16 ก.ย. 2021 เวลา 07:26 • สุขภาพ
“ไปกันไม่รอด แต่ยังฝืนทนต่อไป”
เมื่อรู้ว่าไปกันไม่รอด แต่กลับฝืนทนอยู่กันไป ?
คำถามนี้มาจากผู้ใช้งาน Blockdit ท่านหนึ่งได้ถามเอาไว้ครับ
ผมจึงขอนำคำตอบที่ได้ลงไว้มาแบ่งปันครับ
ซึ่งประเด็นในข้อคำถามนั้นมีจุดที่น่าสนใจก็คือ
“สาเหตุที่คนเราทนอยู่กับความสัมพันธ์พัง ๆ”
ทั้ง ๆ ที่ความสัมพันธ์นั้นชวนให้อึดอัด
แล้วยังทำให้ชีวิตไม่มีความสุข
แต่เหตุใดคนเราจึงฝืนทนอยู่กันไป
(พูดง่าย ๆ ก็คือ
ถ้าอยู่ด้วยกันแล้วไม่มีความสุข
จะทนอยู่กันไปทำไมฟระ ทำนองนั้นครับ 555)
ผมขอเริ่มจากประโยคนี้ครับ
“การเลิกกันไม่ทำให้เกิดความทุกข์ใจ
ความทุกข์ใจเกิดจากการไม่อยากเลิกกัน”
จากการทำงานผมพบว่ามีหลายสาเหตุครับ เช่น
1. กลัวการยุติความสัมพันธ์
เนื่องจากการเลิกกันอาจจะแปลว่า ล้มเหลว, พ่ายแพ้, ผิดพลาด,
ผิดสัญญา, ไม่มีค่า, ไม่มีใครรัก ฯลฯ
ซึ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่สามารถนำมาตีตราตัวเอง
และ สามารถถูกผู้อื่นตีตราได้ด้วยครับ
แล้วจะยิ่งทวีคูณความรุนแรงมากขึ้น
หากคำตีตราเหล่านี้เป็นสิ่งที่ใครคนนั้นจำฝังใจจนไม่อยากเจอ
และทำให้ใครคนนั้นไม่กล้าเลือกเส้นทางของการเลิกกัน
ดังนั้น
ทางเดียวที่จะทำให้ไม่เจอคำตอบเหล่านั้นก็คือ
“ทนต่อไป”
2. การไม่อยากสูญเสียความสุขไป
ถึงแม้ว่าเวลาอยู่ด้วยกันส่วนใหญ่
“จะไม่ค่อยมีความสุข”
นี่ก็ไม่ได้แปลว่า จะมีแต่ความทุกข์เพียงอย่างเดียว
ด้วยเหตุนี้เอง
ในความสัมพันธ์นั้นย่อมมีบางจังหวะที่ “มีความสุข”
แล้วความสุขนั้นอาจเป็นสิ่งล้ำค่าที่คนเราไม่อยากเสียไป
ดังนั้น หนทางที่จะปกป้องความสุขเหล่านั้นไว้ก็คือ
“การอยู่ด้วยกันต่อไป”
ทำนองว่า
ถึงแม้มันจะทุกข์ แต่ก็ยังมีมุมให้สุขอยู่บ้าง
(ความสุขที่มี มันยิ่งใหญ่กว่าการเลิกรากันไป)
ส่วนเหตุใดที่ไม่ไปหาความสุขที่มีคุณภาพกว่านี้
ส่วนมากแล้วมักเกิดจากความไม่รู้
และความกลัวที่จะสูญเสียความสุขที่มีไปครับ
3. การไม่อยากเจ็บปวด
การเลิกกันอาจจะทำให้เจ็บปวดก็จริง
แต่การโดดเดี่ยวจากการไม่มีใครมันทำให้รู้สึกเจ็บปวดยิ่งกว่าครับ
ดังนั้น
เพื่อไม่ให้เจ็บปวดมากไปกว่านี้
การฝืนอยู่ด้วยกันต่อไปจึงดูเป็นทางเลือกที่ดีกว่า
(ซึ่งอีกมุมหนึ่งก็คือไม่รู้ว่า
พอเลิกกันไปแล้ว จะได้คบกับใครอีกไหม
หรือจะต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวหรือไม่)
4. การไม่เข้าใจในความรัก
ซึ่งมักมาจากการไม่เคยได้สัมผัสความรักที่ “มีคุณภาพกว่านี้”
ฟังไปดูอาจดูรุนแรง
แต่ความเป็นจริงนั้นมันเกิดขึ้นอยู่บ่อย ๆ เลยครับ
ในกรณีที่ใครสักคนไม่ได้เติบโตมาในสภาพแวดล้อมที่
-อบอุ่น
-มีความเข้าใจ
-มีความสุข
แต่กลับเติบโตมาท่ามกลางความรุนแรง/ความขัดแย้ง/เข้มงวดเกินไป/ขาดความเอาใจใส่
ดังนั้น การที่ไม่ค่อยได้สัมผัสกับความรักที่มีคุณภาพ
จึงมีแนวโน้มให้คนเราไม่รู้ครับว่า สามารถก้าวออกไปได้
หรือ เลือกสิ่งที่ดีกว่านี้ได้
5. การมีสัมภาระบางอย่าง
ซึ่งไม่ว่าจะด้วยความจำเป็นจริง ๆ
หรือ ความที่ไม่รู้ว่าจะดูแลสัมภาระนั้นยังไง
จึงทำให้ต้องทนอยู่ด้วยกันครับ
ตัวอย่างสัมภาระก็เช่น มีลูก, มีธุรกิจ, มีสิ่งที่ต้องช่วยกันดูแล ฯลฯ
การอยู่ด้วยกันจึงเป็นการช่วยกันแบกสิ่งเหล่านั้นไว้
(บางทีก็แบกอยู่คนเดียว แต่อีกฝ่ายไม่ได้ช่วยแบกก็มี)
มันจึงทำให้เกิดการรับรู้ว่า “เลิกไม่ได้โว้ยย” ขึ้นมา
ดังนั้น
ไม่ว่าจะเป็นการหลีกเลี่ยง/ไม่กล้าเผชิญความจริง
ไม่รู้ว่าจะรับมือยังไง/ไม่รู้ว่าจะปล่อยมือยังไง
สิ่งเหล่านี้จึงกลายเป็นกำแพงกั้นภายในจิตใจครับ
แล้วบางทีการเผชิญหน้ากับกำแพงนั้นก็ชวนให้รู้สึกลำบากใจ
(อยากวางแต่ไม่กล้า)
หรือ บางทีก็เป็นการเต็มใจที่จะแบกสัมภาระเอาไว้ (เต็มใจแบก)
มนุษย์เรามีทางเลือกสำหรับกำหนดเส้นทางชีวิตตัวเองครับ
(ตามปัจจัยและความพร้อมของแต่ละคน)
เช่น
-เลือกที่จะแบกบางสิ่งต่อไป “ทนอย่างเต็มใจ”
-เลือกที่จะวางสิ่งที่แบกไว้นั้นลง “วางเพราะทนต่อไปไม่ไหว”
-ใคร่ครวญให้แน่ชัดก่อนการเลือก “อยู่ในช่วงตัดสินใจว่าจะทน/ไม่ทน/หาวิธีแก้ปัญหา”
สรุปแล้ว
หากจะถามว่าอะไรผลักดันให้เราทน/ไม่ทน
ตรงนี้ก็ต้องทำความเข้าใจในชีวิตจิตใจของแต่ละบุคคลครับ ^^

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา