30 เม.ย. 2021 เวลา 02:09 • ปรัชญา
ถ้าท้อ แล้วเอาแต่ถอย เราคงไม่มีวันเดินก้าวหน้าต่อไปได้อีก
ใจคอจะหยุดอยู่แค่นี้จริง ๆ เหรอ?
ในวันที่ชีวิตไม่ราบรื่น ชนโครมเข้ากับปัญหาอย่างจัง!!! ตอนที่ล้มก้นจ้ำเบ้าลงไปกองกับพื้น แน่นอนว่าความรู้สึกของการอยู่ข้างล่างนั้นทำให้เรารู้สึกเจ็บปวด หลายคนท้อ บางคนถึงขั้นถอยหลังกรูดอย่างสิ้นหวัง เมื่อแหงนหน้าขึ้นไปมอง แล้วพบว่ามีปัญหาใหญ่ขวางทางอยู่
1
ใช่แล้ว ตอนนี้คุณกำลังโดนความท้อถอยเข้าครอบงำแล้วล่ะ
ความท้อถอยคืออะไร?
มันคือการที่ความพยายามลดน้อยถอยลง ซึ่งอาการนี้หากเกิดขึ้นกับใครแล้ว ความสมดุลในตัวนั้นจะถูกทำลาย ความรู้สึกนึกคิดถูกแทรกแซง ทำให้พลัง และศักยภาพที่เคยมีในตัวลดน้อยลงไปอย่างไม่น่าเชื่อ
1
ความท้อถอยนั้นมีลักษณะอย่างไร?
ด้านอารมณ์
มันคือความรู้สึกเบื่อหน่าย อ่อนล้า หมดเรี่ยวแรง ภาวะความเครียดสูง คับข้องใจ ไม่สบอารมณ์กับทุกเรื่องบนโลก!!!
ด้านสัมพันธภาพกับบุคคลอื่น
นี่คือการรวมความคิดทางด้านลบอย่างพร้อมเพรียงกัน ไม่ว่าจะเป็น การไม่ใส่ใจในพฤติกรรมของคนอื่น มองโลกในแง่ร้าย หวดระแวง ไม่ไว้ใจใคร คิดทำร้ายตนเอง และคิดว่าคนอื่นจะทำร้ายตนเอง
ลักษณะที่เกิดจากการไม่ประสบความสำเร็จ
อาทิ รู้สึกว่าตนเองนั้นไร้ความสามารถ ล้มเหลว ทำงานไม่สมกับที่ตั้งใจไว้ รู้สึกด้อยค่า และมองตนเองนั้นว่าต่ำต้อย
ความท้อถอยนั้นมีสาเหตุมาจากอะไร?
1. ด้านบุคลิกภาพ
พึ่งพาคนอื่นมากไป
กล่าวคือเป็นคนกลัวง่าย วิตกกังบ่อย ชอบที่จะขอความช่วยเหลือจากคนอื่นเป็นประจำ ทำงานตามคำสั่ง กลุ่มคนพวกนี้ถ้าเกิดอาการท้อถอย นั้นจะรุนแรงมาก
ขาดความอดทน อดกลั้น
คนประเภทนี้มักจะหัวดื้อ บอกอะไรไม่ฟัง ยึดถือความคิดเห็นของตนเองเป็นที่ตั้ง ปฏิเสธความคิดเห็นของคนอื่น จึงมักจะไม่ประสบความสำเร็จในชีวิตส่วนตัว และหน้าที่การงาน เพราะความดื้อด้านของตน เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้สะสมความท้อถอยไว้ในตัวค่อนข้างมาก
เชื่อมั่นในตนเองสูง
คือคิดว่าตนเองเก่ง ชอบเอาแต่ใจตนเองจนเป็นนิสัย มั่นใจจนทำงานพลาดโดยมองไม่เห็นปัญหาของตน และนี่เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่เชื่อว่าตนเองถูก ทำดีแล้ว พอสุดท้าย ไม่ถูก ไม่ดี ไม่เก่ง อย่างที่ตนเองคิดไว้ ความท้อถอยก็เกิดตามมาอย่างมากมาย
มีความรับรู้ตนเองต่ำ
คนแบบนี้จะจิตใจไม่มั่นคง ขาดความมั่นใจไปซะทุกเรื่อง ทำอะไรก็รู้สึกผิดไปทุกอย่าง ซึ่งความท้อถอยมาเยี่ยมเยียนได้อย่างง่าย ๆ เลย
2. ด้านอายุ
พบว่าคนที่มีอายุน้อย ความท้อถอย มีมากกว่าคนสูงอายุ ทั้งนี้เพราะ ความท้อถอยนั้นสัมพันธ์กับประสบการณ์ วุฒิภาวะ การรู้จักชีวิตมากขึ้น รวมไปถึงบุคคลที่มีความสามารถในการปรับตัวได้ย่อมมีความท้อถอยในระดับต่ำ
แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคนที่มีอายุ ผ่านร้อนผ่านหนาวมามากจะไม่มีความท้อถอยนะ เพราะทุกคนเกิดอาการท้อถอยได้เช่นเดียวกัน แล้วแต่ระดับความรุนแรงของปัญหา และวิธีเลือกแนวทางการแก้ไขคนนั้น ๆ
3. ด้านสถานภาพการสมรส
ความท้อถอยมักเกิดกับคนโสดมากกว่าคนที่แต่งงานแล้ว เพราะความท้อถอยนั้นสัมพันธ์กับความเหงา คนโสดทั้งหญิง และชาย ถ้าเกิดอาการท้อถอย บุคคลในกลุ่มนี่จะเกิดอาการนาน และค่อนข้างรุนแรง แต่สำหรับคนที่แต่งงานแล้ว ถ้าสภาพการสมรสเป็นไปด้วยดี มีสัมพันธภาพที่ดีต่อกัน มีความรักความเข้าใจเป็นพื้นฐาน เมื่อมีปัญหาใดในครอบครัวก็จะสามารถจัดการได้ในเวลาไม่นานนัก
4. ด้านการปฏิบัติงานในความรับผิดชอบ
พิสูจน์แล้วว่าอาการท้อถอยนั้นมีสาเหตุมาจากการปฏิบัติงานเยอะมาก โดยเฉพาะช่วงแรก ๆ ของการทำงานด้วยแล้ว มักจะท้อกันได้ง่าย ๆ ยิ่งทำงานแบบไม่มีใครช่วยใครยิ่งแล้วใหญ่ แต่ก็มีบางคนที่มีเพื่อนร่วมงาน หรือพี่เลี้ยงคอยช่วยเหลือ ก็นับว่าโชคดีอย่างที่สุด โอกาสเกิดอาการท้อถอยนั้นน้อยมาก เพราะเมื่อเกิดปัญหาใด ๆ ก็มักจะมีเพื่อนคอยแนะ มีพี่คอยชี้ทางนั่นเอง
เราจะการแก้ไขอาการท้อถอยได้อย่างไร?
1. บอกตัวเองว่าทุกสิ่งทุกอย่างต้องแก้ไขโดยเริ่มต้นที่ตัวเรา
เมื่ออาการท้อถอยเกิดขึ้น แน่นอนว่าทำให้เรารู้สึกเหนื่อย อ่อนล้า เกิดความหวั่นไหวทางอารมณ์ ความวิตกกังวลอยู่ในระดับสูง ไม่ว่าจะเกิดปัญหาอะไรเราต้องวิเคราะห์ให้ได้ว่าที่ท้ออยู่นี้มันมาจากสาเหตุใด? ครอบครัว หน้าที่การงาน เพื่อนร่วมงาน ระบบงาน ฯลฯ เมื่อได้สาเหตุแล้วจึงเริ่มแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบ อาทิ เรียงลำดับก่อน-หลังของปัญหา ปัญหาใดที่มีความรุนแรงน้อยอาจจะเอามาแก้ไขก่อน พอเริ่มแก้ไขได้ ก็ค่อยต่อยอดยังลำดับถัดไป หรือบางคนมีสไตล์ไม่เหมือนใคร อาจแก้ที่ปัญหาใหญ่เลยก็ได้นะ ซึ่งแล้วแต่ความถนัดของแต่ละคน เพราะคนที่รู้ดีว่าวิธีการใดดีที่สุดก็หนีไม่พ้นตัวคุณเองนั่นแหละ
2. คาดหวังในทุกอย่างให้เหมาะสม
บางครั้งความปรารถนาที่สูงเกินเอื้อมทำให้ผิดหวัง และท้อแท้ได้ง่าย ๆ เมื่อทุกอย่างไม่ได้เป็นดังหวัง เพราะสิ่งต่าง ๆ ในชีวิตนั้นไม่ได้สมดุล และแน่นอนไปซะทุกอย่าง ดังนั้นเผื่อใจไว้บ้างก็จะเป็นการดี
3. สร้างเจคติใหม่ กล่าวคือ ดึงพลัง และศักยภาพสูงสุดของตัวเราเองออกมา โดยไม่เอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่น เท่านี้ความท้อถอยก็ไม่น่าจะมาเยือนเราอย่างแน่นอน
Problems are not stop signs, they are guidelines.
ปัญหาไม่ใช่ป้ายหยุด แต่เป็นแค่แนวทาง
- Robert H. Schuller
ดร. โรเบิร์ต ชูลเลอร์ นักวิทยุโทรทัศน์คริสเตียนชาวอเมริกัน ศิษยาภิบาลนักพูดสร้างแรงบันดาลใจ และนักเขียน
จริงอยู่ที่หลายครั้งปัญหาทำให้เราหยุด และไม่ว่าจะล้มลงในแบบไหน เชื่อว่าปัญหาใหญ่น้อยเหล่านั้นไม่มีสิทธิ์มาหยุดยั้งเราไว้กับที่ เพราะยังไงซะปัญหาก็เป็นแค่แนวทางที่บอกว่าเราเคยติดขัดตรงนี้ ผิดพลาดตรงนั้น และล้มลงอย่างไร
รีบลุกขึ้นยืนครับ ปัดฝุ่นที่ติดตัวออก แล้วก้าวออกไปเผชิญหน้ากับมันอีกครั้ง
ปัญหาเขามีไว้ให้แก้ ไม่ได้มีไว้ให้ท้อ
เพราะเชื่อว่าทุกปัญหานั้นมีทางออกอยู่เสมอ ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ขอแค่เราไม่ท้อถอยไปซะก่อน ก็แค่นั้นเอง
ทั้งนี้ยืนยันว่าบทความของผมไม่ใช่คำตอบ หรือบทสรุปที่ดีที่สุด ทุกท่านควรใช้วิจารณญาณส่วนตัวในการรับข้อมูลด้วยนะครับ
ขอบคุณทุกการตอบรับ ไม่ว่าจะเป็นการติดตาม ไลค์ คอมเมนท์ หรือว่าแชร์ ทุกกำลังใจสำคัญสำหรับผมเสมอ
ขอบคุณทุกคนครับ
แล้วพบกันใหม่ในโพสต์หน้า
สวัสดีครับ
ขอบคุณเจ้าของรูปภาพทุกท่าน

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา