10 ก.ย. 2021 เวลา 06:10 • ประวัติศาสตร์
• จุดกำเนิดและจุดจบของราชวงศ์สจ๊วร์ต
“มันจะจบเหมือนกับที่มันเริ่มต้น บัลลังก์นี้ได้มาเพราะสตรี แลจะต้องสูญสิ้นไปเพราะสตรี” ประโยคนี้อุทานออกมาจากพระโอษฐ์ของกษัตริย์เจมส์ที่ 5 แห่งสก็อตแลนด์ ในโมงยามใกล้ถึงวาระสุดท้ายของชีวิต เมื่อพระองค์บรรทมประชวรใกล้สิ้นพระชนม์อยู่แล้วได้รับแจ้งข่าวว่ามารีแห่งกีสมเหสีของพระองค์ได้มีประสูติกาลพระธิดา คือเจ้าหญิงแมรี่ ผู้ซึ่งต่อมาจะกลายเป็นราชินีแมรี่แห่งสก็อตผู้โดนตัดหัวประหารชีวิตโดยคำสั่งของราชินีอีลิซาเบธที่ 1 แห่งอังกฤษ
1
ผู้จดบันทึกถ้อยคำอุทานที่โศกเศร้าอาดูรนี้ไว้คือสาธุคุณจอห์น น็อกซ์ ผู้ซึ่งต่อมาจะมีส่วนทำให้ราชินีแมรี่แห่งสก็อตตกบัลลังก์แล้วระเห็จระเหเร่ร่อนไปพึ่งพระบรมโพธิสมภารพระญาติที่อาณาจักรอังกฤษ
(Image: Collect GB Stamps)
• กำเนิดราชวงศ์สจ๊วร์ต
เพราะเหตุใดกษัตริย์เจมส์ที่ 5 จึงตรัสว่า “บัลลังก์นี้ได้มาเพราะสตรี”?
ที่มาที่ไปของราชวงศ์สจ๊วร์ตนั้น ต้นตระกูลนี้ที่มาเป็นเพียงขุนนางชั้นสูงตระกูลหนึ่งในสก็อตแลนด์ โดยกษัตริย์เดวิดที่ 1 แห่งสก็อตแลนด์ได้พระราชทานตำแห่ง “Lord High Steward of Scotland” ให้แก่ วอลเตอร์ ฟิซอลัน (Walter FitzAlan) ซึ่งเป็นตำแหน่งแห่งที่ที่ทำหน้าควบคุมดูแลธุระและกิจการภายในของราชวงศ์ และเป็นตำแหน่งที่สืบทอดทางสายเลือด ซึ่งลูกหลานรุ่นหลังจึงนำเอาชื่อตำแหน่งนี้ คือ Steward มาใช้เป็นนามสกุล
ต่อมา ในรุ่นของวอลเตอร์ สจ๊วร์ต (Walter Stewart) ที่ดำรงตำแหน่ง Lord High Steward of Scotland คนที่ 6 เขาได้สมรสกับเจ้าหญิงมาจอรี บรู๊ซ (Marjorie Bruce) พระธิดาองค์โตสุดของกษัตริย์โรเบิร์ตที่ 1 หรือโรเบิร์ต เดอะ บรู๊ซ (Robert the Bruce) ซึ่งเป็นวีรบุรุษสำหรับชนชาติสก็อต เพราะถูกยกย่องว่าเป็นนักรบผู้ยิ่งใหญ่ทำการต่อสู้กับพวกอังกฤษเพื่อให้สก็อตแลนด์เป็นชาติที่มีเอกราชไม่อยู่ภายใต้การปกครองของอังกฤษ
เมื่อโรเบิร์ต เดอะ บรู๊ซ ได้เป็นกษัตริย์สก็อตแลนด์ ลูกสาวคือมาจอรี บรู๊ซ จึงได้เป็นเจ้าหญิงเมื่อตอนอายุ 10 ขวบ เมื่อเจริญวัยได้สมรสกับขุนนางตระกูลสจ๊วร์ตแล้ว เจ้าหญิงมาจอรี บรู๊ซ ก็ได้ให้กำเนิดบุตรชายคือโรเบิร์ต สจ๊วร์ต (Robert Stewart) มีเรื่องเล่าว่าว่าที่กษัตริย์สก๊อตแลนด์จากราชวงศ์ใหม่ผู้นี้เกิดก่อนกำหนด เหตุเพราะในวันที่ 2 มีนาคม ปี 1316 เจ้าหญิงมาจอรีทรงขี่ม้าในระหว่างที่พระองค์ทรงพระครรภ์แก่ แต่แล้วม้านั้นอยู่ดี ๆ ก็ตื่นตกใจจนสะบัดเจ้าหญิงมาจอรีตกจากหลังม้า พระองค์จึงคลอดบุตรชายก่อนกำหนด แล้วหลังจากนั้นเพียงไม่นานเจ้าหญิงก็สิ้นพระชนม์
เมื่อกษัตริย์โรเบิร์ตที่ 1 สิ้นพระชนม์ พระโอรสเพียงองค์เดียวของพระองค์จึงสืบทอดบัลลังก์เป็นกษัตริย์เดวิดที่ 2 แห่งสก็อตแลนด์ แต่เดวิดที่ 2 สิ้นพระชนม์โดยไร้พระโอรสและพระธิดา ด้วยเหตุนี้ บัลลังก์สก็อตแลนด์จึงตกมาให้แก่โรเบิร์ต สจ๊วร์ต ซึ่งกล่าวง่าย ๆ คือเป็นหลาน เพราะเป็นลูกชายของพี่สาวคนละแม่
ในปี 1371 โรเบิร์ต สจ๊วร์ต กลายเป็นกษัตริย์โรเบิร์ตที่ 2 เป็นองค์ปฐมต้นราชวงศ์สจ๊วร์ตพระองค์แรก ซึ่งผู้สืบเชื้อสายของพระองค์จะได้ปกครองดินแดนสก็อตแลนด์ อังกฤษ และสหราชอาณาจักร ในเวลาต่อมาภายหลัง
จึงกล่าวได้ว่า ราชวงศ์สจ๊วร์ตจึงได้เป็นกษัตริย์ปกครองอาณาจักรสก็อตแลนด์เพราะฝ่ายอิสตรี
รูปจำลองบนหลุมฝังศพของเจ้าหญิงมาจอรี บรู๊ซ (Image: Wikipedia)
ภาพโรเบิร์ตที่ 2 แห่งสก็อตแลนด์ ปฐมกษัตริย์ของราชวงศ์สจ๊วร์ต (Image: The Royal Household)
ภาพเจมส์ที่ 5 แห่งสก็อตแลนด์ (Image: The Royal Household)
ภาพราชินีแมรี่แห่งสก็อตแลนด์ (Image: The Royal Household)
• จุดจบของราชวงศ์สจ๊วร์ต
เมื่อกษัตริย์เจมส์ที่ 5 ประชวรใกล้สิ้นพระชนม์ พอรู้ว่ามเหสีของพระองค์ให้กำเนิดพระธิดา ด้วยความตระหนกว่าราชวงศ์สจ๊วร์ตต้องถึงกาลจบสิ้นแล้ว พระองค์จึงอุทานด้วยความโศกเศร้าว่า “บัลลังก์ต้องสูญสิ้นไปเพราะสตรี” จากนั้นในอีก 6 วันพระองค์ก็สิ้นพระชนม์ เจ้าหญิงแมรี่กลายเป็นราชินีแมรี่ด้วยวัยเพียง 6 วัน และพระองค์เป็นผู้เปลี่ยนการสะกดชื่อราชวงศ์จาก Stewart เป็น Stuart ตามแบบฝรั่งเศสซึ่งเป็นประเทศที่พระองค์ไปอาศัยและเติบโตขึ้นมา
แต่แท้จริงแล้วราชวงศ์สจ๊วร์ตมิได้สิ้นสุดที่ยุคของราชินีแมรี่ ถึงแม้ว่าพระองค์จะถูกราชินีอังกฤษสั่งประหารชีวิตด้วยการตัดหัวก็ตาม เพราะราชินีแมรี่แห่งสก็อตทรงอภิเษกกับพระญาติของพระองค์เอง คือเฮนรี่ สจ๊วร์ต ผู้เป็นลอร์ดดาร์นลี่ย์ (Henry Stuart, Lord Darnley) ดังนั้นพระโอรสของพระองค์จึงเป็นสจ๊วร์ตเช่นเดิม ราชินีแมรี่ทรงมีพระโอรสที่ได้กลายเป็นกษัตริย์เจมส์ที่ 6 แห่งสก็อตแลนด์และกลายเป็นกษัตริย์เจมส์ที่ 1 แห่งอังกฤษเมื่อราชินีอิลิซาเบธที่ 1 สิ้นพระชนม์ ราชวงศ์นี้จึงได้กลายเป็นทั้งผู้ปกครองทั้งสองอาณาจักรต่อมาอีกหลายรุ่น
แล้วราชวงศ์สจ๊วร์ตสิ้นสุดลงในยุคใด? คำตอบคือในยุคของราชินีแอนน์
แอนน์เป็นพระธิดาของกษัตริย์เจมส์ที่ 7 แห่งสก็อตแลนด์หรือกษัตริย์เจมส์ที่ 2 แห่งอังกฤษ เมื่อพระบิดาถูกโค่นลงจากตำแหน่งกษัตริย์จากการปฏิวัติอันรุ่งโรจน์ พี่สาวของเจ้าหญิงแอนน์คือแมรี่ได้กลายเป็นราชินีปกครองร่วมกับพระสวามีของพระองค์คือกษัตริย์วิลเลี่ยม พอทั้งสองสิ้นพระชนม์ แอนน์จึงได้กลายเป็นราชินีปกครองต่อเมื่อปี 1702
ในยุคของราชินีแอนน์ ประวัติศาสตร์ต้องทำการจารึกไว้ว่าสองอาณาจักรคืออังกฤษกับสก็อตแลนด์ถูกรวมกันกลายเป็นหนึ่งเดียวกันเรียกว่า บริเตนใหญ่ (Great Britain) ภายใต้พระราชบัญญัติชื่อว่า Acts of Union ปี 1707
1
ตลอดพระชนม์ชีพของราชินีแอนน์ทรงประชวรกระเสาะกระแสะตลอด ทรงพระครรภ์ถึง 17 รอบแต่ก็ไม่สามารถมีรัชทายาทได้ พระองค์สิ้นพระชนม์เมื่อปี 1714 โดยไร้รัชทายาท ราชวงศ์สจ๊วร์ตจึงสิ้นสุดลงในยุคที่ผู้ปกครองเป็นผู้หญิง
2
รัฐสภาจึงต้องสรรหาผู้ปกครองดินแดนบริเตนใหญ่และไอร์แลนด์ใหม่ แต่เนื่องจากมีกฎตามพระราชบัญญัติ Act of Settlement 1701 ระบุไว้ว่าผู้ปกครองอาณาจักรนี้จะต้องนับถือนิกายโปรเตสแตนท์เท่านั้น ดังนั้นทายาทคนอื่น ๆ ในสายสจ๊วร์ตที่มีสิทธิ์ เช่นโอรสอีกองค์ของกษัตริย์เจมส์ที่ 7 แห่งสก็อตแลนด์หรือกษัตริย์เจมส์ที่ 2 แห่งอังกฤษ คือเจมส์ ฟรานซิส เอ็ดเวิร์ด สจ๊วร์ต (James Francis Edward Stuart) แต่นับถือคาทอลิกจึงอดไป
ผู้ปกครองสืบต่อมาจากราชวงศ์สจ๊วร์ตที่สิ้นสุดลง(ทางการเป็นผู้ปกครอง)ในยุคราชินีแอนน์ มาจากราชวงศ์ฮันโนเวอร์ที่เป็นพวกเยอรมัน เริ่มต้นจากกษัตริย์จอร์จที่ 1 เป็นต้นมา
ราชวงศ์สจ๊วร์ต ขึ้นชื่อว่าเป็นราชวงศ์ที่นองเลือดและในระยะเวลาที่ปกครองนั้นเต็มไปด้วยความวุ่นวายสับสนทางการเมืองและศาสนา ผู้ปกครองที่เป็นกษัตริย์และราชินีถูกตัดหัวบ้าง ถูกโค่นล้มลงจากอำนาจบ้าง และมีการปฏิวัติเกิดขึ้น
กษัตริย์เจมส์ที่ 6 แห่งสก็อตแลนด์หรือกษัตริย์เจมส์ที่ 1 แห่งอังกฤษ (Image: The Royal Household)
กษัตริย์เจมส์ที่ 7 แห่งสก็อตแลนด์หรือกษัตริย์เจมส์ที่ 2 แห่งอังกฤษ (Image: The Royal Household)
กษัตริย์วิลเลี่ยมและราชินีแมรี่แห่งอังกฤษ (Image: The Royal Household)
ราชินีแอนน์ ราชินีองค์สุดท้ายของราชวงศ์สจ๊วร์ต (Image: The Royal Household)

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา