ปราชญ์ผู้บรรลุสภาวะอันเกินกว่าจะพรรณนา จิตของเขาได้ละลายหายไป เขาเป็นอิสระจากการแสดงผลของจิต (display of the mind) และเป็นอิสระจากการหลงผิด, ความฝัน และโมหะ
(คนที่รู้ถึงอาตมัน มีจิตอันปราศจากความหลงผิด, ความเฉื่อยชา และอื่นๆ ; สิ่งเหล่านั้นคืออุปสรรคของ “การตระหนักรู้ที่แท้จริง” ในภาวะนี้จิตและการทำงานทั้งหมดของจิต [mind all its functions], วฤตติ [พฤติ หรือ behavior] ,หยุดการทำงาน และดีเทียบเท่ากับการทำลายล้าง เมื่อการตระหนักรู้ขั้นสุดท้ายได้ระเบิดออกมา ก็ไม่มีคำอธิบายใดที่จะสามารถอธิบายได้อีก)