเข้าใจเรื่องชีวิตอีกด้วยครับ
มีคำถามหนึ่งในช่วงท้ายที่น่าสนใจมากครับ นั่นคือ
“พี่ครับ…ปัญหาความรักที่ผู้รับบริการนำมาปรึกษานั้นเป็นยังไง”
ผมจึงตอบกลับไปว่า “ปัญหาความรัก…ไม่ได้มาจากความรัก”
(เล่นเอาทุกคนในห้องทำหน้างงและตื่นตาตื่นใจ 555)
ผมรู้สึกประทับใจประเด็นนี้เป็นพิเศษ
จึงขอหยิบยกสิ่งที่ได้บอกเล่ามาไว้ในบทความนี้ครับ ^^
ปรากฏการณ์ที่เรียกว่า “ความรัก”
เราอาจลองสังเกตจากธรรมชาติรอบตัว
เช่น ต้นไม้และผืนดิน
“ต้นไม้ให้ร่มเงา ผืนดินเป็นรากฐาน”
หากผืนดินปราศจากต้นไม้ ก็อาจโดนแสงแดดแผดเผาจนแห้งแตก
หากต้นไม้ปราศจากผืนดิน ก็มิอาจมีพื้นที่สำหรับเติบโตงอกงาม
ทั้งสองสิ่งนี้จึงเป็นเหมือนเพื่อนที่เคียงข้างกัน
มอบคุณประโยชน์ให้กันและกัน
โดยไม่มีการขู่เข็ญ และบีบบังคับ
“เป็นการพึ่งพาอาศัย…ไม่ยึดติดครอบครองกันและกัน”
นั่นหมายถึงแต่ละสิ่งดำรงอยู่อย่างเป็นอิสระจากกัน
“เคียงข้างกันตามจังหวะของชีวิต”
ไม่ได้กำหนดเงื่อนไขตายตัวเพื่อครอบงำอีกฝ่าย
ไม่ได้ทำตัวเป็นเจ้าของและคอยบงการอีกฝ่าย
“การครอบงำล่วงเกิน…จึงไม่ได้เป็นสภาวะของความรัก”
“ปัญหาความรัก…ไม่ได้มาจากความรัก”
ทั้งความไม่ลงรอย ความขัดแย้ง
ความไม่เข้าใจ และการแตกหัก
ล้วนมีร่องรอยมาจาก
“การพยายามครอบงำ”
ซึ่งเป็นความเข้าใจว่า
ตนเองสามารถบงการชีวิตผู้อื่นได้ตามใจ
ตนเองเป็นเจ้าของชีวิตผู้อื่นแล้วจะทำอะไรก็ได้
“ปัญหาความรักมาจากสภาวะแบบนี้”
ความขัดแย้งจะลุกลามยิ่งขึ้น
หากต่างฝ่ายเลือกที่จะฉุดลากกันและกัน
“เอาตัวเองเป็นศูนย์กลาง”
ใช้มาตรฐานของตัวเอง
ใช้ความชอบใจและไม่ชอบใจส่วนตัว
“ใช้กฎเกณฑ์ตายตัวของตนเอง”
ซึ่งทำให้พลาดโอกาสสำหรับทำความเข้าใจผู้อื่น
แล้วยังละเลยชีวิตผู้อื่น โดยสนใจเพียงแค่ชีวิตตนเอง
เมื่อใดก็ตามที่เราสูญเสียสภาวะแห่งรัก
สภาวะแห่งการมุ่งร้ายย่อมเข้ามาแทนที่
“สูญเสียความเกื้อกูล…เพิ่มพูนการครอบงำ”
ดังนั้น
ปัญหาชีวิตในแง่มุมของความรัก
จึงมอบโอกาสให้เรากลับมาสังเกตและเท่าทันตัวเอง
“มองรอยร้าวเล็ก ๆ ก่อนที่จะขยายตัวลุกลาม”
ทั้งความกลัวที่แอบซ่อนไว้ในใจ “จนต้องคอยยอมตามและพิสูจน์คุณค่า”
ทั้งความโกรธที่ปะทุขึ้นมา “จนต้องคอยกดดันผู้อื่นและปกป้องตัวเอง”
ทั้งความคาดหวังที่ตายตัว “จนทำให้พลั้งปากและทำอะไรเกินเลยบ่อย ๆ”
จึงมิใช่เรื่องผิดเกินให้อภัยหากเราสูญเสียความรักไป
ในเมื่อเราสามารถเปลี่ยนความปั่นป่วนในใจ
ให้แปรเปลี่ยนเป็นความรู้ตัว ความสงบ ความเข้าใจ และความรัก
“เราจึงสามารถกลับมารักได้เสมอ”

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา