24 เม.ย. 2021 เวลา 02:09 • สุขภาพ
8 วิธีรับมือกับคนที่พยายามทำให้คุณจิตตก
ฮึ!!! ทำเราได้ งอนละ โป้ง!!!
“จิตตก” เป็นคำที่เรามักจะใช้พูดเวลาที่มีอะไรมากระทบกระเทือนจิตใจ แล้วทำให้เราเกิดความไม่สบายใจ และเมื่อไม่สามารถจัดการกับปัญหาเหล่านั้นได้ ก็จะเกิดความเครียด กดดัน หรือรู้สึกวิตกกังวลสะสมในใจ
1
แน่นอนว่าเราเองก็เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ตัวเองจิตตกได้เช่นกัน แต่ที่สร้างบาดแผลในใจให้กับเราได้มากที่สุดก็เห็นจะหนีไม่พ้นคำพูด และการกระทำของคนอื่นเสียมากกว่า
1
เพราะบางคนแม้จะรู้ตัวว่าการที่ทำกับคนอื่นอย่างนี้มันไม่ดี แต่จิตใต้สำนึกที่มีทัศนคติทำร้ายผู้อื่นก็สั่งให้เขาทำอยู่ดี ก็จะมีตั้งแต่การแสดงคำพูด หรือท่าทางที่ดูถูกเหยียดหยาม คำวิจารณ์ที่ทำให้เสียหาย การตั้งชื่อล้อเลียนที่น่าขัน น่าอาย ฯลฯ ซึ่งร้อยทั้งร้อยรับรองว่าเรานั้นไม่พอใจอย่างแน่นอน และปฏิเสธไม่ได้ว่าสิ่งเหล่านี้เป็นพฤติกรรมที่ส่งผลเลวร้ายต่อจิตใจของเราโดยตรง อย่างไรก็ตามแม้ว่าเราจะไม่สามารถป้องกันให้คนอื่นทำเช่นนี้กับเราได้ แต่วิธีการที่เราตอบสนองเมื่อสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นกับตัว ก็สามารถสร้างความแตกต่างได้เช่นกัน
1
ไปดูกันครับว่า เนื้อหาในบทความ “8 Ways of Dealing With People Who Try to Put You Down” ของ ‘Bright Side’ นั้น มีวิธีรับมือกับคนที่พยายามทำให้คุณจิตตกอย่างไรบ้าง?
1. หลีกเลี่ยงที่จะโกรธ
Avoid turning to anger
เชื่อว่าปฏิกิริยาแรกหลังจากเผชิญกับท่าทีดูแคลนสำหรับหลายคนนั่นก็คือความโกรธ เพราะต่างก็มองว่านี่เป็นท่าทีที่คุกคาม แต่จริง ๆ แล้วเราไม่ควรทำอย่างนั้นนะ
ประการแรกเลย ความโกรธทำให้เราตกอยู่ในภาวะเปราะบาง นั่นเป็นเพราะเราแสดงให้เห็นว่าอีกฝ่ายประสบความสำเร็จในการดูหมิ่นเรา
และประการที่สองความโกรธนั้นยังนำไปสู่ความขัดแย้งที่เพิ่มมากขึ้นต่อไป เพราะเมื่อแสดงความโกรธออกมาเราไม่ได้คิดอะไรให้ถี่ถ้วน และสุดท้ายอาจกลายเป็นสิ่งที่ทำให้เรารู้สึกแย่ตั้งแต่แรกเลยก็เป็นได้
2. รักษาระยะห่างจากสถานการณ์ที่ย่ำแย่
Keep your distance from the situation
บางครั้งหลายคนไม่ได้ตระหนักถึงพฤติกรรมของตนเองอย่างแท้จริง พวกเขาจึงอาจแสดงความคิดเห็นเชิงลบที่สามารถเปลี่ยนทัศนคติเชิงบวกของผู้อื่นได้โดยไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ ในความเป็นจริงแล้วพวกเขาอาจจะแค่แสดงความกลัว และอคติของตัวเองมาที่เรา แม้ว่าไม่แนะนำให้ปล่อยสิ่งนั้นให้เกิดขึ้น แต่เราสามารถเปลี่ยนมุมมองได้ด้วยตนเอง เพียงแค่ยอมรับว่าสิ่งที่คน ๆ นั้นพูด คือสถานการณ์ที่เขากำลังเผชิญอยู่ เป็นมุมมองส่วนตัวของเขา ไม่จำเป็นที่คุณต้องเกี่ยวเสมอไป ด้วยการทำเช่นนี้นอกจากคุณจะสามารถเข้าใจอีกฝ่ายได้มากขึ้นแล้ว ยังเป็นการไม่ปล่อยให้ความคิดเห็นของพวกเขามาทำร้ายคุณอีกด้วย
2
3. หยุดคิดเพื่อตอบสนองอย่างชาญฉลาด
Take your time to respond
เมื่อคุณรู้สึกว่าความคิดเห็นหรือการกระทำของบุคคลอื่นทำให้คุณขุ่นเคือง สิ่งที่ดีที่สุดที่ควรทำคือหายใจเข้าลึก ๆ และปล่อยให้เวลาผ่านไปสักพักก่อนที่จะตอบสนอง การทำเช่นนั้นจะช่วยให้คุณมีมุมมองเพิ่มมากขึ้นเกี่ยวกับสิ่งที่เพิ่งเกิด และสามารถช่วยให้คุณตัดสินใจได้ดีตามมา เพราะแทนที่จะแรงมาแรงไป การตอบสนองอย่างสันติต่อความคิดเห็นเชิงลบดังกล่าว อาจทำให้คน ๆ นั้นคิดว่าทำอย่างนี้กับคุณแล้วไม่ได้ผล และอาจเลิกคิดที่จะรุกรานคุณไปเลยก็เป็นได้
1
4. ยอมรับหรือปฏิเสธคำดูถูก แต่ด้วยวิธีที่เป็นมิตรเสมอ
1
Accept or reject an insult, but always in a friendly way
บางคนมักจะล้อชื่อเล่น ทำร้ายจิตใจ โดยชี้ให้เห็นลักษณะทางกายภาพหรือลักษณะส่วนตัวของผู้อื่นเพื่อกระตุ้นให้เกิดปฏิกิริยา หรือระดับความรู้สึกไม่สบายบางอย่างกับเป้าหมาย อย่างไรก็ตามขึ้นอยู่กับเราที่จะตัดสินใจว่าจะรับความคิดเห็นแย่ ๆ และตอบสนองต่อความคิดเห็นเหล่านั้นอย่างไร
1
เพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้ง และต่อต้านการรุกรานประเภทนี้คุณสามารถใช้ 2 ตัวเลือกต่อไปนี้ได้เลยนะครับ
ข้อแรกคือ ยอมรับความคิดเห็นนั้น โดยบอกให้บุคคลที่มีปัญหาทราบอย่างใจเย็น ว่าสิ่งที่เขาหรือเธอพูดนั้นเป็นความจริง แต่คุณก็ยังสบายดี
ส่วนข้อสอง ปฏิเสธความคิดเห็นนั้น ด้วยวิธีการที่ดีมีเมตตา แต่ขณะเดียวกันก็กล้าที่จะแสดงออกให้อีกฝ่ายรู้ว่าสิ่งที่พวกเขาพูดนั้นไม่ถูกต้อง แต่ก็ไม่ได้รบกวนคุณเช่นกัน
2
5. ขอคำอธิบาย
Ask for an explanation
สิ่งที่คุณต้องทำคือขอคำอธิบายว่าเหตุใดบุคคลนั้นจึงพูดอย่างนี้? และความหมายจริง ๆ ของมันคืออะไร? ในกรณีที่ดีที่สุดคือมันไม่ได้หมายถึงการดูถูก และทั้งหมดนี้เป็นเพียงแค่ความเข้าใจผิด แต่ถ้าเป็นการดูถูกจริง อย่างน้อยคุณก็สามารถเปิดใจ และพูดคุยกันอย่างเป็นมิตรแทนที่จะสร้างความขุ่นเคืองกับคนที่พูดได้
1
6. ไม่สนใจคนที่กลั่นแกล้งคุณ
Ignore the person that’s bullying you
ต่อไปนี้เป็นเคล็ดลับที่มีประโยชน์อีกประการหนึ่งที่ควรคำนึงถึงเมื่อมีคนก้าวข้ามขอบเขต และไม่เคารพต่อเรา นั่นคืออย่าไปให้ค่าหรือสนใจพวกเขา ด้วยวิธีนี้สามารถทำให้อีกฝ่ายอาจจะเข้าใจว่าคุณจะไม่ใช้เวลาไปกับความคิดเห็นเชิงลบ หรือไม่พอใจของเขา นอกจากนี้ยังเป็นวิธีที่จะทำให้พวกเขารู้ว่าสิ่งเหล่านี้ไม่มีผลกับคุณ คุณยังสามารถดำเนินการสนทนาต่อไปได้โดยการละเว้นรายละเอียดที่คุณพบว่าไม่เหมาะสม ในทางหนึ่งการทำเช่นนี้เท่ากับว่าคุณกำลังกำหนดขอบเขตโดยไม่ต้องพูดอะไรเลยแม้แต่คำเดียว
1
7. ใช้อารมณ์ขันของคุณให้เป็นประโยชน์
Use your sense of humor
การต่อสู้กับความโกรธด้วยความสุข และอารมณ์ขันอาจเป็นทางเลือกที่ดีในเวลา และสถานที่ที่เหมาะสม ดังนั้นการพูด เปลี่ยน “microaggressions” ให้กลายเป็นสถานการณ์ที่ขบขันด้วยการตอบกลับอีกฝ่ายด้วยเรื่องตลก นี่ถือเป็นวิธีที่ดีที่จะทำให้ชัดเจนว่าคุณจะไม่เล่นเกมเล็ก ๆ น้อย ๆ ของพวกเขา และในทางกลับกันนี่จะช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดได้ อย่างไรก็ตามโปรดทราบว่าสิ่งนี้อาจย้อนกลับมาได้หากบุคคลอื่นนำไปใช้ในทางที่ผิด
1
8. รักษาระยะห่างที่ปลอดภัยจากคนที่เป็นพิษ
Keep a safe distance from toxic people
บางครั้งคุณก็จะพบกับผู้คนที่แสวงหาความขัดแย้ง อย่าตัดสินพวกเขาอย่างรุนแรงเกินไป เพราะในบางครั้งอาจเป็นเราเองที่อาจควบคุมอารมณ์ของตัวเองไม่ได้ และจบลงด้วยเรื่องราวใหญ่โต ไม่ว่าในกรณีใดสิ่งที่ดีที่สุดที่ควรทำ นั่นก็คือการออกห่างจากคนเหล่านี้ด้วยวิธีที่ดีต่อสุขภาพ เราสามารถหลีกเลี่ยงการติดต่อกับพวกเขาในช่วงเวลาสั้น ๆ ได้ หรือถ้าจำเป็นก็พบปะให้น้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ข้อควรระวังเหล่านี้สามารถช่วยให้เรารักษาสุขภาพจิต และความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นได้
สุดท้ายนี้เมื่อต้องพบกับบุคคลที่ทำให้จิตตก คุณจัดการเพื่อรักษาความสงบได้อย่างไร? กลยุทธ์ของคุณคืออะไร? แบ่งปันแนวคิดผ่านคอมเมนท์ได้เลยนะครับ
ทั้งนี้ยืนยันว่าบทความของผมไม่ใช่คำตอบ หรือบทสรุปที่ดีที่สุด ทุกท่านควรใช้วิจารณญาณส่วนตัวในการรับข้อมูลด้วยนะครับ
ขอบคุณทุกการตอบรับ ไม่ว่าจะเป็นการติดตาม ไลค์ คอมเมนท์ หรือว่าแชร์ ทุกกำลังใจสำคัญสำหรับผมเสมอ
ขอบคุณครับ
แล้วพบกันใหม่ในโพสต์หน้า
สวัสดีครับ
ขอบคุณที่มา

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา