31 ก.ค. 2021 เวลา 08:23 • ธุรกิจ
ประวัติศาสตร์และเรื่องเล่าของเบียร์
EP4 : คราฟต์เบียร์ในประเทศไทย
ต้องแบบไหนถึงเรียกว่า "คราฟต์เบียร์"
หากอ้างอิงตาม Brewers Association ต้องมีคุณสมบัติ 3 อย่างคือ
1. ผลิตจากโรงเบียร์ขนาดเล็ก กำลังผลิตไม่เกิน 6 ล้านบาร์เรลต่อปี (ประมาณ 700 ล้านลิตร)
2. เป็นผู้ผลิตอิสระ หมายความว่าผู้ผลิตต้องถือหุ้นเองมากกว่า 75%
3. ใช้วัตถุดิบดั้งเดิมในการผลิต โดยมี 4 วัตถุดิบพื้นฐานคือ มอลต์, ฮ็อปส์, ยีสต์และน้ำ ต้องไม่ใช้วัตถุดิบอื่นมาทดแทนเหมือนที่โรงเบียร์ขนาดใหญ่ทำเพื่อลดต้นทุน
Photo : https://www.icoolbar.com/product/205/
หลายคนยังมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับคราฟต์เบียร์ที่มักแยกกลุ่มคราฟต์เบียร์ด้วยประเภทเบียร์ เช่น บอกว่า Witbier คือคราฟต์เบียร์ ซึ่งไม่ถูกต้องถ้าหากเบียร์นั้นผลิตโดยผู้ผลิตที่ไม่มีคุณสมบัติตามที่กล่าวมา 3 ข้อ ก็ไม่ถือว่าเป็นคราฟต์เบียร์
ในช่วงประมาณ 5-6 ปีมานี้ตลาดคราฟต์เบียร์ในประเทศไทยเติบโตอย่างต่อเนื่อง มีมูลค่าตลาดประมาณ 1,000 ล้านบาทต่อปี แต่ยังถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับตลาดเบียร์ทั้งหมดในประเทศที่มีมูลค่ากว่า 3 แสนล้านบาทต่อปี
แต่สถานการณ์โควิด-19 ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ตลาดเบียร์ในประเทศมีขนาดลดลงกว่า 60-70% ตามกำลังซื้อที่ลดลงและผลกระทบต่อธุรกิจอาหารและอาชีพกลางคืน
Photo : https://www.teerapat.com/2018/06/bitter
สำหรับคราฟต์เบียร์ไทยที่เราเห็นกันอยู่ในตลาดทั้งหมดนำเข้ามาจากต่างประเทศ แม้เจ้าของแบรนด์จะเป็นคนไทย แต่ไม่สามารถผลิตเบียร์ในประเทศไทยได้ด้วยข้อจำกัดทางกฎหมาย
ตามกฎกระทรวงการอนุญาตผลิตสุรา พ.ศ.2560 กำหนดให้ต้องมีคุณสมบัติดังนี้
1. มีทุนจดทะเบียนไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท
2. กำลังผลิตไม่ต่ำกว่า 10 ล้านลิตรต่อปี (ประมาณ 33 ล้านขวด)
3. หากผลิตเพื่อขายในร้าน จะต้องผลิตไม่ต่ำกว่า 1 แสนลิตร แต่ไม่เกิน 1 ล้านลิตรต่อปี
แน่นอนว่าผู้ผลิตรายเล็กไม่สามารถทำได้แน่นอนด้วยทุนจดทะเบียนขนาดนี้ ส่วนการผลิตขายแบบไม่บรรจุขวดในร้านก็ต้องมีปริมาณถึง 1 แสนลิตร กฎหมายนี้จึงเป็นการกีดกันผู้ประกอบการรายย่อยออกจากธุรกิจนี้
Photo : https://today.line.me/th/v2/article/vo75Ql
ผู้ประกอบการหลายรายที่ยังมุ่งมั่นและรักในการทำเบียร์จึงจำเป็นต้องออกไปผลิตคราฟต์เบียร์ในประเทศเพื่อนบ้านแทน และนำกลับเข้ามาขาย ทำให้คราฟต์เบียร์ที่แม้จะเป็นแบรนด์คนไทยแต่ไม่สามารถบอกได้เต็มปากว่าคือเบียร์ไทย และราคาขายก็สูงกว่าเบียร์ในประเทศมาก เนื่องจากต้นทุนการนำเข้า
จึงมีการรวมกลุ่มกันเรียกร้องให้ภาครัฐแก้ไขกฎหมายนี้ เพื่อเป็นการสนับสนุนธุรกิจคราฟต์เบียร์ไทยที่มีเอกลักษณ์ มีคุณภาพ มีความคิดสร้างสรรค์ ช่วยนำรายได้เข้าสู่ประเทศ และแข่งขันกับตลาดเบียร์ต่างประเทศที่นำเข้ามาขายได้อีกทางหนึ่ง
โฆษณา