12 ต.ค. 2021 เวลา 01:00 • ไลฟ์สไตล์
รู้จัก ‘Flex Job’ มั่นคงเหมือนงานประจำแต่ยืดหยุ่นเหมือนฟรีแลนซ์ ที่จะมาเป็นอนาคตของโลกการทำงาน
.
อย่างที่เรารู้กันว่าเชื้อไวรัส COVID 19 ได้แพร่ระบาดไปทั่วโลกเมื่อต้นปีที่แล้ว บรรดาบริษัทและพนักงานทั้งหลายต่างปรับตัวกันอย่างเต็มที่เพื่อให้ธุรกิจดำเนินต่อไปได้
.
ในสถานการณ์นี้ พนักงานหลายๆ คนอาจจะไม่ได้จดจ่ออยู่กับงานหลักของตัวเองแค่งานเดียวและได้มีโอกาสหางานอื่นๆ ทำควบคู่ไปด้วย ผลลัพธ์ของการหางานเสริมทำค่อนข้างดีเลยทีเดียวเนื่องจากได้เรียนรู้ทักษะใหม่ๆ มีมุมมองที่เปิดกว้าง และสร้างคอนเนคชั่นกับคนอื่นๆ มากขึ้น
.
ทั้งหมดทั้งมวลจึงก่อให้เกิดเทรนด์การทำงานแบบ Flex Job หรืองานที่ยืดหยุ่นกับไลฟ์สไตล์และทำให้เราพัฒนาอย่างก้าวกระโดด
.
เทรนด์การทำงานแบบยืดหยุ่นนี้ส่งผลให้คำว่า Gig Worker หรือ Gig Economy กลายเป็นคำที่แพร่หลายมากขึ้น อธิบายง่ายๆ Gig Worker ก็คือพนักงานชั่วคราวคล้ายๆ ฟรีแลนซ์ แต่จะมีสัญญากับบริษัท พูดอีกอย่างก็คือองค์กรต่างๆ จะให้ตำแหน่งระยะสั้นตามโครงการให้กับพนักงานอิสระเหล่านี้
.
การจ้างงานแบบชั่วคราวนี้มีแนวโน้มจะสร้างรายได้มากกว่า 450,000 ล้านเหรียญสหรัฐในช่วงปลายปี 2023 อ้างอิงจากการคาดการณ์ของ MasterCard ในช่วงก่อนเกิดโควิด อย่างไรก็ตามตัวเลขนี้ดูจะน้อยไปเสียแล้ว เพราะเหล่าผู้ว่าจ้างและพนักงานทั้งหลายต่างเห็นความน่าดึงดูดของ Flex Work นี้กันแทบทุกคน
.
การเติบโตอย่างรวดเร็วของตลาดงานนี้ทำให้เครือข่ายหางานของ Gig Worker อย่างแพลตฟอร์มออนไลน์สำหรับจ้างงานพนักงานนอกระบบและฟรีแลนซ์เพิ่มขึ้นตามไปด้วย จากการสำรวจผู้นำระดับสูง 700 คนในภาคธุรกิจของสหรัฐอเมริกา พบว่ามีถึง 60% ที่จ้างงานพนักงานนอกระบบหลายอัตราจากแพลตฟอร์มเหล่านั้น และราวๆ 50% ก็คาดว่าบริษัทพวกเขาจะหันมาใช้ระบบนี้มากขึ้นอย่างแน่นอน
.
อย่างไรก็ตาม ปัญหาใหญ่ที่จะพบเจอคือการขาดวัฒนธรรมและสภาพแวดล้อมแบบองค์กรที่จะคอยส่งเสริมให้เหล่าพนักงานได้รับแรงกระตุ้นเพื่อบรรลุเป้าหมายแบบเดียวกับบริษัท นอกจากนั้น การสร้างคอนเนคชั่นก็จะยากขึ้นด้วยเช่นกัน ในกรณีนี้บริษัทอาจแก้ไขโดยการสร้างกลุ่มพนักงานแบบ Gig หรือเพิ่มรูปแบบต่างๆของงานให้ยืดหยุ่นมากขึ้น
.
แน่นอนว่าเราแต่ละคนมีทักษะเฉพาะตัวอยู่แล้ว แต่คงจะดีกว่าถ้าเราได้เป็นพนักงานที่สามารถเรียนรู้และเติบโตได้ในหลายๆ ด้านแทนที่จะทำงานประจำที่มีหน้าที่เฉพาะเจาะจงแค่อย่างเดียว Gig Work ทำให้เราได้ทำโปรเจกต์หนึ่งตามความสามารถหรือความสนใจของเราที่ตรงกับความต้องการของบริษัท พองานนี้เสร็จลุล่วง บริษัทก็มอบหมายงานอื่นให้เราต่อ ระบบนี้จะทำให้ความสามารถของเราก้าวหน้าขึ้นอย่างชัดเจนตามความรับผิดชอบและขนาดของงานที่เราสามารถทำได้
.
1
ด้วยประโยชน์ทั้งด้านการพัฒนาของพนักงานและความใส่ใจในแต่ละงานที่บริษัทได้รับ ทำไมเราไม่เปลี่ยนให้การทำงานแบบ Gig work มาแทนที่การจ้างงานประจำไปเลยล่ะ?
.
.
นี่มันไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงที่หนักหนาเลย เพราะปัจจุบันพนักงานประจำก็โยกย้ายงานกันเป็นปกติอยู่แล้ว เพราะงั้นก็มีความเป็นไปได้ที่ในอนาคตจะมีการละทิ้งแนวทางการทำงานแบบเดิมไป หลายๆ บริษัทเริ่มจ้างพนักงานที่มีความยืดหยุ่นและศักยภาพในการทำงานหลายๆ ด้านร่วมกับทีมเฉพาะแต่ละโปรเจกต์
.
ยกตัวอย่างเช่น บริษัทผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคชื่อดังอย่าง Unilever ก็เริ่มจ้างงาน Gig Worker โดยมีหน้าที่เพียงดูแลโปรเจกต์หนึ่งซึ่งระบบนี้ก็ประสบความสำเร็จ เนื่องจากการสำรวจของ Gloat พบว่า บริษัท Unilever มี Productivity มากขึ้นถึง 41% ตั้งแต่เริ่มมีการจ้างงานแบบ Flex Job
.
ในอนาคตอาจมีรูปแบบการทำงานใหม่ๆเพิ่มขึ้นอีกมากและ Flex Job อาจจะเป็นที่ต้องการสำหรับทั้งบริษัทและพนักงานมากที่สุดก็ได้
.
#careerfact #cariber
………………
Career Fact เพราะทุกอาชีพ... มีเรื่องราว
ติดตาม Career Fact ทุกช่องทางได้ที่ https://linktr.ee/careerfact
.
เรียนรู้จากคนที่ประสบความสำเร็จในแต่ละแวดวงได้ที่ https://www.cariber.co/
แพลตฟอร์มการเรียนรู้ที่เปิดโอกาสให้ทุกคนเข้าถึงความรู้และประสบการณ์จากผู้นำองค์กรและผู้เชี่ยวชาญในทุกแวดวง ไร้ข้อจำกัดด้านสถานที่และเวลา
.
โฆษณา