21 เม.ย. 2021 เวลา 02:09 • สุขภาพ
8 สัญญาณที่บอกว่า ไม่ใช่ร่างกายของคุณที่กำลังอ่อนล้า แต่มันคือจิตวิญญาณของคุณ
แก้ได้ก็รีบเลยนะ
หากคุณกำลังรู้สึกเหนื่อยล้า อ่อนแอบ่อยครั้ง อยากบอกว่าคุณไม่ใช่คนเดียวที่เป็น หลายคนในสังคมก็ประสบปัญหาอย่างนั้นเหมือนกัน ความรู้สึกเหนื่อยเรื้อรังกำลังกลายเป็นบรรทัดฐานที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งเกิดจากจังหวะการใช้ชีวิตของโลกสมัยใหม่ การทำงานหนักอย่างต่อเนื่อง การนอนหลับพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ การห่างหายออกกำลังกาย ความตึงเครียดของการแข่งขันในสังคม ฯลฯ ทั้งหมดนี้ล้วนส่งผลต่อสถานะที่ดีทางจิตวิญญาณของคุณทั้งสิ้น ความเจ็บปวดกำลังมากมายขึ้นเรื่อย ๆ บางทีความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนควรจะมาถึงได้แล้ว ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป
5
วันนี้ผมจะพาทุกท่านไปพบกับบทความ “8 Signs It’s Not Your Body That’s Exhausted — It’s Your Soul” ของ ‘Bright Side’ เพื่อให้ตระหนักถึงจิตวิญญาณที่เหนื่อยล้า ที่คุณละเลยมานาน เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหามากมายที่กำลังจะตามมา หากไม่ได้รับการเยียวยาที่ถูกต้อง ไปดู 8 สัญญาณที่ว่ากันเลยครับ
1
1. เหนื่อยล้าแม้จะพักผ่อนมาแล้วทั้งคืนก็ตาม
Being tired after a full night’s rest
นั่นคือคุณจะพบกับความจริงที่ว่า การตื่นนอน และลุกจากขึ้นจากเตียงในตอนเช้านั้นมันช่างยากเหลือเกิน แม้ว่าคุณจะนอนหลับครบตามจำนวนชั่วโมงที่เหมาะสมแล้วก็ตาม สัญญาณแรกมาแล้ว ใช่ ร่างกายของคุณได้ฟื้นตัวแล้ว แต่ดูเหมือนว่าจิตวิญญาณจะยังไม่ได้ฟื้นตัวตามมา ผลก็คือความเหนื่อยล้าเรื้อรังที่สะสมมานานนั้นยังคงชัดเจน ทำให้คุณยังต้องใช้เวลาทั้งวันในการต่อสู้กับความเหนื่อยล้าที่ซ่อนอยู่ต่อไป
1
2. ฝันกลางวัน และหลีกหนีความเป็นจริง
Daydreaming and escaping reality
หากคุณรู้สึกว่าต้องการหลีกหนีความเป็นจริง และใฝ่ฝันถึงชีวิตที่แตกต่าง ดูเหมือนจิตวิญญาณของคุณกำลังส่งอีกสัญญาณของความเหนื่อยล้าแล้ว กล่าวคือคุณมักจะคิดถึงอดีต แล้วก็กลัวอนาคต สิ่งสำคัญคือคุณไม่ชอบช่วงเวลาในปัจจุบันเอาซะเลย และพยายามเบี่ยงเบนความสนใจของตัวเองจากช่วงเวลานั้น โดยวิธีใดวิธีหนึ่งที่เป็นไปได้ แต่การหลีกหนีไม่ใช่คำตอบที่ดีเลย เนื่องจากยังไงซะคุณก็ต้องกลับไปทำหน้าที่ในชีวิตประจำวันของตนเองอยู่ดี อาการนี้ปล่อยไว้นานไม่ดีเลย ความไม่พอใจในชีวิตจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อย เนื่องจากความเป็นจริง และความฝันของคุณนั้นไม่ตรงกัน
1
3. ไม่แยแสชีวิตรวมทั้งขาดความทะเยอทะยาน
1
Indifference and lack of aspiration
เมื่อพิจารณาว่าคุณรู้สึกเหนื่อยอยู่ตลอดเวลา แน่นอนว่าคุณจะรู้สึกขาดความปรารถนาในการทำสิ่งต่าง ๆ และแสดงความเฉยเมยต่อทุกสิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัว ทั้งอาจสูญเสียความสนใจในสิ่งที่คุณเคยชื่นชอบมาก่อน ไปอีกด้วย กล่าวคือคุณอาจไม่เห็นความสำคัญในสิ่งที่คุณทำ และไม่แยแสกับผลลัพธ์ของการกระทำของคุณ เงื่อนไขเหล่านี้ทำให้เกิดความตึงเครียดมากขึ้นทันที เนื่องจากคุณยังต้องปฏิบัติตามหน้าที่ แม้ว่าคุณจะไม่มีเรี่ยวแรง หรือแรงบันดาลใจใด ๆ เลยก็ตาม
2
4. อารมณ์แปรปรวน เปลี่ยนแปลงกะทันหันอยู่บ่อยครั้ง
1
Abrupt changes in emotions
แน่นอนว่าความไม่พอใจ ความเหนื่อยล้า และความเฉยเมยนั้นส่งผลต่ออารมณ์ของคุณโดยตรง บ่อยแค่ไหนที่คุณโกรธ ไม่พอใจอะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ อยู่บ่อย ๆ หรือเริ่มร้องไห้ หัวเราะโดยไม่คาดคิด และไม่มีเหตุผล? หากอารมณ์เปลี่ยนแปลงเช่นนี้เกิดขึ้นเป็นประจำ นี่คือสัญญาณที่บอกว่าจิตวิญญาณของคุณกำลังอ่อนล้า คุณจะใช้ชีวิตยากขึ้นด้วยอารมณ์ที่แปรปรวนเหล่านี้ และมันจะบังคับให้คุณมองหาความขัดแย้งที่มากกว่าเดิมในการที่จะพยายามเข้าใจผู้อื่น และอยู่ร่วมกันอย่างสันติในสังคม
5. แสร้งทำเป็นรู้สึกดี
Pretending to feel well
อย่าคิดว่าการซ่อนความเจ็บปวด และแสร้งทำเป็นว่าไม่เป็นไรนั้น คือวิธีที่ดีในการแก้ปัญหา หากคุณทำเช่นนี้ก็เท่ากับว่าคุณกำลังโกหกตัวเอง และคนอื่น ๆ เกี่ยวกับความรู้สึกที่แท้จริงของคุณในขณะที่ทุกอย่างภายในจิตใจของคุณกำลังพังทลาย คุณพยายามอย่างเต็มที่ที่จะยิ้ม และใช้พลังงานเพิ่มเพื่อพยายามสร้างภาพลวงตาแห่งความสุข แต่ลึก ๆ แล้วจิตวิญญาณของคุณกำลังร้องไห้ฟูมฟายอยู่ ส่งผลให้เรี่ยวแรงของร่างกายคุณถดถอยลงเรื่อย ๆ เนื่องจากการแสร้งทำเป็นว่าทุกอย่างเรียบร้อยดีนั่นเอง
2
6. รู้สึกเหงา
2
Feeling lonely
หากชีวิตถูกนำทางด้วยความโกรธ และความขุ่นเคืองทั้งหมดต่อผู้คนที่อยู่รอบตัว แน่นอนว่าความสัมพันธ์ของคุณย่อมตึงเครียด หรือการแสร้งทำเป็นรู้สึกดีทั้งที่มันไม่ใช่อย่างนั้น ทั้งหมดที่กล่าวมานี้สามารถทำให้คุณรู้สึกเหงา และถูกทิ้งให้อยู่กับปัญหาเพียงลำพังได้ โดยคุณจะเริ่มคิดว่าไม่มีใครเข้าใจ ไม่มีใครยอมรับคุณ และไม่มีใครช่วยคุณได้ และสุดท้ายคุณก็จะปลีกวิเวก พยายามจัดการทุกอย่างด้วยตัวคนเดียว ดิ้นรนกับจิตวิญญาณที่เหนื่อยล้าวันแล้ววันเล่า
7. มีความปรารถนาที่จะซ่อนตัวจากผู้อื่น
A desire to hide from others
หากคุณมีความปรารถนาที่จะซ่อนตัวจากผู้คนที่อยู่รอบตัวคุณ นี่เป็นสัญญาณบ่งบอกถึงจิตใจที่เหนื่อยล้าอีกข้อ คุณอาจต้องการนั่งตรงมุมเพื่อป้องกันตัวเองจากผู้อื่น ด้วยการทำตัวไม่เด่น แต่เนื่องจากคุณไม่สามารถขังตัวเองในบ้าน และหยุดปฏิสัมพันธ์กับผู้คนได้ คุณจึงถูกกดขี่จากการสื่อสารที่ไม่ต้องการ ยังต้องติดตามการสนทนาในแต่ละวัน และอยู่ใกล้ชิดกับคนอื่น ๆ แม้ว่าคุณจะต้องการอยู่คนเดียวก็ตาม
1
8. คิดเชิงลบซ้ำ ๆ
Negative thinking
คุณสังเกตเห็นสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่น่าพอใจ จำเหตุการณ์ตลก ๆ และพยายามสร้างช่วงเวลาแห่งความสุขหรือไม่? หากคุณเคยชินกับการจดจ่อกับประสบการณ์เชิงลบ และเลวร้าย จิตวิญญาณของคุณอาจต้องทนทุกข์ทรมานจากความเหนื่อยล้าเรื้อรังได้ คุณหยุดชาร์จพลังบวกให้ตัวเอง แต่ในทางตรงกันข้ามกลับสูญเสียมันไปเรื่อย ๆ แน่นอนว่าสิ่งนี้ส่งผลต่ออารมณ์ของคุณ และสร้างความรู้สึกไม่เป็นสุขในใจได้อย่างมากมาย
1
วิธีแก้ไข และเยียวยาจิตวิญญาณของคุณ
Ways to fix your soul
1. ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับสภาวะสุขภาพ และสภาพจิตใจของคุณ
2. ใช้ชีวิตให้สมดุลระหว่างพักผ่อนกับออกกำลังกาย
1
3. ปฏิเสธที่จะมีส่วนร่วมในความสัมพันธ์ที่เป็นพิษต่อร่างกาย และจิตใจ เพราะสภาพแวดล้อมที่ว่ามีผลกระทบต่อเราโดยตรง
4. ติดต่อคนที่คุณรักบอกพวกเขาว่ามีอะไรรบกวนคุณ และพวกเขาสามารถช่วยคุณแก้ปัญหาได้
5. เปลี่ยนสถานการณ์บ้าง เช่น ไปเที่ยว การพักผ่อนดังกล่าวสามารถทำให้อารมณ์ และความเป็นอยู่ของคุณดีขึ้นได้
6. พยายามจดจ่อกับความทรงจำเชิงบวก และใส่ใจกับสิ่งดี ๆ ที่เกิดขึ้นกับคุณ บางครั้งคุณต้องมองใกล้ ๆ เพื่อสังเกตความมีน้ำใจ และแง่บวกที่มีอยู่มากมายรอบตัว
7. เห็นคุณค่าในสิ่งที่คุณมี ซึ่งแม้แต่สิ่งเล็กน้อยนั้นก็สำคัญ
คุณเคยรู้สึกเหนื่อยใจไหม? และคุณรับมือกับความรู้สึกนี้อย่างไร? ร่วมแชร์ประสบการณ์ของคุณผ่านทางคอมเมนท์ได้นะครับ
ทั้งนี้ยืนยันว่าบทความของผมไม่ใช่คำตอบ หรือบทสรุปที่ดีที่สุด ทุกท่านควรใช้วิจารณญาณส่วนตัวในการรับข้อมูลด้วยนะครับ
ขอบคุณทุกการตอบรับ ไม่ว่าจะเป็นการติดตาม ไลค์ คอมเมนท์ หรือว่าแชร์ ทุกกำลังใจสำคัญสำหรับผมเสมอ
ขอบคุณครับ
แล้วพบกันใหม่ในโพสต์หน้า
สวัสดีครับ
ขอบคุณที่มา
โฆษณา