10 ต.ค. 2021 เวลา 14:00 • หนังสือ
มองจีนผ่านเลนส์...รัฐศาสตร์เชิงพุทธ
นับตั้งแต่สมัยประธานาธิบดีเจียงเจ๋อหมินเป็นต้นมา พรรคคอมมิวนิสต์จีนได้ประกาศเปลี่ยนจากการเป็นตัวแทนชนชั้นกรรมาชีพของจีน มาเป็นการเป็นตัวแทนของผลประโยชน์พื้นฐานของคนส่วนใหญ่ของประเทศ
(คำแปล: ต่อจากนี้ เมื่อพรรคคอมมิวนิสต์ไม่ได้เป็นตัวแทนเฉพาะชนชั้นกรรมาชีพอีกต่อไป นักธุรกิจก็สามารถเข้าเป็นสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์จีนได้แบบไม่ต้องกลัวใครนินทา)
และในปี 2018 สื่อตะวันตกรายงานเรื่องนี้เป็นข่าวใหญ่โต โดยสื่อถึงความย้อนแย้งว่า แจ็คหม่า เจ้าของ E-Commerce ยักษ์ใหญ่อย่างอาลีบาบา และมหาเศรษฐีอันดับ 1 ของจีน กลายเป็นสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์จีน ซึ่งเคยเป็นพรรคที่เมื่อสมัยหนึ่งเคยรังเกียจนายทุนเศรษฐีทั้งหลาย และเคยตั้งปณิธานจะต่อสู้เพื่อชนชั้นกรรมาชีพ(https://www.the101.world/jack-ma-and-communist-party/)
แต่อย่างไรก็ตาม ในปี 2021 เกิดความเคลื่อนไหวสำคัญอย่างหนึ่งของจีน คือ การแทรกแซงธุรกิจกลุ่มต่างๆ ของทางการจีน ประกอบด้วย บริษัทจีนที่ลงทุนในตลาดหุ้นของสหรัฐฯ บริษัทกลุ่มเทคโนโลยีขนาดใหญ่ ลามไปจนถึงธุรกิจติวเตอร์ เหล้า บุหรี่ อสังหาริมทรัพย์ ไปจนถึงเกมออนไลน์
นอกจากนี้ยังมีการออกกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค ความเป็นส่วนตัวของข้อมูล ตลอดจนปฏิกิริยาของ สีจิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ที่เอ่ยแนวคิด ‘Common Prosperity’ หรือ ‘ความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน’ แล้วบอกว่าคนรวยต้องช่วยคนจน(https://thestandard.co/key-messages-strict-control-of-tech-companies-in-china/)
ทังนี้ ประธานาธิบดีสีจิ้นผิง ของจีน ได้แถลงนโยบายในการประชุมคณะกรรมการเศรษฐกิจและการเงินของพรรคคอมมิวนิสต์จีนเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (17 สิงหาคม 2021 ) ว่า เศรษฐกิจยุคใหม่ของจีนจะมุ่งเน้นเรื่องความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน หรือ Common Prosperity ที่ความมั่งคั่งจะถูกกระจายให้กับประชาชนทุกคน ไปพร้อมๆ กับการดูแลความเสี่ยงทางเศรษฐกิจและการเงิน(https://thestandard.co/china-raised-common-prosperity-policy/)
สิ่งเหล่านี้สร้างความสับสนให้กับโลกว่า อนาคตจีนจะเป็นอย่างไร
หากได้อ่านหนังสือเล่มนี้ก็จะพอเข้าใจว่ารูปแบบการปกครองนี้ไม่ได้ต่างจากเมื่อพันปีก่อนเลย
หนังสือได้อธิบาย กูฏทันตสูตร เป็นพระสูตรเชิงรัฐศาสตร์ ซึ่งเกิดจากการสนทนาธรรมระหว่างพระสัมมาสัมพุทธเจ้ากับกูฏทันตพราหมณ์
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงอธิบายด้วยการยกตัวอย่างรูปแบบการบริหารบ้านเมืองของอดีตมหาราชองค์หนึ่ง คือ พระเจ้ามหาวิชิตราช ซึ่งประสบความสำเร็จในการปกครองบ้านเมืองจนพสกนิกรมีความร่มเย็นเป็นสุข
และจะเข้าใจได้เลยว่าการที่จีนเปลี่ยนให้พรรคคอมมิวนิสต์จีนรับสมาชิกพรรคจากตัวแทนชนชั้นกรรมาชีพของจีน มาเป็นการเป็นตัวแทนของผลประโยชน์พื้นฐานของคนส่วนใหญ่ของประเทศ ก็เพราะ
ยุทธศาสตร์อนุมัติ 4 ที่ดึงความร่วมมือจากบุคคล 4 ฐานอำนาจ
ส่วนการคำนึงถึงความเลื่อมล้ำ และหันมาดูแลประชาชนชนชั้นล่าง ก็เพราะ
ใช้ยุทธศาสตร์ช่วยประชาชนใน 3 กลุ่มระดับล่าง
และนอกจากนี้พระสูตรยังมีเรื่องการเลือกคนที่จะได้รับความช่วยเหลือจากภาครัฐ โดยสอดคล้องกับทางจีนที่มีการใช้ระบบความน่าเชื่อถือทางสังคม (Social Credit System) ซึ่งคนที่มีคะแนนเครดิตมากก็จะได้รับประโยชน์มากขึ้นในทางเศรษฐกิจและความสะดวกสบาย
แต่หลายฝ่ายมองว่าเป็นความพยายามของทางการจีนในการเข้าสอดส่องและควบคุมวิถีชีวิตในทุกแง่มุมของประชาชน(https://www.bbc.com/thai/international-45904774)
แม้ว่าจะพอเข้าใจว่าจีนทำสิ่งเหล่านี้เพื่ออะไร แต่ก็มีส่วนที่ต้องติดตามจีนต่อไป เพราะในพระสูตรได้เน้นถึงหัวใจของรูปแบบการปกครองต้องมีผู้นำที่มีความจริงใจในการทำงานเพื่อประชาชน และมีสัมมาทิฏฐิเป็นพื้นฐาน
มิตรแท้ 23 คือ หนังสือ รัฐศาสตร์เชิงพุทธ และบทวิเคราะห์ทักษิโณมิคส์ จากพระธรรมเทศนา โดย หลวงพ่อทัตตชีโว(เผด็จ ทตฺตชีโว)
โฆษณา