Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
The Active
•
ติดตาม
11 ต.ค. 2021 เวลา 13:00 • การเมือง
ถ้าการเมือง(ท้องถิ่น) ดี…? เลือกตั้ง อบต. 2564
Ep.03 นายก อบต. เป็นช่องทางผลประโยชน์และบันไดสู่การเมืองระดับอื่น ?
นี่อาจเป็น “ภาพลักษณ์” ที่ไม่ค่อยดีนักของ อบต. เพราะเมื่อถามความรู้สึกประชาชนที่มีต่อองค์กรส่วนท้องถิ่น รวมถึง อบต. มีไม่น้อยที่ตอบว่ามีการโกงกิน ทุจริตคอร์รัปชันจำนวนมาก
แล้วความจริงเป็นเช่นนั้นหรือไม่? ข้อมูลจาก สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. พบว่าภาพรวมของปีงบประมาณ 2563 มีการกล่าวหาร้องเรียนเข้ามายัง ป.ป.ช. มากถึง 9,130 เรื่อง ในจำนวนนี้ เป็นเรื่องที่ ป.ป.ช. มีมติรับไว้ดำเนินการเอง 2,951 เรื่อง และเรื่องส่งให้หน่วยงานอื่นดำเนินการ 3,109 เรื่อง รวมเป็น 6,060 เรื่อง
ปรากฏว่า หน่วยงานที่ถูกกล่าวหามากที่สุด ได้แก่ หน่วยงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มากถึง 2,303 เรื่อง (ร้อยละ 38.00) รองลงมา เป็นกระทรวงมหาดไทย 762 เรื่อง (ร้อยละ 12.57) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ 704 เรื่อง (ร้อยละ 11.62) และส่วนราชการอื่น ๆ อีก 2,297 เรื่อง (ร้อยละ 37.81) ซึ่งในส่วนของท้องถิ่นนั้น เป็นข้อกล่าวหาที่เกิดขึ้นในหน่วยงานท้องถิ่นทุกระดับ ไม่ได้จำเพาะแค่ระดับ อบต. เท่านั้น
หากดูข้อมูลอีกชุด คือ คดีที่เข้าสู่ ศาลอาญาคดีทุริตและประพฤติมิชอบทั่วประเทศ ประจำปี 2563 เกี่ยวกับข้อมูลหน่วยงานที่ “ถูกฟ้อง” พบว่ามีบุคคลในหน่วยงานที่ถูกฟ้องทั้งสิ้น 2,636 คน และหน่วยงานที่ครองแชมป์ อันดับ 1 ด้านคดีทุจริตคือ “องค์การบริหารส่วนตำบล หรือ อบต.” 519 คน คิดเป็น 19.69% ของจำนวนผู้ถูกฟ้องทั้งหมด
สำหรับข้อหาที่ขึ้นสู่การพิจารณาของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ จำแนกได้ 4 อันดับ คือ (1) เจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติโดยทุจริตหรือโดยมิชอบ (2) เจ้าพนักงานรับรองเอกสารอันเป็นเท็จ (3) เจ้าพนักงานเบียดบังทรัพย์ และ (4) ความผิดตามกฎหมายอื่น ๆ รวมมูลค่าความเสียหายที่ขึ้นสู่ศาล เป็นเงินกว่า 1,300 ล้านบาท
และเมื่อลงไปดูงบประมาณของ อบต. แม้จะเป็นงบประมาณที่รวมกับเทศบาลตำบลอยู่ด้วย แต่จากคำของบประมาณรายจ่ายที่ยื่นผ่านกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ได้เสนอตั้งงบประมาณในปีงบประมาณ 2564 เป็นจำนวนมากถึง 226,450 ล้านบาท และเมื่อคิดเป็นอัตราส่วนต่องบฯ เงินอุดหนุนให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้งหมด คิดเป็น 70.9% ของงบประมาณที่มีอยู่ 322,250 ล้านบาท
แล้วประชาชนจะยังเฝ้ามองภาษีจำนวนหนึ่งหล่นหายไปจากการทุจริตคอรร์รัปชันอีกนานแค่ไหน ?
ในทางกลับกัน สิ่งนี้อาจใช้เป็นแรงจูงใจ เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมและให้ความสำคัญในตัวว่าที่ผู้บริหารท้องถิ่นที่จะเข้ามาใช้งบประมาณแผ่นดินอย่างคุ้มค่า เพื่อพัฒนาท้องถิ่นอย่างแท้จริง
“มีรางวัลการันตีว่าดีเด่น” แม้ภาพลักษณ์ด้านลบอาจบดบังความตั้งใจของ อบต.บางแห่งไปบ้าง แต่ก็ไม่อาจมองข้ามความสำเร็จของการจัดการท้องถิ่น
มี อบต. จำนวนมากทำหน้าที่ในฐานะหน่วยงานท้องถิ่นได้เป็นอย่างดี สะท้อนผ่านรางวัลที่หน่วยงานต่าง ๆ จัดขึ้น และมอบให้กับ อปท. เพื่อกระตุ้นและจูงใจให้เกิดการแข่งขัน การพัฒนา และเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการของท้องถิ่นนั้น ๆ
รางวัล “องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีการบริหารจัดการที่ดี” เริ่มมอบครั้งแรกในปี 2546 จัดโดย สำนักงานคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ถือเป็นรางวัลที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้งประเทศมุ่งหวังอยากได้มาประดับไว้ ด้วยเงินรางวัลจำนวนมาก และแสดงภาพลักษณ์การทำงานได้โดดเด่นในระดับประเทศ
สอดคล้องกับความเห็นของ กัมพล กลั่นเนียม อดีตนายกองค์การบริหารส่วนตำบลแห่งหนึ่งในจังหวัดราชบุรี ที่เปิดเผยว่า เป็นที่ทราบกันดีในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่าง ๆ รางวัลนี้ถือว่าได้รับความสนใจจากผู้บริหารท้องถิ่นเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อบต. ที่ไม่ได้มีงบประมาณมากนัก ที่จะจัดทำบริการสาธารณะในพื้นที่ของตนเอง เงินรางวัลที่ได้รับนี้ อาจช่วยพัฒนาท้องถิ่นของตนเองได้ไม่น้อย
“อบต. ไหนที่เคยได้รับรางวัลนี้ ก็จะถือว่าเข้าตากรรมการ เพราะเราไม่ได้ของบประมาณโดยตรง ต้องผ่านจังหวัด ผ่านกระทรวงอีก ที่จะคอยตัดสินว่าต้องใช้งบประมาณเท่าไหร่ หากมีรางวัลติดไปด้วย ถือว่าโอกาสที่จะได้ตามที่ร้องขอสูง”
รางวัลดังกล่าว มีหลักเกณฑ์การประเมินที่ชัดเจน โดยพิจารณาถึงการมีส่วนร่วมของประชาชน การสร้างเครือข่าย และสิ่งที่ทำต้องตรวจสอบได้ โดยผลของความสำเร็จต้องส่งผลถึงความมั่นคงทางสังคม การป้องกันความรุนแรง และความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ตลอดจนการเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมการทุจริต ผ่านกฎระเบียบที่มีนิติธรรมและมีคุณภาพ
ที่น่าสนใจคือสิ่งที่ทำ ต้องถือเป็น “นวัตกรรมท้องถิ่น” ที่เป็นการคิดค้น ริเริ่มโดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้น ๆ เอง
เช่นในปี 2564 แบ่งเป็น 2 ระดับ คือ ระดับที่ผ่านเกณฑ์ประเมิน มีจำนวน 147 รางวัล รวมเงินสนับสนุนจำนวน 34.2 ล้านบาท และ ระดับที่เข้าสู่การประเมินในรอบสุดท้าย มีจำนวน 72 รางวัล รวมเงินสนับสนุนจำนวน 28.8 ล้านบาท ซึ่งหากหน่วยงานใดได้รับรางวัล จะมีเงินรางวัลมอบให้ตั้งแต่ระดับ 2 แสนบาทไปจนถึง 4 ล้านบาทเลยทีเดียว
รางวัลใหญ่ที่สุดสำหรับรายการนี้ คือ “รางวัลดีเลิศ” ซึ่งในปี 2564 นี้ รางวัลที่ 1 ได้แก่ “อบต.รางจรเข้” อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้รับเงินรางวัล 4 ล้านบาท ส่วน อบต.ที่ได้รับรางวัลที่ 2 และ 3 จะได้รับเงินรางวัล 3 และ 2 ล้านบาทตามลำดับ
ส่วน “รางวัล อบต.ประเภทโดดเด่น” มีจำนวน 5 รางวัล รวมเงินรางวัล 9.8 ล้านบาท ซึ่ง รางวัลที่ 1 ได้แก่ “อบต.นาพันสาม” อำเภอเมืองเพชรบุรี จังหวัดเพชรบุรี นอกจากนั้นยังมี อบต.มากกว่า 20 แห่ง ที่ได้รับรางวัลประเภททั่วไปในปีนี้อีกด้วย
งบประมาณสนับสนุนที่ได้รับจากรางวัลนี้ ไม่ใช่กรณีที่จะสามารถใช้อย่างไรก็ได้ โดยไม่มีวัตถุประสงค์ อปท. ต่าง ๆ ที่ได้รับเงินจะต้องมีการายงานผลการใช้จ่ายเงินรางวัลให้หน่วยงานเจ้าของรางวัลทราบ ว่าได้มีการส่งเสริม หรือดำเนินการต่อยอดในผลงานที่หน่วยงานของตนได้ทำไว้หรือไม่ เพื่อให้เงินรางวัลที่ได้ ก่อประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชนในท้องถิ่น
“สถาบันพระปกเกล้า” เป็นอีกหน่วยงานที่จัดมอบรางวัล โดยใช้ชื่อว่าโครงการ “รางวัลพระปกเกล้า” เพื่อประเมินผลและให้รางวัล อปท. ที่เป็นเลิศในด้านต่าง ๆ ได้แก่ (1) ประเภทรางวัลความเป็นเลิศด้านความโปร่งใสและส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน (2) ประเภทรางวัลความเป็นเลิศด้านการเสริมสร้างสันติสุขและความสมานฉันท์ และ (3) ประเภทรางวัลด้านความเป็นเลิศด้านการเสริมสร้างเครือข่าย รัฐ เอกชน และประชาสังคม และในปีหน้า สถาบันพระปกเกล้าจะมีการเพิ่ม รางวัลด้านการลดความเหลื่อมล้ำในสังคม อีกด้วย
ก่อนจะมีการมอบรางวัล ได้แบ่งการประเมินเป็น 2 ขั้น คือ การประเมินขั้นต้น คือใช้เกณฑ์ตัวชี้วัดพื้นฐาน และการประเมินขั้นพัฒนา ด้วยค่าคะแนน T-Score หลังจากนั้น จึงเป็นการจัดอันดับคะแนนและมอบรางวัลความเป็นเลิศในแต่ละด้าน โดยข้อมูลล่าสุดมีการมอบรางวัลในปี 2562 พบว่ามีหน่วยงานระดับ อบต. ที่ได้รับรางวัลเป็นเลิศด้านความโปร่งใส จำนวน 5 แห่ง เป็นเลิศด้านสันติสุขและสมานฉันท์ จำนวน 1 แห่ง และด้านการสร้างเสริมเครือข่าย จำนวน 3 แห่ง โดยการให้รางวัลดังกล่าว เป็นความสมัครใจของแต่ละหน่วยงานที่จะยื่นขอรับการประเมินจากสถาบันพระปกเกล้า
อบต. ไทย ยังไปคว้ารางวัลระดับโลก โดยในปี 2562 อบต.หนองตาเเต้ม จ.ประจวบคีรีขันธ์ ได้รับรางวัล United Nations Public Service Awards (UNPSA) 2019 จากผลงาน นวัตกรรมชุมชนไฟฟ้าพลังงานเเสงอาทิตย์แบบพึ่งพาตนเอง ที่สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนที่ทั่วโลกให้ความสำคัญ อันเป็นการยกระดับมาตรฐานบริการสาธารณะของหน่วยงานท้องถิ่นไทย ที่มุ่งเน้นแค่การทำถนน ติดไฟส่องสว่าง แต่หันมาใช้เทคโนโลยีเพื่อสร้างความยั่งยืนให้กับการใช้ชีวิตของคนในท้องถิ่นตนได้เป็นอย่างดี
เพราะฉะนั้น รางวัลที่มอบให้กับ อบต. และ อปท. ในทุกระดับ ไม่เพียงจะช่วยสร้างแรงจูงใจในการทำหน้าที่ของคนในองค์กรเท่านั้น แต่ยังเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการของท้องถิ่น ที่จะส่งผลให้การให้บริการสาธารณะ ตอบสนองความต้องการของประชาชน และเป็นไปตามหลักการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอย่างแท้จริง
โปรดติดตามตอนต่อไปที่ The Active
บันทึก
1
1
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
อบต.
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย