25 มี.ค. 2021 เวลา 02:09 • สุขภาพ
“ผีอำ” อาการสุดหลอน ที่อธิบาย และแก้ไขได้ด้วยวิทยาศาสตร์
มาเรียนรู้ และแก้ไขไปพร้อม ๆ กันครับ
คิดว่าหลายคนน่าจะเคยมีประสบการณ์โดนผีอำ กันมาบ้างแล้วนะครับ เคยสงสัยกันบ้างไหมว่าอาการผีอำจริง ๆ แล้ว ตกลงมันเป็นผี หรือวิญญาณมาอำจริง ๆ ตามชื่อ หรือว่าเป็นความผิดปกติอย่างหนึ่งของร่างกาย วันผมจะพาคุณไปเจาะลึกในเรื่องราวนี้กันครับ
เฝ้ากันขนาดนี้ก็โหดเกิ้น นี่น่าจะของจริง!!!
ผีอำคืออะไรกันแน่?
“ผีอำ” (Sleep Paralysis) ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 นิยามไว้ว่า "อาการที่ปรากฏเมื่อเวลานอนเคลิ้มไปว่ามีคนปลุกปล้ำหรือยึดคร่าให้มีอาการเหนื่อยหอบจนตื่นขึ้น"
จะว่าไปแล้วคำว่าผีอำนั้นเราได้ยินกันมาตั้งแต่เด็ก ๆ โดยเป็นคำที่อธิบายถึงสภาวะขยับร่างกายไม่ได้ ในขณะที่อยู่ในสภาวะครึ่งหลับครึ่งตื่น เป็นความรู้สึกอึดอัดแบบที่หาทางออกไม่ได้ บางคนจะรู้สึกแน่นหน้าอก หายใจไม่ออก หนักอึ้งไปทั้งตัว พยายามจะอ้าปากพูด เสียงก็ไม่ออกมา บ้างก็เห็นใครมานั่งทับอก หรือยืนคร่อมตัวอยู่ หลอนแท้!!!
อย่า!!! มันอึดอัดนะ!!!
ทว่าในทางวิทยาศาสตร์หรือทางการแพทย์ ผีอำจัดเป็นอาการผิดปกติอย่างหนึ่งของการนอนหลับนะครับ โดยอาการผีอำมีส่วนเกี่ยวข้องกับการนอนฝันร้าย มักจะเกิดในช่วงครึ่งหลับครึ่งตื่น ในขณะที่กำลังเคลิ้มหลับหรือใกล้ตื่นนอน และผีอำเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัยครับผม
ผีอำเกิดขึ้นได้อย่างไร?
อาการผีอำเป็นอาการที่ร่างกายกับจิตใต้สำนึกหลับหรือตื่นขึ้นมาไม่พร้อมกัน ซึ่งจะเป็นอยู่ประมาณ 2 วินาที-10 นาที ก่อนจะค่อย ๆ หาย หรือว่าหายไปในทันที เมื่อถูกเรียก สัมผัส หรือว่าปลุก โดยอะไรหรือใครก็ได้
ผู้ที่โดนผีอำจะรู้สึกว่าตนนั้นตื่นอยู่ แต่ขยับเขยื้อนไม่ได้ ทั้งที่ได้พยายามขยับเขยื้อนอย่างสุดกำลังแล้ว ซึ่งแม้จะตะโกนเรียกให้คนช่วยสุดเสียง แต่ไม่มีใครได้ยิน เพราะจริง ๆ แล้วมันไม่ได้มีเสียงออกมาครับ และเมื่อตื่นขึ้นมาเราก็จะจำเหตุการณ์ และเล่าประสบการณ์ที่เกิดขึ้นได้อย่างแม่นยำ
อย่ากินผมเลย ไม่อร่อยหรอก!!!
ซึ่งแท้ที่จริงแล้ว เมื่อนอนด้วยความเหนื่อยล้า ก็จะเกิดการประสานกันระหว่างสารเคมีกับสภาพชีวเคมีของร่างกาย เกิดอาการกดหรือค้าง ทำให้ขยับเขยื้อนร่างกายไม่ไหว เนื่องจากขณะที่ตื่นอยู่ สมองทำงานอยู่ แต่ร่างกายขยับเขยื้อนไม่ได้ เหมือนมีใครมาคุมร่างกายอยู่ ผู้ที่เกิดอาการนี้จึงเชื่อมโยงเอาเองว่ามีผีมาจับตัว ซึ่งที่แท้คือความไม่สัมพันธ์กันระหว่างสมองกับร่างกายต่างหาก ซึ่งอาการที่ว่าจะเกิดขึ้นแค่ชั่วครู่เท่านั้น
1
ผีอำรักษายังไง?
มาทำความเข้าใจกัน
อย่างที่บอกไปแล้วในข้างต้นว่า อาการผีอำนั้นสามารถหายไปได้เองภายใน 10 นาที ดังนั้นแค่เรานอนเฉย ๆ ไม่นานก็จะหายไปเอง (เรารู้นะว่าคุณหลอน!!!) แต่หากใครรู้สึกอยากออกจากอาการผีอำโดยเร็ว ก็ให้ลองพยายามขยับกล้ามเนื้อตา กล้ามเนื้อนิ้ว หรืออะไรที่เล็ก ๆ ดูก่อน เพราะหากขยับได้ จะทำให้เราหลุดออกจากอาการผีอำได้ในทันทีเหมือนกัน
และเนื่องจากอาการผีอำไม่ได้ส่งผลอันตรายต่อร่างกายโดยตรง ดังนั้นการรักษาอาการผีอำจึงยังไม่มีวิธีรักษาที่แน่นอน เพียงแต่มีแนวทางที่ควรปฏิบัติ ดังนี้นะครับ
 
1. ทำความเข้าใจเกี่ยวกับระดับของการนอนหลับ และวงจรการนอนหลับให้ดี แล้วปฏิบัติตาม
1
แนะนำบทความนี้ครับ
รู้จัก “ระดับการนอน” และ “วงจรการนอน” เผยเคล็ดลับสุดยอด นอนอย่างไรให้ได้คุณภาพ
2. ฝึกทักษะการหายใจเข้า-ออกที่ถูกต้องเพื่อผ่อนคลายความตึงเครียด
3. ตั้งสติให้ดีเมื่อเกิดอาการผีอำ
4. ในกรณีที่มีโรคประจำตัวที่สุ่มเสี่ยงกับการเกิดอาการผีอำได้ง่ายควรพบแพทย์ อาทิ โรคลมหลับ โรคเครียด ไมเกรน โรควิตกกังวล เป็นต้น
ผีอำป้องกันได้ไหม?
ป้องกันได้ครับ เพราะอาการผีอำบางครั้งเกิดจากพฤติกรรมบางอย่างที่ไม่ควรของเรานี่แหละครับ ดังนั้นถ้าไม่อยากเกิดอาการผีอำให้ลองปฏิบัติตัวดังนี้ครับ
1. ออกกำลังกายเป็นประจำ โดยออกกำลังกายเบา ๆ ไปจนถึงปานกลาง ไม่เกิน 1-2 ชั่วโมงขึ้นไปในแต่ละวัน (แต่ไม่ควรออกกำลังกายก่อนนอนนะ)
ออกกำลังกายบ้าง ไรบ้าง
2. อาบน้ำอุ่น หรือแช่เท้าในน้ำอุ่นก่อนเข้านอน
3. จัดเตรียมสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมแก่การนอน อาทิ ทำที่นอนให้หลับสบาย ปราศจากเสียงรบกวน มืดสนิท อุณหภูมิในห้องไม่ร้อนหรือเย็นจนเกินไป
4. ผ่อนคลายความเครียด ทำจิตให้สงบก่อนเข้านอนสัก 2-3 ชั่วโมง โดยอาจจะสวดมนต์ ไหว้พระ หรือทำสมาธิก่อนนอนก็ได้
สมาธิมา!!!
5. ดื่มนมอุ่น ๆ สักแก้วก่อนนอน เพื่อให้นอนหลับง่ายขึ้น
6. ควรเข้านอนเวลาเดิม และตื่นนอนเวลาเดิมทุกวัน ด้วยจำนวนชั่วโมงที่เหมาะสม
นาฬิกาปลุกช่วยท่านได้
แนะนำบทความนี้ครับ
“การนอนที่เพียงพอในแต่ละช่วงวัย” และ “หนี้การหลับ” ที่เราต้องชดใช้เมื่อพักผ่อนน้อยเกินไป
7. เปิดเพลงบรรเลงเบา ๆ หรือเสียงธรรมชาติเพื่อกล่อมให้นอนหลับง่ายขึ้น
และนี่คือสิ่งที่ไม่ควรทำเด็ดขาดถ้าไม่อยากถูกผีอำ มีอะไรบ้างไปดูกัน
1. ออกกำลังกายอย่างหนักหรืออย่างหักโหมก่อนเข้านอน 2-3 ชั่วโมง
2. สูบบุหรี่ก่อนเข้านอน เพราะทำให้หัวใจเต้นเร็ว จนนอนหลับได้ยากยิ่งขึ้น
3. ดื่มแอลกอฮอล์หรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนก่อนนอน เพราะทำให้หลับตื้น และตื่นง่ายมาก
1
4. เข้านอนทั้ง ๆ ที่หิวอยู่ หรือในขณะที่อิ่มมาก ๆ
จัดหนักขนาดนี้ ผีคงต้องอำแล้วล่ะครับ
5. เล่นมือถือหรือคอมพิวเตอร์ก่อนเข้านอน 1-2 ชั่วโมง
6. ดูโทรทัศน์ก่อนนอน โดยเฉพาะดูเรื่องเครียด ๆ เรื่องลี้ลับ เรื่องผี เป็นต้น
7. นอนในที่ที่ไม่ใช่ห้องนอน กล่าวคือไม่ใช่ที่ที่เหมาะแก่การนอน อาทิ โซฟา หรือเก้าอี้เอน เป็นต้น
8. นอนหลับทั้งที่ร่างกายไม่อยู่ในสภาวะที่พร้อม เช่น อ่อนเพลียมากเกินไป หรือหลับไปทั้งที่ยังไม่ได้อาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้า
นี่ก็นอนเลย น้ำท่าไม่อาบ!!!
9. นอนหลับในช่วงเวลาโพล้เพล้ ซึ่งเป็นช่วงกึ่งสว่างกึ่งมืด ซึ่งจะทำให้ร่างกายหลับได้ไม่สนิท ส่งผลให้เกิดฝันร้ายหรืออาการผีอำได้ง่าย
10. นอนกอดอก เพราะอาจทำให้รู้สึกคล้ายผีอำได้จากแรงกดของมือ และแขนของตัวเอง
นอนท่านี้ไม่รอด!!! ผีอำสิครับ!!!
ที่ท่านได้อ่านจบไปแล้วนั้น คือข้อมูลเกี่ยวกับผีอำที่ผมได้สรุปมา อย่างไรก็ตาม หากมีมีอาการผีอำบ่อยครั้ง ควรพบแพทย์เพื่อปรึกษา และหาทางออกที่ถูกต้องจะดีที่สุดนะครับ
ทั้งนี้ยืนยันว่าบทความของผมไม่ใช่คำตอบหรือบทสรุปที่ดีที่สุด ทุกคนควรใช้วิจารณญาณส่วนตัวในการรับข้อมูลนะครับ
ขอบคุณทุกการตอบรับ ไม่ว่าจะเป็นการติดตาม, ไลค์, คอมเมนท์ และแชร์ ทุกกำลังใจสำคัญสำหรับผมเสมอ
ขอบคุณครับ
แล้วพบกันใหม่ในโพสต์หน้า
สวัสดีครับ
ขอบคุณที่มา
โฆษณา