26 มี.ค. 2021 เวลา 10:15 • หุ้น & เศรษฐกิจ
🔎สแกนหุ้นพื้นฐานดี หน้าตาเป็นอย่างไร
2
ณ ตอนนี้ตลาดหุ้นบ้านเรา SET ได้ขึ้นมาถึง 15XX จุดนับจากวันเดียวกันเมื่อปีที่แล้วที่ 10XX จุด ขึ้นมาแล้วเกิน 50 % ในขณะที่หุ้นขึ้นมามากแล้ว นักลงทุนโดยเฉพาะมือใหม่ที่พึ่งเข้ามา ต่างไม่รู้ว่าจะซื้อหุ้นตัวไหน เพราะเมื่อมองตลาดแล้วดูเหมือนว่าหุ้นแต่ละตัวราคาแพงแล้ว บ้างก็บอกว่ายังลงทุนได้ บ้างก็บอกว่าอย่าเลยมันขึ้นมาเยอะแล้ว
แต่สำหรับนักลงทุนสาย VI ผมคิดว่ายังสามารถลงทุนได้ครับ เพียงแต่ต้องเป็นหุ้นที่มีพื้นฐานดี และในเมื่อคุณลงทุนระยะยาว จึงเป็นข้อดีที่เราไม่ต้องมากังวลกับภาวะเศรษฐกิจ หรือความผันผวนของตลาดหุ้นในระยะสั้น
แล้วหุ้นที่มีพื้นฐานดี เราจะดูอย่างไรวันนี้มาหาคำตอบกันครับ🤔
1. ธุรกิจมีความได้เปรียบด้านการแข่งขัน
ก่อนจะออกศึกควรเลือกม้าให้ดีเสียก่อน (ไม่มีใครกล่าว ผมกล่าวเอง😂) การเลือกหุ้นก็เหมือนกัน ควรนึกภาพในอนาคตของบริษัท ว่าบริษัทมีความได้เปรียบในการแข่งขันกับคู่แข่งมากน้อยเพียงใด
1
ไม่จำเป็นต้องเป็นเบอร์ 1 หรือเบอร์ 2 ของอุตสาหกรรมนั้นๆ แต่ควรมีความสามารถหรือมีจุดแข็งในการแข่งขันกับคู่แข่ง ยิ่งเป็นธุรกิจที่มีคู่แข่งขันน้อย หรือมีหน้าใหม่เข้ามาในธุรกิจได้ยากยิ่งดี เพราะบริษัทจะมีความได้เปรียบด้านการแข่งขันสูง
2
Cr.: freepik
2. กิจการเติบโตต่อเนื่อง
1
ดูงบการเงินย้อนหลังเป็นอย่างน้อย 5 ปี บริษัทที่ดีควรมีรายได้เติบโตต่อเนื่อง มีกำไรอย่างสม่ำเสมอ หรือถ้าโตขึ้นต่อเนื่อง ก็จะดียิ่งขึ้นไปอีก ซึ่งการดูกำไรควรดูทุกขั้นตอนการดำเนินงาน ตั้งแต่กำไรขั้นต้น ไปจนถึงกำไรสุทธิ
1
อีกทั้งดูกำไรสะสม เพิ่มขึ้นต่อเนื่องหรือไม่ ซึ่งจะเป็นผลดีต่อนักลงทุน เพราะกำไรสะสมที่เพิ่มขึ้นจะส่งผลต่อเงินปันผลที่เพิ่มขึ้นด้วย และบริษัทยังมีเงินเพิ่มไปขยายกิจการให้เติบโตต่อไปได้อีก
ยกเว้นบางปีที่เกิดภาวะวิกฤติอย่างปีที่แล้ว ก็พอจะเข้าใจได้ แต่ถ้าบริษัทผ่านพ้นวิกฤติมาได้ โดยกิจการไม่ได้รับผลกระทบมาก หรือฟื้นฟูได้อย่างรวดเร็ว ก็ยิ่งดีมากเลยครับ
"กิจการเติบโตต่อเนื่องเป็นการการันตีว่าบริษัทนี้ยังมีแนวโน้มที่จะโตต่อไป ยังไม่ถึงจุดอิ่มตัว..."
ยกตัวอย่างหุ้นสมมุติ หุ้น C ที่มีกำไรสุทธิ และกำไรขั้นต้นโตต่อเนื่อง แม้ปีที่แล้วเกิดวิกฤติก็ยังโตต่อ Cr. finnomena
3. หนี้สินไม่เยอะ
การมีหนี้เป็นเรื่องปกติของการทำธุรกิจ แต่สิ่งที่ต้องระวัง คือ การมีหนี้ระยะยาวมากเกินไป เพราะอาจทำให้บริษัทชำระหนี้ไม่ทัน และต้องเสียดอกเบี้ยจากหนี้มหาศาล
หากวันใดบริษัทขาดสภาพคล่อง และไม่สามารถชำระหนี้ได้ จะเกิดปัญหาทันที และนักลงทุนจะได้รับผลกระทบต่อมาด้วยราคาหุ้นที่ล่วงลงแรง
ผมจะดู “อัตราส่วนหนี้สินต่อทุน” (D/E Ratio) ถ้าบริษัทใดมี D/E Ratio ต่ำกว่า 2 ถือว่าสอบผ่าน
2
4. ผู้บริหารต้องโปร่งใส และมีธรรมาภิบาล
1
เป็นสิ่งที่นักลงทุนอาจต้องใช้เวลาในการสังเกตและเรียนรู้ โดยควรเลือกบริษัทที่โปร่งใส ผู้บริหารมีการดำเนินงานอย่างเปิดเผย บริหารบริษัทด้วยความซื่อตรง ไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน ไม่ขยันให้ข่าว หรือเข้ามายุ่งกับการซื้อขายหุ้น เพื่อเก็งกำไรมากเกินไป รวมถึงไม่มีข่าวในเชิงลบบ่อยๆ
Cr.: freepik
👉ทั้งหมดนี้คือคุณสมบัติของหุ้นพื้นฐานดี น่าลงทุน ที่ผมนำมาแชร์ หากเราตั้งใจศึกษา และค้นหาหุ้นแบบนี้เจอ ก็จะสามารถเข้าใจธุรกิจของบริษัทได้ไม่ยาก แม้เป็นมือใหม่ก็ตาม
และยังมองเห็นอนาคตอันรุ่งโรจน์ในกิจการบริษัทที่เราลงทุน "ความประสบความสำเร็จในตลาดหุ้นก็จะไม่เป็นแค่ความฝันอีกต่อไปครับ..."
อ้างอิง
จบแล้วครับช่วยกด 👍 ❤️ ติดตาม เพื่อเป็นกำลังใจในการเขียนบทความต่อไปด้วยนะครับ🥰
โฆษณา