10 ต.ค. 2021 เวลา 03:00 • การเมือง
ถ้าการเมือง(ท้องถิ่น) ดี…? เลือกตั้ง อบต. 2564
Ep.02 นายก อบต. ไทย ก่อนหน้านี้ เป็นอย่างไร?
นายก อบต. คือ ผู้บริหารสูงสุดของ อบต. นั้น ๆ ซึ่งมาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชนตามกฎหมาย แต่ละ อบต. จะมีเพียง 1 คนเท่านั้น
แล้ว นายก อบต. ในพื้นที่ของเราเป็นอย่างไร? ชื่อเสียงเรียงนามของเขาเป็นที่รู้จักของคนในพื้นที่หรือไม่ บุคลิกของเขาเป็นที่รักของคนในตำบลหรือเปล่า แล้วผลงานของนายก อบต. คนนั้นมีสิ่งใดที่เป็นประโยชน์ต่อเราบ้าง
นี่อาจเป็นคำถามที่จะบอกถึงความเหมาะสมของผู้ดำรงตำแหน่ง นายก อบต.
แต่เมื่อพูดถึง ‘คุณสมบัติ’ ของนายก อบต. ที่กำหนดอยู่ใน พ.ร.บ.สภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ. 2537 พบว่ามีคุณสมบัติที่สำคัญ 2 ประการ ได้แก่ (1) มีอายุไม่ต่ำกว่า 35 ปี นับถึงวันเลือกตั้ง เป็นเกณฑ์ขั้นต่ำทางอายุที่กำหนดไว้ตามกฎหมาย ซึ่งหมายความว่า คงไม่มีโอกาสได้เห็นคนอายุน้อย ๆ เข้ามาเป็นผู้บริหารท้องถิ่นอย่างแน่นอน แต่เมื่อเทียบกับในบางประเทศที่มีผู้นำท้องถิ่นในวัยเพียงแค่ 20 ตอนปลาย – 30 ตอนต้น เท่านั้น
1
แล้ว นายก อบต. ของไทยมีอายุเท่าไหร่กันบ้าง ?
ข้อมูลจาก กองการเลือกตั้งท้องถิ่น กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย หากคำนวณจาก นายก อบต. ชุดล่าสุดที่ดำรงตำแหน่งต่อเนื่องตั้งแต่ก่อนรัฐประหาร 2557 และพ้นจากตำแหน่งเมื่อ 28 กันยายน 2564 ทำให้เห็นค่าเฉลี่ยอายุของนายก อบต. ทั่วประเทศ ว่าอยู่ที่ 58 ปี 11 เดือน เรียกได้ว่าเป็นอายุของคน “วัยก่อนเกษียณ”
ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน เราพบว่า นายก อบต. ที่มีอายุมากที่สุด คือ 88 ปี ซึ่งเป็นนายก อบต. ในอำเภอภาชี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่แม้จะอายุมาก แต่ยังสามารถเป็น นายก อบต. ได้ เพราะกฎหมายไม่ได้กำหนดเพดานอายุเอาไว้ เพราะฉะนั้น แม้จะมีอายุถึงร้อยปี แต่หากยังมีความสามารถ และได้รับความไว้วางใจจากประชาชน ก็ยังสามารถเป็นนายก อบต. ได้
ขณะที่ นายก อบต. ที่อายุน้อยที่สุดของประเทศไทย อยู่ที่ อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน ที่มีอายุเพียง 38 ปี เท่านั้น และเมื่อเราแยกพิจารณาตามเพศของผู้ดำรงตำแหน่ง นายก อบต. พบว่า 92.83% เป็นผู้ชาย และมีผู้หญิงเพียง 7.17% เท่านั้น สะท้อนได้ถึงบทบาทของผู้หญิงที่ก้าวเข้ามาในตำแหน่ง นายก อบต. ยังมีจำนวนน้อย อาจเป็นเพราะค่านิยมทางสังคม และการเปิดโอกาสให้กับผู้หญิงได้ก้าวเข้ามามีบทบาทนำทางการเมืองของแต่ละพื้นที่ ยังมีสัดส่วนที่น้อยในการเมืองไทย
อย่างไรก็ตาม อายุและเพศของผู้ดำรงตำแหน่ง อาจไม่ใช่ตัวชี้วัดการทำหน้าที่และการพัฒนาท้องถิ่น นโยบายและการทำงานร่วมกันของทีมบริหารต่างหากที่เป็นสิ่งสำคัญ แต่กระนั้น เมื่อถามถึงผลงานและการพัฒนาที่เกิดขึ้นในพื้นที่ ต้องยอมรับว่าระดับตำบลอาจมองหาผลงานที่โดดเด่นและเป็นที่รู้จักค่อนข้างยาก หรืออาจมีอยู่แต่ไม่ได้รับความสนใจเท่าที่ควร ฉะนั้น หากผู้สมัครท่านใดอยากให้สังคมรู้จักจากผลงานที่ทำ มากกว่าอายุและหน้าตา เมื่อมีโอกาสได้เข้าไปทำหน้าที่ ก็ควรมุ่งมั่นตั้งใจ สร้างความเป็นอยู่ของคนในท้องถิ่นให้ดีที่สุดนั่นเอง
การเลือกตั้ง นายก อบต. ในปี 2564 ที่จะถึงนี้ มีสัญญาณของการเปลี่ยนแปลงในแง่ของตัวผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งที่สำคัญ คือ กลุ่มทางการเมืองซึ่งได้รับความนิยมจากคนรุ่นใหม่ แสดงตัวชัดเจนว่าจะเข้าสู่สนามการเลือกตั้ง นายก อบต.ในครั้งนี้ เช่น “คณะก้าวหน้า” ภายใต้แคมเปญ “นายก อบต. ก้าวหน้า” เปิดรับสมัครตัวแทนชิง นายก อบต. เปิดกว้างสำหรับทุกคนที่มีความฝัน และได้รับความสนใจจากกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มองเห็นปัญหาในพื้นที่ และอยากมีส่วนร่วมแก้ไขจำนวนมาก
นอกเหนือจากเรื่อง “อายุ” ที่เป็นคุณสมบัติสำคัญแล้ว ยังมีเรื่องวุฒิการศึกษาและประสบการณ์ ที่กฎหมายกำหนดไว้ว่า (2) สำเร็จการศึกษาไม่ต่ำกว่ามัธยมศึกษาตอนปลายหรือเทียบเท่า หรือเคยเป็นสมาชิกสภาตำบล สมาชิกสภาท้องถิ่น ผู้บริหารท้องถิ่น หรือสมาชิกรัฐสภา ซึ่งเมื่อพิจารณาดูแล้วถือเป็นคุณวุฒิตามเกณฑ์การศึกษาขั้นพื้นฐาน และถึงแม้วุฒิการศึกษาของผู้สมัครจะไม่ถึงเกณฑ์ ก็อาจลงสมัครได้ หากมีประสบการณ์ตามตำแหน่งที่กำหนดไว้ในกฎหมาย
“เคยเป็นสมาชิกรัฐสภา” ทำไมถึงมาสมัครเป็นนายก อบต. ? นั่นเพราะกฎหมายเปิดช่องให้ทำได้ ถึงแม้จะเป็นการเมืองคนละระดับ แต่รูปแบบการทำงานที่แตกต่างกันนี้ ก็อาจเปลี่ยนบทบาทมาทำงานในท้องถิ่นได้มากขึ้น กล่าวคือ หากเป็น “สมาชิกรัฐสภา” คือ ส.ส. หรือ ส.ว. อาจทำหน้าที่ในทางนิติบัญญัติ แต่ นายก อบต. เป็นฝ่ายบริหาร ซึ่งเป็นบทบาทที่เอื้อต่อการบริหารท้องถิ่นและพัฒนาท้องถิ่นได้มากขึ้น
โปรดติดตามตอนต่อไปที่ The Active

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา