#91 เล่ม 3 บทที่ 21 หน้า 470 ~ 478
...
G : ทุกอย่างที่ฉันนำมาให้เธอในการพูดคุยกันนี้ เธอได้รู้มาก่อนแล้ว ทั้งหมดนี้ฉันได้บอกเธอมาก่อนแล้วผ่านทางผู้คนที่ฉันส่งไปให้เธอ หรือผ่านทางคำสอนของคนเหล่านั้น ไม่มีอะไรใหม่ตรงนี้ และก็ไม่มีอะไรให้เธอต้องเรียนรู้ เธอแค่ต้องจำให้ได้เท่านั้น
ความเข้าใจของเธอเรื่อง “ไม่มีอะไรที่เป็นแก่นสาร” นั้นมีค่าและลึกซึ้ง และมันก็เป็นประโยชน์ต่อเธอมาก
...
...
...
N : ขอโทษนะครับ ผมคงให้การพูดคุยกันนี้จบลงโดยไม่พูดถึงความขัดแย้งกันเองตรงนี้ไม่ได้
G : ซึ่งก็คือ —❓
N : พระองค์สอนผมครั้งแล้วครั้งเล่าว่าสิ่งที่เราเรียกว่า “ชั่วร้าย” ดำรงอยู่เพื่อเป็นบริบทให้เราสามารถมีประสบการณ์ถึงภาวะ “ดีงาม” ได้
พระองค์บอกว่าผมไม่อาจมีประสบการณ์ถึง ‘สิ่งที่ผมเป็น’ ได้หากไม่มีสิ่งที่ ‘ผมไม่ได้เป็น’ ดำรงอยู่ พูดอีกอย่างก็คือหากไม่มี “ร้อน” ก็ไม่มี “เย็น” หากไร้ซึ่ง “สูง” “ต่ำ” ย่อมไม่ปรากฏ อะไรทำนองนี้
G : ถูกต้อง
N : พระองค์ถึงกับใช้เรื่องนี้อธิบายให้ผมเข้าใจว่าผมจะมองทุก “ปัญหา” ให้เป็นการอวยพรได้อย่างไร และเห็นคนที่ทำเรื่องร้ายๆ (คนชั่ว) เป็นทูตสวรรค์ได้ยังไง
G : ก็ถูกอีก
N : แต่แล้วทำไมทุกการบรรยายถึงการใช้ชีวิตของสิ่งมีชีวิตที่มีวิวัฒนาการขั้นสูงถึงแทบไม่มี “สิ่งชั่วร้าย” เลย❓ ทั้งหมดที่พระองค์สาธยายถึงพวกเขาคือสวรรค์วิมาน❗
G : โอ้ ดีเลย ดีมาก แสดงว่าเธอเก็บเอาไปคิด
N : จริงๆแล้วแนนซีเป็นคนชี้ประเด็นนี้ เธอฟังผมอ่านออกเสียงบางข้อความที่เขียนไว้และบอกว่า “ฉันคิดว่าเธอต้องถามเรื่องนี้ก่อนจบการพูดคุยนะ ว่าสวส.มีประสบการณ์ถึงตัวเองอย่างที่เป็นจริงๆได้ยังไงหากพวกเขาขจัดด้านที่เป็นลบออกไปจากชีวิตจนเกลี้ยงแล้ว❓”
ผมคิดว่ามันเป็นคำถามที่ดีมาก จริงๆแล้วมันทำให้ผมอึ้งไปเลย และผมก็รู้ว่าพระองค์เพิ่งบอกว่าเราไม่จำเป็นต้องมีคำถามมากไปกว่านี้แล้ว แต่ผมคิดว่าพระองค์จำเป็นต้องตอบคำถามนี้
G : ตกลง ถือว่าตอบให้แนนซีก็แล้วกัน จะว่าไปมันคือหนึ่งในคำถามที่ดีที่สุดของเล่มนี้เลยด้วย
N : (อะแฮ่ม)
G : ก็มันเป็นอย่างนั้นจริงๆนี่...ฉันแปลกใจเสียด้วยซ้ำที่เธอไม่สังเกตเห็นในจุดนี้ตอนที่เราคุยกันเรื่องสวส. ฉันแปลกใจที่เธอไม่ได้คิดถึงประเด็นนี้
N : ผมคิดครับ
G : เธอคิด❓
N : ก็พวกเราเป็นหนึ่งเดียวกันไม่ใช่หรอกหรือ❓ ถ้าอย่างนั้นส่วนหนึ่งของตัวผมซึ่งก็คือแนนซีเป็นคนคิดเรื่องนี้ไง❗
G : โอ้ เยี่ยมมาก❗ และแน่นอนว่าเธอพูดถูกเผง
N : แล้วคำตอบของพระองค์คือ❓
G : ฉันขอกลับไปที่ข้อความเริ่มต้นของฉันที่บอกว่า :
⏺️ หากไม่มีสิ่งที่เธอไม่ได้เป็น
⏺️ สิ่งที่เธอเป็นย่อมไม่มี
นั่นคือหากไม่มีเย็น เธอก็ไม่อาจมีประสบการณ์ที่เรียกว่าร้อนได้ หากไม่มีความสูง แนวคิดเรื่อง “ความต่ำ” ก็เป็นมโนคติที่ว่างเปล่าไร้ความหมาย
นี่คือ ✨ความจริงของจักรวาล✨
🔸ซึ่งแน่นอนว่ามันอธิบายถึงเหตุผลที่จักรวาลทำไมถึงต้องเป็นอย่างที่เป็น🔸 ทั้งร้อนและเย็น ทั้งสูงและต่ำ และแน่นอน ทั้ง “ดีงาม” และ “ชั่วร้าย”
แต่จงรู้ไว้ว่า : 🔸เธอเป็นคนสร้างทั้งหมดนี้ขึ้นมาเอง🔸
เธอเป็นคนตัดสินใจว่าอะไร “เย็น” และอะไร “ร้อน” ว่าอะไร “สูง” และอะไร “ต่ำ” (ลองออกไปนอกโลกดูสิแล้วแนวคิดเรื่องสูงต่ำจะหายไปในทันที) เธอเป็นคนตัดสินใจว่าอะไร “ดี” และอะไร “ชั่ว”
...และแนวคิดของเธอเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ทั้งหมดก็แปรเปลี่ยนไปตามยุคสมัย ซึ่งจริงๆแล้วมันเปลี่ยนไปตามฤดูกาลเลยด้วยซ้ำ ในฤดูร้อนเธอจะบอกว่า 6 องศาเซลเซียสนั้น “เย็น” แต่ถ้าเป็นฤดูหนาวเธอจะบอกว่า “โอ้ มันช่างอุ่นดีแท้❗”
✨จักรวาลเพียงให้สนามแห่งประสบการณ์แก่เธอก็เท่านั้น✨
ซึ่งเธออาจเรียกมันว่า "ขอบเขตของสนามแห่งปรากฏการณ์เชิงรูปธรรม" (เป็นปรากฏการณ์ที่เกี่ยวข้องกับวัตถุทางกายภาพ)
🔸ส่วนเธอก็เป็นคนตัดสินใจว่าจะเรียกสิ่งต่างๆเหล่านั้นว่าอะไร (ใส่ความหมายให้พวกมัน)🔸
จักรวาลคือองค์รวมของระบบของสิ่งที่เรียกว่าปรากฏการณ์ทางกายภาพ และจักรวาลก็กว้างใหญ่ไพศาล ใหญ่โตมโหฬารจนไม่อาจวัดได้ จริงๆแล้วก็คือ ‘ไม่มีที่สิ้นสุด’
และนี่คือ “ความลับอันยิ่งใหญ่” :
🛑 ไม่จำเป็นว่าภาวะตรงกันข้ามจะต้องอยู่ข้างๆตัวเธอ เพื่อมอบขอบเขตของบริบทแห่งความเป็นจริงที่เธอเลือกจะมีประสบการณ์ 🛑
ระยะทางระหว่างสิ่งที่อยู่ตรงกันข้ามนั้นไม่ใช่ประเด็น 🔸เพราะทั้งจักรวาลนี้คือขอบเขตให้องค์ประกอบที่ขัดแย้งกันทั้งมวลดำรงอยู่🔸 ประสบการณ์ทั้งมวล (ในทุกๆรูปแบบ) จึงเป็นไปได้ขึ้นมา
⏺️ นี่คือ `จุดมุ่งหมาย` ของการมีอยู่ของจักรวาล
⏺️ นี่คือ `หน้าที่` ของมัน
N : แต่ถ้าผมไม่เคยได้สัมผัสหรือมีประสบการณ์ถึง “ความเย็น” ด้วยตัวเอง แต่แค่เห็นว่ามัน “เย็น” อยู่ที่ไหนสักที่ อาจเป็นที่ที่อยู่ไกลจากผมมากๆ แล้วผมจะรู้ได้ยังไงว่า “ความเย็น” เป็นยังไง❓
G : เธอเคยมีประสบการณ์ถึง “ความเย็น” แล้ว เธอเคยมีประสบการณ์มาหมดแล้ว หากไม่ใช่ในชีวิตนี้ก็เป็นในชีวิตก่อน หรือในชีวิตก่อนหน้านั้น หรือในชีวิตใดชีวิตหนึ่งอันนับไม่ถ้วน
เธอเคยมีประสบการณ์ถึง “ความเย็น” มาแล้ว รวมทั้ง “ใหญ่” และ “เล็ก” และ “สูง” และ “ต่ำ” และ “ที่นี่” และ “ที่อื่น” และทุกๆองค์ประกอบที่ขัดแย้งกันทั้งหมดที่มีอยู่ ทั้งหมดนี้ผสานกันอยู่ (ดำรงอยู่) ✨ในความทรงจำของเธอ✨
🛑 เธอไม่จำเป็นต้องประสบกับมันอีกหากเธอไม่ต้องการ
🛑 เธอเพียงแค่ต้องระลึกถึงมันให้ได้เท่านั้น (รู้ว่ามันมีอยู่) เพื่อจะปลุกกฎแห่งสัมพันธภาพของจักรวาลขึ้น
💥 พวกเธอทั้งหมด...พวกเธอทุกคนเคยประสบมาแล้ว ‘ทุกสิ่ง’ สิ่งมีชีวิตทั้งหมดในจักรวาลก็เหมือนกัน ไม่เพียงแค่มนุษย์เท่านั้น
💥 พวกเธอทั้งหมดไม่ใช่แค่มีประสบการณ์มาแล้วทุกสิ่ง
💥 แต่พวกเธอ ‘คือ’ ทุกสิ่ง
💥 พวกเธอคือสิ่งอันเป็นทั้งหมดนั้น
🛑 เธอคือสิ่งที่เธอกำลังประสบ
🛑 และแน่นอนว่าตัวเธอเองคือคนที่ก่อให้เกิดประสบการณ์เหล่านั้น
N : ผมไม่แน่ใจว่าผมเข้าใจเต็มที่แล้วหรือเปล่า
G : ฉันกำลังจะอธิบายให้เธอฟังถึงกลไกการทำงานของมัน และเรื่องที่ฉันอยากให้เธอเข้าใจตอนนี้ก็คือ :
🛑 สิ่งที่เธอกำลังทำอยู่ในเวลานี้เป็นแค่การกำลัง “ระลึกถึงทุกสิ่งที่เธอเป็น”
🛑 และกำลัง “เลือกส่วนที่เธอต้องการจะมีประสบการณ์” ในขณะนี้ ในชาตินี้ บนโลกใบนี้ และในรูปลักษณ์นี้
N : พระเจ้า❗ พระองค์ทำให้มันฟังดูเรียบง่ายมาก ๆ❗
G : มันเรียบง่ายอย่างนั้นนั่นแหละ
🛑 เธอได้แยกตัวเองออกจากกายของพระเจ้า ออกจากทั้งหมด ออกจากสิ่งรวม แล้วเธอก็กำลังกลายเป็นส่วนหนึ่งของกายนั้น “อีกครั้ง”
🛑 นี่คือกระบวนการที่เรียกว่า “การจดจำรำลึก / การกลับไปเป็นส่วนหนึ่งอีกครั้ง : re-membering”
🛑 ในขณะที่เธอระลึกได้ (กลับไปเป็นส่วนหนึ่ง) เธอได้ให้ประสบการณ์ทั้งหมดที่เธอเป็นแก่ตัวเอง “อีกครั้ง”
🛑 มันคือวัฏจักร เธอทำแบบนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า และเรียกมันว่า “วิวัฒนาการ” เธอบอกว่าตัวเธอ “วิวัฒน์ขึ้น” แต่ในความเป็นจริงแล้วเธอกำลังโคจร (หมุนรอบเป็นวัฏจักร) อยู่ต่างหาก❗ (Re-volve) แบบเดียวกับที่โลกโคจรรอบดวงอาทิตย์ แบบเดียวกับที่กาแล็กซีโคจรรอบแกนกลางของมัน
💫 สรรพสิ่งหมุนเวียนเป็นวัฏจักร 💫
"การหมุนรอบ" (revolution : หรือการปฏิวัติ หรือการเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่) คือ 🔸การเคลื่อนไหวขั้นพื้นฐานของทุกชีวิต🔸
💫 “พลังแห่งชีวิต” จะหมุนรอบ (หมุนเวียน) นั่นล่ะคือสิ่งที่มันทำ
💫 เธอกำลังอยู่ในกระแสการเคลื่อนไหวแห่งการเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ (revolutionary movement) อย่างแท้จริง
N : พระองค์ทำได้ยังไงครับเนี่ย❓ พระองค์สามารถหาคำมาอธิบายให้ทุกอย่างกระจ่างแจ้งอยู่เรื่อยได้ยังไง❓
G : ตัวเธอเองนั่นแหละที่เป็นคนทำให้มันกระจ่างแจ้ง เธอทำแบบนั้นด้วยการทำความสะอาด “ตัวรับ” ของเธอให้สะอาดขึ้น
✨เธอเลิกหยุดอยู่กับที่และเต็มใจที่จะรับรู้สิ่งใหม่✨
ซึ่งความเต็มใจครั้งใหม่นี้จะ “เปลี่ยนแปลงทุกสิ่ง” เปลี่ยนทั้งตัวเธอเอง และสายพันธุ์ของเธอ
เพราะการยินยอมพร้อมใจที่จะรับรู้สิ่งใหม่นี้ เธอจึงได้กลายเป็นนักปฏิวัติที่แท้จริง
🌟 การปฏิวัติทางจิตวิญญาณครั้งใหญ่ที่สุดของดาวเคราะห์ดวงนี้ได้เริ่มขึ้นแล้ว 🌟
N : คงต้องรีบแล้ว พวกเราต้องมีความเชื่อทางจิตวิญญาณแบบใหม่เดี๋ยวนี้เลย พวกเรากำลังสร้างความทุกข์ระทมอันน่าเหลือเชื่อไปทั่วทุกแห่งหน
G : นี่เป็นเพราะถึงแม้สิ่งมีชีวิตทั้งหมดจะเคยใช้ชีวิตผ่านประสบการณ์ทุกรูปแบบมาหมดแล้ว — แต่บางคนไม่รู้เรื่องนี้ (ไม่รู้ว่าเคยมีประสบการณ์มาหมดแล้ว) 💢พวกเขาหลงลืมไปและยังจดจำไม่ได้อย่างเต็มที่💢
🛑 แต่สิ่งมีชีวิตที่มีวิวัฒนาการขั้นสูงไม่เป็นอย่างนั้น มันไม่จำเป็นต้องมี “ด้านลบ” อยู่ตรงหน้าหรืออยู่ในโลกของพวกเขาเสียก่อนถึงจะรู้ได้ว่าอารยธรรมของพวกตน “เป็นบวก” อย่างไร พวกเขา “รับรู้ถึงด้านบวก” ของตน (รู้ว่าตัวเองเป็นใครในด้านบวก) โดยไม่จำเป็นต้องสร้างด้านลบขึ้นมาเพื่อพิสูจน์ สวส.เพียงรับรู้ถึงสิ่งที่ตนไม่ได้เป็นโดยสังเกตมันจาก ‘ที่ไหนสักแห่งในสนามแห่งประสบการณ์’★
[★สนามแห่งประสบการณ์หรือจักรวาลนี้มีประสบการณ์ในทุกรูปแบบดำรงอยู่เพื่อนำมาใช้อ้างอิงหรือเปรียบเทียบได้ – แอดมิน]
🛑 จริงๆแล้วดาวเคราะห์ของเธอคือหนึ่งในสถานที่ที่สิ่งมีชีวิตที่มีวิวัฒนาการขั้นสูงจะมองมาเวลาที่พวกเขาอยากเสาะหาด้านตรงข้าม
🛑 เวลาที่สวส.มองมายังโลกของเธอ มันทำให้พวกเขาระลึกได้ว่ามันเป็นอย่างไรเมื่อคราวที่พวกตนมีประสบการณ์ถึงสิ่งที่พวกเธอกำลังมีประสบการณ์อยู่ ดังนั้นพวกเขาจึงมีกรอบให้ใช้อ้างอิงได้อย่างต่อเนื่องเพื่อพวกเขาจะได้รู้และเข้าใจถึงสิ่งที่พวกเขากำลังมีประสบการณ์อยู่ในตอนนี้★
[★มีด้านตรงข้ามให้เห็นอยู่แล้ว และยังเห็นอีกด้วยว่าประสบการณ์ด้านตรงข้ามเป็นอย่างไรเพราะสิ่งมีชีวิตที่ทำแบบนั้นกำลังประสบกับมันอยู่ จึงไม่จำเป็นต้องสร้างมันขึ้นมาเองเพื่อจะได้รู้ว่าตัวเองเป็นใครและเป็นอะไร ซึ่งก็คือสิ่งที่มนุษย์เป็น ไม่ใช่เป็นสิ่งที่พวกตน (สวส.) เป็น หรือรู้ว่าพวกตนเป็นอะไรเพราะมีสิ่งที่ตนไม่ได้เป็นแสดงให้เห็นอยู่โดยมนุษย์ และกรอบอ้างอิงนี้ไม่มีวันหายไปเพราะหากมนุษย์ไม่ได้เป็นสิ่งที่ตรงข้ามกับพวกตนอีก พวกเขาก็แค่มองไปที่อื่นในจักรวาล – แอดมิน]
ตอนนี้เธอเข้าใจแล้วใช่ไหมว่าทำไมสวส.ถึงไม่จำเป็นต้องมี “สิ่งชั่วร้าย” หรือ “ด้านลบ” ในสังคมของพวกตน❓
N : ครับ แต่ทำไมในสังคมของพวกเราถึงจำเป็นต้องมีล่ะครับ❓
G : 🔸‘ไม่จำเป็นเลยสักนิดเดียว’ 🔸
นี่คือเรื่องที่ฉันพร่ำบอกกับเธอมาตลอดการพูดคุยกันนี้
🛑 เธอจำเป็นต้องใช้ชีวิตอยู่ภายใต้สนามแห่งประสบการณ์ที่ซึ่งมีสิ่งที่เธอไม่ได้เป็นดำรงอยู่ “เพื่อให้เธอสามารถมีประสบการณ์ถึงสิ่งที่เธอเป็นได้”
🛑 “นี่คือกฎของจักรวาล” ที่เธอไม่มีทางเลี่ยง และเธอก็กำลังใช้ชีวิตอยู่ในสนามแห่งประสบการณ์นั้น (ที่มีด้านตรงข้ามทุกอย่างให้เธอใช้อ้างอิง) อยู่ในตอนนี้แล้ว เธอไม่จำเป็นต้องสร้างมันขึ้นมาอีก
✨ และสนามแห่งประสบการณ์ที่ตัวเธอดำรงชีวิตอยู่นี้เรียกว่า “จักรวาล”
💥 เธอไม่จำเป็นต้องสร้างสนามแห่งประสบการณ์ขนาดเล็กขึ้นมาในสวนหลังบ้านของตัวเอง
นี่หมายความว่า : ✨พวกเธอสามารถเปลี่ยนชีวิตบนดาวเคราะห์ดวงนี้ของพวกเธอได้เดี๋ยวนี้ทันที และสามารถขจัดสิ่งที่ไม่ใช่ตัวตนของพวกเธอออกไปให้หมด โดยที่มันไม่ได้ลดทอนความสามารถใดๆเลยของพวกเธอที่จะรับรู้และมีประสบการณ์ถึงสิ่งที่เธอเป็น✨
N : ว้าว❗ นี่คือการเปิดเผยที่สำคัญที่สุดในเล่มนี้เลย❗ ช่างเป็นการปิดฉากที่เยี่ยมจริงๆ❗
สรุปคือผมไม่จำเป็นต้องทำให้ ‘ด้านตรงข้าม’ ปรากฎขึ้นก่อนถึงจะสร้างและมีประสบการณ์ได้ ถึงรูปแบบอันยอดเยี่ยมที่สุดของมโนภาพที่ยิ่งใหญ่ที่สุดขั้นต่อไปที่ผมเคยมีต่อตัวเองว่าผมคือใคร❗
G : ถูกต้อง นี่คือเรื่องที่ฉันบอกเธอมาตั้งแต่ต้น
N : แต่พระองค์ไม่ได้อธิบายแบบนี้นี่ครับ❗
G : อธิบายแบบนี้ก่อนหน้านี้เธอก็ไม่เข้าใจอยู่ดี (จนกระทั่งในตอนนี้)
🛑 เธอไม่จำเป็นต้องสร้างด้านตรงข้ามของสิ่งที่เธอเป็นและสิ่งที่เธอเลือกเพื่อจะมีประสบการณ์ถึงมัน
🛑 เธอแค่ต้อง 🔸สังเกต🔸 ว่ามันได้ถูกสร้างขึ้นเรียบร้อยแล้ว...ที่อื่น
🛑 เธอแค่ต้อง 🔸ระลึกให้ได้ว่ามันมีอยู่🔸
นี่คือ “ความรู้จากผลของต้นไม้แห่งความรู้ดีรู้ชั่ว” ที่ฉันได้อธิบายให้เธอฟังไปก่อนหน้านี้แล้วว่ามันไม่ใช่คำสาป ไม่ใช่บาปแรก แต่เป็น ✨“พรแรก”✨
▶️ และการจะจดจำได้ว่ามันมีอยู่
▶️ จดจำได้ว่าเธอมีประสบการณ์ทั้งหมดนี้มาก่อนแล้ว (ในทุกรูปแบบ) ในทุกรูปลักษณ์ทางกายภาพ...
ทั้งหมดที่เธอต้องทำคือ :
🔸มองขึ้นข้างบน🔸
N : พระองค์หมายถึง “มองเข้าข้างใน” ใช่มั้ยครับ❓
G : ไม่ใช่ ฉันหมายความตามที่บอกเลย “มองขึ้นข้างบน” มองดวงดารา มองสรวงสวรรค์
🌟 จงสังเกตสนามแห่งประสบการณ์ (จักรวาล) 🌟
ฉันบอกเธอไปแล้วก่อนหน้านี้ว่า ทั้งหมดที่เธอต้องทำเพื่อจะกลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีวิวัฒนาการขั้นสูงคือ :
🛑 จงเพิ่มทักษะในการสังเกต
🛑 จงเห็นว่า “อะไรเป็นอะไร”
🛑 จากนั้นก็ทำ “สิ่งที่ได้ผล”
N : สรุปว่าการมองไปที่อื่นๆในจักรวาลทำให้ผมสามารถเห็นว่าสิ่งต่างๆในที่อื่นๆเป็นอย่างไร และผมจะสามารถใช้องค์ประกอบด้านตรงข้าม/ขั้วตรงข้ามเหล่านั้นเพื่อสร้างความเข้าใจถึงตัวตนที่ผมเป็นอยู่ตอนนี้ในเวลานี้
G : ใช่ นี่เรียกว่า “การจดจำรำลึก”
N : เอ่อ...ไม่น่าจะใช่นะครับ มันเรียกว่า “การสังเกต” ต่างหาก
G : เธอคิดว่าเธอกำลังสังเกตอะไรอยู่❓
...
...
...
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
