14 มิ.ย. 2021 เวลา 01:51 • ความคิดเห็น
ความรู้สึกของคนเรานั้นผันเปลี่ยนรวดเร็ว สังเกตง่าย ๆ คนเราที่จะแต่งงานกันก็แสดงว่ารักกันมาก ตั้งใจจะร่วมหอลงโรงกัน เห็นดีเห็นงามว่าคนนี้คือคู่ชีวิตของเรา ทรัพย์สินที่หามาได้ยังต้องกลายเป็นสินสมรสแบ่งกันคนละครึ่ง ลูกก็มาจากดีเอ็นเอของสองคนรวมกัน
4
แต่สุดท้ายกลับทะเลาะกัน กลายเป็นศัตรูกันเลยก็มี พอผิดใจถือทิฐิมานะโกรธกันแล้ว จากที่เคยรักก็โกรธกันแบบไม่เผาผี บางครอบครัวสามีมีชู้ ภรรยาน้อยใจเอาปืนยิงทำร้ายกันก็มี ส่วนคนที่เคยไม่ชอบกัน เป็นศัตรูกันมาก่อน แล้วเปลี่ยนเป็นมิตรกันก็มี เพราะฉะนั้น การเปลี่ยนแปลงของใจคนนั้นพลิกได้ เปลี่ยนได้ด้วยมุมคิดเพียงนิดเดียว
แต่ศัตรูจะกลายเป็นมิตรได้นั้น ต้องทำให้อีกฝ่ายเห็นความจริงใจก่อน มุมคิดก็จะเปลี่ยนไปได้ “พอได้คิด ก็จะคิดได้” แล้วความรู้สึกในใจก็จะเปลี่ยนไป เริ่มต้นที่ตัวเราเองไม่คิดว่าเขาเป็นศัตรู ถ้าตราบใดที่เรายังคิดว่าเขาเป็นศัตรูก็ยากที่จะเปลี่ยนแปลงได้
ใจคนเราสื่อถึงกันได้ ถ้าเราปรับใจตนเองได้ ไม่คิดว่าเขาเป็นศัตรู จากที่เคยทะเลาะเบาะแว้ง หรือทำร้ายกัน แล้วคิดได้ว่าเป็นเรื่องของอดีต พอเราไม่คิดว่าเขาเป็นศัตรู พฤติกรรมการแสดงออกของเราก็จะสื่อออกไปอีกทางหนึ่งโดยอัตโนมัติ สุดท้ายจะพลิกใจของเขาได้
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า คนเราเวียนว่ายตายเกิดมานับชาติไม่ถ้วน ทุกคนในโลกนี้ไม่ว่าจะเชื้อชาติใด ภาษาใด ตั้งแต่ขั้วโลกเหนือถึงขั้วโลกใต้ ตะวันออกถึงตะวันตก ไม่มีใครเลยที่ไม่เคยเกิดเป็นญาติกัน คนที่เราเกลียดที่สุดภพใดภพหนึ่งในอดีตอาจจะเคยเป็นพ่อแม่เรา เคยเป็นพี่น้องเรา เคยเป็นลูกเรา เคยเป็นสามีภรรยาเรา แต่เราลืมไปแล้ว เขาอาจจะเคยเป็นคนที่ดีกับเรามาก ในยามที่เราลำบากเขาอาจจะเคยช่วยเหลือเรามาอย่างสุดตัวก็ได้
เพราะฉะนั้น เวลามองทุกคนให้มองเหมือนกับว่าเขาเป็นญาติสนิทของเรา เพียงแต่บางครั้งในอดีตเขาอาจจะเคยแข่งขันกับเราจนขัดผลประโยชน์กันบ้าง แต่ให้ในใจเราลึก ๆ มองทุกคนเหมือนเป็นญาติสนิทของเราเอง แล้วความรู้สึกขัดเคืองในใจของเราจะค่อย ๆ ปรับไปในทางที่ดีได้
ถ้าถามว่า “เป็นไปได้ไหมที่เราจะอยู่บนโลกนี้โดยไม่มีศัตรูหรือคู่แข่งเลย...”
มันยากที่เราจะเปลี่ยนคนอื่นให้เขาไม่เกลียดไม่โกรธเรา เพราะคนเราต่างจิตต่างใจ สิ่งที่เราทำได้คือปรับใจตนเองให้ไม่โกรธไม่เกลียดเขา ไม่คิดว่าใครเป็นศัตรู ไม่มีเวร ไม่มีภัยกับใครแล้วอธิษฐานว่า
ด้วยบุญนี้ที่ข้าพเจ้าได้แผ่เมตตา ได้ปล่อยสัตว์ปล่อยปลา ไม่ผูกโกรธ ไม่เกลียดใคร ขอให้บุญนี้ปกป้องคุ้มครองข้าพเจ้า ขออย่าให้ใครมาคิดร้ายทำลายข้าพเจ้า ถึงแม้คิดก็ขอให้เขาทำไม่สำเร็จ เพราะข้าพเจ้าเพียงคิดแข่งขัน แต่ไม่คิดทำร้ายใคร.... อธิษฐานอย่างนี้แล้วบุญก็จะคุ้มครองเราได้
1
ถ้าไม่มีการแข่งขัน ชีวิตก็ดำเนินไปเรื่อย ๆ ดังนั้น ในมุมหนึ่งคู่แข่งคือแรงกระตุ้นที่ทำให้เราเจริญก้าวหน้า และดึงความสามารถของเราออกมา ให้มองคู่แข่งเป็นพลังกระตุ้นความเจริญของเรา ดูจากเทคโนโลยีในโลกจำนวนมากเกิดขึ้นตอนสงคราม พอสู้รบกันก็มักจะมีแรงกระตุ้นทุ่มพลังทั้งชาติคิดค้นเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อที่จะช่วยให้ตนเองชนะข้าศึก
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง มนุษย์ถูกเค้นพลังความสามารถด้วยการระดมพลังทั้งชาติมาคิดค้นวิธีการเพื่อเอาตัวรอด พอหลังสงครามโลกสิ้นสุดลง เราก็สามารถเปลี่ยนเทคโนโลยีเหล่านั้น นำมาใช้ให้เป็นประโยชน์แก่มวลมนุษยชาติต่อไปได้
ดังนั้น ให้มองศัตรูว่าเป็นยาชูกำลัง ศัตรูคือแรงกระตุ้นให้เราเกิดความก้าวหน้า ต้องขอบคุณที่เขากระตุ้นให้เราเจริญยิ่งขึ้น ให้เรามองทุกสถานการณ์เป็นบวก เปลี่ยนวิกฤติให้เป็นโอกาส มองทุกคนเป็นมิตร ไม่คิดว่าใครเป็นศัตรู เป็นเพียงคู่แข่งกันเท่านั้น
แต่ถ้ามองว่าเรากำลังแข่งขันกับตนเองอยู่ ศัตรูที่น่ากลัวที่สุดก็คือกิเลสในตัว กิเลสจะบังคับใจเราให้ไปทำอะไรตามใจ แต่ถ้าเราชนะใจตนเองได้ คุมกิเลสได้อยู่หมัด สามารถทำในสิ่งที่เรารู้ว่าควรทำ อะไรไม่ดีก็สามารถควบคุมได้ อย่างนี้เราจะประสบความสำเร็จ
เจริญพร

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา