9 ส.ค. 2021 เวลา 18:07 • ความคิดเห็น
ผมคิดว่า อย่างแรกที่ควรเริ่ม
คือการเป็นความสบายใจให้ตนเองครับ
“ ความสบายใจ “ เป็นคำที่ดูจะมีความหมายหลายแบบ แต่ที่เราเข้าใจกัน คือเมื่อเราอยู่กับใครแล้วมีความสบายใจ นั่นคือเราผ่อนคลาย และสามารถพูดคุยในหลายๆเรื่องได้
.
และใช่ครับ, จุดของความสบายใจแต่ละคนไม่เหมือนกัน
.
.
ที่ผมบอกว่าควรเป็นความสบายใจให้ตนเองก่อน ผมหมายความว่า ให้ลองเรียนรู้ตนเองก่อน ว่าเราในตอนนี้เป็นคนอย่างไร ชอบอะไร ไม่ชอบอะไร
.
ถามตัวเองก่อนว่า เรา’สบายใจ’ ที่จะอยู่กับคนแบบไหน หรือสังคมไหน มีจุดยืนอย่างไร
2
ภาพกันว่างเฉยๆ ครับ ตัวอย่างของความไม่มั่นใจ
ส่วนใหญ่แล้ว แต่ไม่ทั้งหมด ลักษณะนิสัยของคนที่เราอยู่ด้วยแล้วสบายใจ ก็มักเป็นลักษณะที่หลายๆ คนในสังคมคุณ อยู่ด้วยและสบายใจเหมือนกันนะครับ
.
.
ถ้าทั่วไป ก็มักจะเป็นคนรับฟัง ที่หมายถึงรับฟังอย่างตั้งใจ รับรู้ถึงอารมณ์และเข้าใจอีกฝ่ายได้ เป็นผู้รับฟังที่ดี มีความน่าเชื่อถือว่าจะเก็บความลับได้ สร้าง comfort zone แก่คนที่เข้ามาปรึกษาพูดคุย
.
ที่กล่าวไปข้างต้น คือในแง่ของคนทั่วไปนะครับ แต่ถ้าเป็นคนข้างกายที่เรารู้จักดี คงต้องเรียนรู้ว่าเขาชอบและไม่ชอบอะไรอีกทีครับ
การเข้าใจผู้อื่นที่ง่ายที่สุด
คือการลองคิดว่า ถ้าเราอยู่ในจุดนั้น เราจะมีความรู้สึกอย่างไร เราจะเป็นอย่างไร และทำอะไรต่อ
.
แต่อย่าดำดิ่งลงมากเกินไปนะครับ ไม่อย่างนั้นจะเกิดผลเสียต่อสภาพจิตใจของเราเอง
.
และใช่ครับ จากที่หลายคนบอก การเข้าใจผู้อื่นได้ดี ควรเริ่มจากการเข้าใจตนเองก่อน เพราะสุดท้ายแล้ว ธรรมชาติของคนเรามันไม่แตกต่างกันเท่าไหร่นัก และตัวเราเอง เราอยู่กับมันมากที่สุด รู้จักมากสุด การทำความเข้าใจ จึงควรง่ายที่สุด
.
.
แต่ ย า ก ม า ก ครับ 5555555
.
.
เราไม่สามารถเข้าใจตัวเองได้ 100% อย่างไร ก็ไม่สามารถเข้าใจผู้อื่นได้ทั้งหมดอย่างนั้นครับ
.
เอาให้เข้าใจเฉพาะบางส่วน ที่เราเห็นภาพก็พอแล้ว ไม่จำเป็นต้องขวนขวายจะเข้าใจเขาทั้งหมด เพราะเป็นไปได้ยากมากครับ
1
การเป็นความสบายใจให้กับคนข้างกายก็ไม่ต่างกัน เราอาจไม่สามารถเป็นได้ทุกเรื่อง สุดท้ายอย่างไรก็ต้องเรียนรู้กันไปอยู่ดี
ผมเป็นกำลังใจให้นะครับ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา