#88 เล่ม 3 บทที่ 21 หน้า 457 ~ 462
N : ผมยังไม่อยากให้พระองค์ไปครับ❗
G : ฉันไม่ได้ไปไหน ฉันอยู่กับเธอตลอดเวลา ในทุกวิถีทาง
N : ได้โปรด...ก่อนที่เราจะจบ ขออีกสักสองสามคำถามนะครับ เป็นคำถามปิดท้ายก่อนที่จะจบการสนทนา
G : เธอเข้าใจใช่ไหมว่า เธอสามารถกลับเข้าสู่ ‘ภายใน’ ได้ทุกเวลา กลับเข้าสู่ใจกลางของปัญญานิรันดร์ และพบกับคำตอบของเธอได้ที่นั่น❓
N : เข้าใจครับ และผมก็รู้สึกขอบคุณจากก้นบึ้งของหัวใจที่มันเป็นแบบนั้น ว่าชีวิตถูกสร้างขึ้นแบบนั้นเพื่อให้ผมมีที่พึ่งพิงเสมอ แต่การพูดคุยกันแบบนี้ก็ได้ผลกับผม มันเป็นของขวัญชิ้นเยี่ยม ขอถามอีกสักสองสามคำถามปิดท้ายไม่ได้หรือครับ❓
G : ได้อยู่แล้ว
N : โลกของเรากำลังตกอยู่ในอันตรายจริงๆใช่มั้ย❓ สายพันธุ์ของเรากำลังหมิ่นเหม่ต่อการทำลายตัวเอง — พวกเรามีโอกาสสูญพันธุ์จริงๆใช่มั้ยครับ❓
G : ใช่ และถ้าเธอไม่คำนึงถึงความเป็นได้นี้ให้มากๆ เธอจะหลีกเลี่ยงมันไม่พ้น เพราะอะไรที่เธอต่อต้านจะคงอยู่ อะไรที่เธอเพียงเฝ้าดูจะหายไป★
[★เฝ้าดูแล้วจะเห็นธรรมชาติของมัน หรือเห็นความเป็นไปของมันตามความเป็นจริง เมื่อเห็นแล้วไม่ไปขัดแย้งหรือต้านมัน แต่กลมกลืนไปกับมัน มันก็จะหายไปหรือเปลี่ยนไปได้ – แอดมิน]
จงจำไว้อีกอย่างที่ฉันเคยบอกเธอเกี่ยวกับเรื่องของเวลาและเหตุการณ์ต่างๆ ทุกๆเหตุการณ์ที่เธอสามารถจินตนาการได้ (และที่เคยจินตนาการ) กำลังเกิดขึ้นอยู่ในตอนนี้ ในห้วงขณะอันเป็นนิรันดร์นี้
นี่คือห้วงปัจจุบันขณะอันศักดิ์สิทธิ์ 🔸นี่คือโมงยามที่เกิดขึ้นก่อนหน้าการรับรู้ของเธอ🔸 คือสิ่งที่กำลังอุบัติขึ้น (ในหนทางเบื้องหน้า) ก่อนที่แสงสว่างจะส่องมาถึงเธอ นี่คือห้วงปัจจุบันขณะที่ถูกส่งมายังเธอ และเกิดขึ้นจากตัวเธอก่อนที่เธอจะรู้ตัวเสียอีก❗
เธอเรียกมันว่า “ปัจจุบัน (ของขวัญ) - present” และมันก็เป็น “ของขวัญ” จริงๆนั่นแหละ ✨คือของขวัญที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่พระเจ้ามอบให้เธอ✨
จากประสบการณ์ทั้งหมดที่เธอเคยนึกคิดจินตนาการ เธอเลือกได้ว่าจะได้รับประสบการณ์ใด ‘ในตอนนี้’
N : พระองค์เคยพูดเรื่องนี้มาก่อน และในตอนนี้ผมก็เริ่มๆที่จะเข้าใจมันแล้ว (แม้ในมุมมองอันคับแคบจำกัดของผม) แล้วก็ไม่มีอะไรที่ “จริง” จริงๆใช่มั้ยครับ❓
G : ไม่มี เธอกำลังใช้ชีวิตอยู่ในภาพลวงตา (โลกมายาหรือโลกสมมติ) นี่คือการแสดงมายากลอันยิ่งใหญ่ และเธอก็แสร้งทำเป็นไม่รู้เคล็ดลับ แม้ว่าตัวเธอเองนั่นล่ะที่เป็นนักมายากล
🛑 สำคัญมากที่เธอต้องจำเรื่องนี้ไว้ให้ดี ไม่อย่างนั้นเธอจะทำให้ทุกอย่างเป็นของจริงไปหมด
N : แต่สิ่งที่ผมเห็น รู้สึก ได้กลิ่น ได้สัมผัส มันดูจริงเหลือเกิน ถ้านั่นไม่ใช่ “ความเป็นจริง” (โลกความจริง) แล้วอะไรล่ะครับที่ใช่❓
G : จงจำไว้เสมอว่าเวลาที่เธอมองดูอะไรก็ตาม เธอไม่ได้กำลัง “เห็น” มันจริงๆ
สมองของเธอไม่ใช่ต้นตอของความรู้ของเธอ มันเป็นเพียงแค่ระบบประมวลผลข้อมูล มันรับเอาข้อมูลผ่านตัวรับที่เรียกว่า "ประสาทสัมผัส" มันแปลความหมายของพลังงาน (ข้อมูล) นี้ให้เป็นรูปร่างตามข้อมูลในอดีตของเรื่องนั้นๆ — มันบอกเธอว่ามัน ‘รับรู้อะไร’ 💢ไม่ได้บอกว่าอะไรคือความจริง💢
🛑 บนฐานของการรับรู้เหล่านี้ เธอคิดว่าเธอรู้ความจริงเกี่ยวกับบางสิ่ง ทั้งที่จริงๆเธอรู้ไม่ถึงครึ่งเลยด้วยซ้ำ และในความเป็นจริงแล้วเธอกำลังสร้างความจริงที่เธอรับรู้นั้นขึ้นมา★
[★โลกความจริงถูกสร้างขึ้นมาตามสิ่งที่เรารู้ เรารู้แค่ไหนเราก็สร้างได้แค่นั้น – แอดมิน]
N : รวมถึงการพูดคุยทั้งหมดนี้กับพระองค์
G : แน่นอนที่สุด
N : ผมเกรงว่ามันจะยิ่งทำให้คนพูดกันว่า “มันไม่ได้คุยกับพระเจ้าหรอก มันแต่งเรื่องขึ้นมาเองทั้งนั้น”
G : จงบอกพวกเขาไปอย่างนุ่มนวลว่าให้ลอง “คิดนอกกรอบ” ดูสักหน่อย ตอนนี้พวกเขากำลังคิดแบบ “ถ้าไม่ใช่อย่างนี้ก็ต้องเป็นอย่างนั้น” ต้องให้พวกเขาลองคิดแบบ “ใช่ทั้งสองอย่าง” ดู
เธอจะไม่มีวันเข้าใจพระเจ้าหากเธอคิดอยู่ภายใต้กรอบของค่านิยม แนวคิดและความเข้าใจในปัจจุบัน หากเธอปรารถนาที่จะเข้าใจพระเจ้า เธอต้องเต็มใจยอมรับว่าเวลานี้เธอ ‘มีข้อมูลจำกัด’ แทนที่จะยืนกรานว่าเธอรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับเรื่องนี้หมดแล้ว
ฉันขอดึงความสนใจของเธอไปที่ถ้อยคำของเวอร์เนอร์ เออร์ฮาร์ด ผู้ซึ่งประกาศว่าความกระจ่างที่แท้จริงจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อเราสังเกตเห็นได้อย่างแท้จริงแล้วว่า :
🛑 ยังมีบางสิ่งที่ฉันไม่รู้
🛑 เป็นบางสิ่งที่หากได้รู้แล้วอาจเปลี่ยนแปลงได้ทุกสิ่ง
มันเป็นไปได้ว่าเธอนั้นทั้ง “คุยกับพระเจ้า” และ “แต่งเรื่องทั้งหมดนี้ขึ้นมาเอง”
แน่นอนว่า นี่คือความจริงอันยิ่งใหญ่ : ✨ตัวเธอเป็นคนรังสรรค์ทุกอย่างขึ้นมาเอง✨
🛑 ชีวิตคือกระบวนการที่ทุกสิ่งได้รับการรังสรรค์ขึ้น พระเจ้าคือพลังงาน (พลังงานดั้งเดิมอันบริสุทธิ์ที่ยังไม่ได้ถูกปรุงแต่ง) ที่เธอเรียกว่า ‘ชีวิต’ การตระหนักรู้ในเรื่องนี้จะนำเราสู่ความจริงใหม่ นั่นคือ :
💥พระเจ้าคือกระบวนการ💥
N : ผมคิดว่าพระองค์บอกว่าพระเจ้าคือสิ่งรวม ว่าพระเจ้าคือทั้งหมด
G : ใช่ ฉันบอกแบบนั้น และพระเจ้าก็เป็นอย่างนั้น 💥แต่พระเจ้าก็เป็นกระบวนการที่ทั้งหมดถูกสร้างขึ้นและมีประสบการณ์ถึงตัวเอง💥
ฉันเปิดเผยเรื่องนี้กับเธอมาก่อนแล้ว
N : ใช่ครับ ใช่ พระองค์ให้ความเข้าใจนั้นกับผมตอนที่ผมเขียนหนังสือเล่มเล็กชื่อ Re-creating Yourself (การสร้างตัวตนของตนขึ้นมาใหม่อีกครั้ง)
G : ใช่ และตอนนี้ฉันจะนำมาพูดตรงนี้อีกครั้งแก่ผู้อ่านในวงกว้าง
"พระเจ้าคือกระบวนการ"
พระเจ้าไม่ใช่บุคคล สถานที่ หรือสิ่งจับต้องได้ พระเจ้าคือสิ่งที่เธอคิดมาโดยตลอดอย่างไม่มีผิดเพี้ยน...แต่ไม่เข้าใจ
N : ขออีกครั้งนะครับ
G : เธอคิดมาโดยตลอดว่าพระเจ้าคือสภาวะสูงสุด (Supreme Being)★
[★หรืออาจแปลได้ว่าสภาวะแห่งความเป็นในขั้นสูงสุด (หรือการดำรงอยู่ในขั้นสูงสุด) จริงๆมันแปลว่าสิ่งมีชีวิตผู้มีอำนาจสูงสุดก็ได้ แต่ถ้าใช้คำๆนี้จะทำให้คิดไปได้ว่าพระเจ้าเป็นบุคคล หรือเป็นอะไรบางสิ่งที่จับต้องได้ มองเห็นได้ด้วยตา อะไรแบบนั้นไป ซึ่งคำว่า ‘สิ่งมีชีวิต’ ในนิยามของหนังสือชุดนี้ คือตัวสภาวะ (คือตัวจิตวิญญาณ) ที่กำลังดำเนินไป หรือตัวกระบวนการที่กำลังดำเนินไป ไม่ใช่แค่กายเนื้อหรือรูปธรรมทางกายภาพที่กำลังดำเนินไปเท่านั้น – แอดมิน]
N : ใช่ครับ
G : ซึ่งเธอก็คิดถูก ฉันเป็นอย่างนั้นจริงๆ เป็นตัวสภาวะ (เป็นความเป็น - A BEING) จงสังเกตว่า “สภาวะหรือความเป็น” นั้นไม่ใช่สิ่งจับต้องได้ มันคือ 🔸กระบวนการ🔸
✨ฉันคือสภาวะสูงสุด✨
🌟 ฉันไม่ใช่ ‘ผลลัพธ์’ ของกระบวนการ
🌟 ฉัน ‘คือ’ ตัวกระบวนการนั้น
✴️ ฉัน คือ ‘ผู้สร้าง’
✴️ และก็คือ ‘กระบวนการที่ตัวฉันถูกสร้างขึ้น’
🛑 ทุกสิ่งที่เธอเห็นทั้งในสรวงสวรรค์ (ห้วงอวกาศ) และพื้นพิภพก็คือ `ฉัน` ...ที่กำลังถูกสร้างขึ้น
🛑 กระบวนการแห่งการสร้างสรรค์ไม่มีวันจบ ไม่มีวันเสร็จสมบูรณ์ ฉันไม่มีวัน “จบ” ฉันไม่มีวัน “เสร็จสิ้น” นี่คืออีกวิธีที่จะพูดว่า 🔸ทุกสิ่งนั้นกำลังเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา🔸 (และจะเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องต่อไปไม่มีวันสิ้นสุด) ไม่มีอะไรที่คงเดิม ไม่มี...ไม่มีสักสิ่ง...ที่ปราศจากการเคลื่อนไหว ทุกสิ่งคือพลังงาน (energy) ที่กำลังเคลื่อนไหว (motion) โน้ตย่อด้วยภาษาของเธอ เธอเรียกมันว่า “E-motion — อารมณ์”★
[★เช่น กทม. ย่อมาจากกรุงเทพมหานครฯ ทีนี้ E-motion (เขียนแบบสั้น) ก็คือ Energy in motion (เขียนแบบยาว) ซึ่งก็คือ อารมณ์คือพลังงานที่กำลังเคลื่อนไหว - แอดมิน]
🛑 เธอคืออารมณ์สูงสุดของพระผู้เป็นเจ้า❗★
[★You are God’s highest emotion (ผมขอขยายความว่าอย่างนี้ก็แล้วกัน) เธอคือพลังงานที่เคลื่อนไหวแรงที่สุด (เคลื่อนไหวมากที่สุด) ของพระผู้เป็นเจ้า – แอดมิน]
🛑 เวลาที่เธอมองสิ่งๆหนึ่ง เธอไม่ได้กำลังมอง “บางสิ่ง” ที่หยุดนิ่งอยู่กับที่ “ซึ่งหยุดอยู่ตรงนั้นไม่ขยับเขยื้อน” ในกาลและอวกาศ ไม่ใช่เลย❗
🛑 เธอคือผู้ที่กำลังเห็นเหตุการณ์เหตุการณ์หนึ่งอยู่ — ที่เรียกบางสิ่งที่เธอเห็นนั้นว่า ‘เหตุการณ์’ เป็นเพราะมันกำลังเคลื่อนไหวอยู่ ทุกสิ่งกำลังเคลื่อนไหวอยู่ กำลังเปลี่ยนแปลงอยู่ กำลังวิวัฒน์อยู่... ‘ทุกๆสิ่ง’
บักมินสเตอร์ ฟุลเลอร์ ได้กล่าวเอาไว้ว่า “ดูเหมือน `ฉัน` จะเป็นคำกิริยา”★ ซึ่งเขาพูดถูก
[★คำกิริยาคือคำที่แสดงอาการ สภาพ หรือการกระทำของคำนาม ซึ่งการกระทำก็คือการเคลื่อนไหว ส่วนคำนามคือคำเรียกคน สัตว์ สิ่งของต่างๆ (ที่พวกเราคิดว่ามันคือสิ่งคงที่) ที่นี้ ‘ฉัน’ ที่เราคิดว่ามันคือคำนามก็ไม่ใช่แล้วตามที่พระองค์อธิบาย และด้วยคำอธิบายนี้คงไม่มีอะไรที่เป็นคำนามอีก ไม่ว่าจะคน สัตว์ หรือสิ่งของ ทั้งหมดนี้คือคำกิริยา (คือกำลังเคลื่อนไหวอยู่) – แอดมิน]
🛑 พระเจ้าคือ ‘เหตุการณ์หนึ่ง’ เธอเรียกเหตุการณ์นั้นว่า ‘ชีวิต’ — ชีวิตคือกระบวนการ และกระบวนการนั้นก็เป็นสิ่งที่สังเกตได้ รับรู้ได้ และทำนายได้ 🔸ยิ่งเธอสังเกตมากเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งรู้และยิ่งทำนายได้มากเท่านั้น🔸
N : นั่นมันไม่ง่ายสำหรับผมเลย ผมคิดมาโดยตลอดว่าพระเจ้าคือสิ่งไม่แปรผัน คือความคงที่เพียงหนึ่งเดียว คือผู้เคลื่อนที่ที่ไม่เคลื่อนไหว ความจริงสูงสุดที่ไม่อาจหยั่งรู้ได้เกี่ยวกับพระเจ้าแบบนี้ทำให้ผมรู้สึกมั่นคง
G : นี่ก็เป็นความจริงเหมือนกัน❗
🔸ความจริงที่ไม่แปรผันเพียงหนึ่งเดียว🔸 ก็คือ : 💥พระเจ้าเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา💥
นี่คือความจริงหนึ่งเดียว แล้วเธอก็ไม่สามารถทำอะไรเพื่อจะเปลี่ยนมันได้ (เธอไม่มีทางเปลี่ยนมันได้) มีเพียงสิ่งเดียวเท่านั้นที่ไม่เคยเปลี่ยนนั่นก็คือ :
🛑 ทุกสิ่งกำลังเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา
🌟 ‘ชีวิต’ คือ ‘ความเปลี่ยนแปลง’
🌟 และ ‘พระเจ้า’ ก็คือ ‘ชีวิต’
ฉะนั้น...
🛑 พระเจ้าคือความเปลี่ยนแปลง
...
...
...
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
