2 พ.ย. 2021 เวลา 09:11 • การตลาด
ยุคสมัยเปลี่ยนผ่าน ผลักดันให้ Salvatore Ferragamo ต้องแสวงหากลุ่มลูกค้าใหม่ "คัง ซึลกิ จากวง Red Velvet" คือผู้ถูกเลือกในการ represent ตัวตนแบรนด์หรูแห่งชาติจากอิตาลี แล้วมรดกทางวัฒนธรรมที่ฝังแน่นของแบรนด์ที่มีอายุมากกว่า 90 ปี จะถูกถ่ายทอดผ่านตัวตนของซึลกิได้อย่างไร?
4
เชิญพบกับบทวิเคราะห์มุมมองแบรนด์ “Salvatore Ferragamo” กับเหตุผลในการเลือก ซึลกิ Red Velvet เป็น Global Brand Ambassador
สำหรับชาวไทยแล้ว หากว่าไม่ได้ติดตามวงการแฟชั่น น้อยคนนักจะคุ้นหูกับแบรนด์ Salvatore Ferragamo แต่สำหรับคนที่สนใจในแบรนด์แฟชั่นอย่างจริงจังก็จะต้องรู้จักแบรนด์หรูระดับท็อปจากอิตาลีแบรนด์นี้อย่างแน่นอน
"เฟอร์รากาโม" ไม่ใช่แค่แบรนด์แฟชั่นหรูหราทั่วไป แต่เป็นแบรนด์ที่เปรียบเสมือนหน้าตาของประเทศอิตาลีที่เคียงคู่มากับแบรนด์แฟชั่นอย่าง Versace และแบรนด์ในหมวดหมู่ซุปเปอร์คาร์อย่าง Maserati, Lamborghini หรือ Ferrari เรียกได้ว่าแบรนด์เฟอร์รากาโมคือหนึ่งในเครื่องมือการตลาดในการขับเคลื่อนประเทศในฐานะภาพลักษณ์สำคัญของอิตาลีสำหรับการเป็นประเทศแห่งดีไซน์และแฟชั่นที่เปี่ยมไปด้วยมนต์เสน่ห์ของงานศิลป์ระดับสูง
เรื่องราวของ Salvatore Ferragamo เริ่มต้นขึ้นในปี 1919 ในแคลิฟอร์เนีย "เฟอร์รากาโม"เปิดร้านเล็กๆเพื่อซ่อมแซมและผลิตรองเท้า ด้วยความที่เขามีฝีมือในการออกแบบรองเท้าที่ไม่เหมือนใคร ทั้งยังใช้วัสดุคุณภาพสูง ทำให้ในเวลาไม่นานร้านของเขากลายเป็นร้านประจำของเหล่าดารา และชื่อเสียงของเขาโด่งดังไปทั่วฮอลลีวู้ด ในปี 1927 เขาจึงกลับอิตาลีและเลือกเมืองแห่งศิลปะอย่างฟลอเรนซ์เป็นที่ตั้งรกรากเพื่อนำ Salvatore Ferragamo เข้าสู่โลกแห่งแฟชั่นระดับสูงอย่างเต็มรูปแบบ
Salvatore Ferragamo ผู้ก่อตั้งแบรนด์
Salvatore Ferragamo กับ Audrey Hepburn ฮอลลีวู้ดซุปเปอร์สตาร์
"เฟอร์รากาโม" สร้างคุณค่าตั้งแต่รองเท้าคู่แรกที่เขาผลิตว่า แบรนด์ของเขาจะต้องผลิตรองเท้าที่สมบูรณ์แบบที่สุดเท่าที่โลกเคยมีมา และหลังจากเขาเสียชีวิต ทายาทของเขาสานต่อธุรกิจพร้อมกับเพิ่มไลน์สินค้าอย่างกระเป๋า น้ำหอม นาฬิกา และเครื่องแต่งกาย โดยเน้นดีไซน์คลาสสิคและวัสดุคุณภาพสูงเพื่อคงความปรารถนาของผู้เป็นพ่อ
ไม่ใช่แค่วัสดุที่คงทนต่อกาลเวลาที่เป็นสิ่งที่ทำให้เฟอร์รากาโมโดดเด่น แบรนด์ที่เปรียบได้กับสมบัติล้ำค่าของเมืองฟลอเรนซ์สามารถถ่ายทอดทักษะศิลป์ผ่านเครื่องแต่งกาย รองเท้า และเครื่องหนังอื่นๆ ได้อย่างดีเยี่ยมสมกับเป็นแบรนด์ที่ตั้งอยู่ในเมืองแห่งศิลปะ จนถึงตอนนี้ หลายทศวรรษมาแล้ว เฟอร์รากาโมยังคงเป็นแบรนด์ที่ครองใจสาวกด้วยองค์ประกอบของสุนทรียศาสตร์ระหว่างแฟชั่นกับศิลปะได้อย่างลงตัวจนก้าวขึ้นมาเป็นแบรนด์หรูระดับท็อปของวงการแฟชั่นโลก
และแม้จะผ่านร้อนผ่านหนาวกับภาวะสงครามและวิกฤตเศรษฐกิจมาก็มาก แต่ก็คงไม่มีผลกระทบใดจะเทียบเท่ากับเหตุการณ์โรคระบาดครั้งล่าสุด เฟอร์รากาโม เดินเกมช้ากว่าแบรนด์อื่นๆในการปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัยที่แปรเปลี่ยน จนเกิดผลกระทบครั้งใหญ่ แบรนด์จึงตื่นตัวและเริ่มปรับตัวเองให้เข้าหาผู้คน ตลาดเอเชียเติบโตอย่างก้าวกระโดด แบรนด์คู่แข่งก้าวนำไปหลายก้าว เฟอร์รากาโมเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่นำกลยุทธ์ K-Pop Brand Ambassador มาใช้เพื่อสื่อสารกับคนรุ่นใหม่ในชาติตะวันออกที่มีใจรักศิลปะในคราบแฟชั่นชั้นสูง
แต่ด้วยความที่ตัวตนของแบรนด์มีหลายมิติ การมองหาใครสักคนที่จะเป็นผู้มาปะติดปะต่อความซับซ้อนเหล่านั้นไม่ใช่แค่ใครก็ได้ที่มีชื่อเสียง แต่คนนั้นจำเป็นต้องมีความลึกซึ้งในงานศิลป์ มีความโดดเด่นด้วยสไตล์ของตัวเอง ทั้งยังต้องเป็นคนที่สมบูรณ์แบบตามหลักค่านิยมของเฟอร์รากาโม และคนที่มีคุณสมบัติที่ชัดเจนที่สุดที่แบรนด์ตัดสินใจจิ้มเลือก คนนั้นคือ “คังซึลกิ สาวน้อยจากวง Red Velvet”
1
ซึลกิ ในบทบาทนางแบบให้กับ Salvatore Ferragamo
การใช้ K-Pop star ที่มีชื่อเสียงโด่งดังเพื่อมาโปรโมทสินค้าเป็นหนึ่งในเครื่องมือกลยุทธ์การตลาดของแบรนด์หรูแทบจะทุกแบรนด์ในปัจจุบันไปแล้ว แต่เมื่อใดก็ตามที่แบรนด์มองหาตำแหน่ง Global Brand Ambassador ในตัวใครสักคน คนนั้นต้องมีองค์ประกอบบางอย่างที่ต้องสะท้อน DNA ของแบรนด์ได้อย่างหมดจด
เฟอร์รากาโมมีมรดกทางวัฒนธรรมที่เข้มแข็ง ค่านิยมแบรนด์ไม่เคยเปลี่ยนแปลงตั้งแต่วันแรกที่ถูกก่อตั้ง ยิ่งพวกเขาเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่เป็นหน้าเป็นตาของประเทศ พวกเขายิ่งต้องรักษาตัวตนเอาไว้ ในขณะที่ซึลกิเป็นสมาชิกวงเกิร์ลกรุ๊ปจากเกาหลีใต้อย่างวง Red Velvet ซึ่งก็เป็นวงที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วเอเชีย เรียกได้ว่าซึลกินั้นค่อนข้างมีอิทธิพลกับกลุ่มวัยรุ่นซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าที่แบรนด์นั้นกำลังต้องการเข้าหา
แต่อิทธิพลจากความดังเป็นแค่หนึ่งในปัจจัย วันแรกที่ประกาศว่าซึลกิคือ Global Brand Ambassador เฟอร์รากาโมไม่ใช่แค่แถลงการต้อนรับอย่างยินดี พวกเขาบอกว่าซึลกิมีสไตล์เฉพาะตัว มีความหลงใหลในงานฝีมือและมีความคิดสร้างสรรค์ สิ่งที่ซึลกิเป็นสะท้อนค่านิยมของเฟอร์รากาโมที่มอบให้กับผู้คนมาช้านาน
1
จากทวิตเตอร์ของ Salvatore Ferragamo
การเจาะตลาดกลุ่มลูกค้าที่เด็กลง เฟอร์รากาโมจำเป็นต้องละเมียดละไมในการดึงตะกอนจากมรดกทางวัฒนธรรมผสมกับการนำเสนอแบรนด์ในรูปแบบร่วมสมัย ซึลกิเป็นศูนย์รวมความสดใสของวัยรุ่น บทบาทของซึลกิในการเป็นศิลปินคือ เธอเป็นทั้งนักร้องและนักเต้นที่มีพรสวรรค์สูง สามารถใช้เสน่ห์ส่วนตัวดึงดูดสายตาผู้คนไม่ว่าจะเป็นตอนทำการแสดงบนเวทีหรือว่าในบทบาทของนางแบบ เรียกได้ว่าซึลกิมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีความเย้ายวนใจอันเป็นอัตลักษณ์ที่เชื่อมโยงกับ DNA ของเฟอร์รากาโม
และอย่างที่รู้กันว่าเฟอร์รากาโมมีสไตล์ที่โดดเด่นจากการรังสรรค์ผลงานที่ได้รับแรงบันดาลใจจากศิลปะที่อยู่ในเมืองฟลอเรนซ์ พวกเขาขึ้นชื่อเรื่องคุณภาพการตัดเย็บด้วยฝีมือและใช้วัสดุที่คงทน เป็นแบรนด์ที่ขึ้นชื่อว่าสมบูรณ์แบบในทุกๆด้านของการเป็นแบรนด์แฟชั่น ซึลกิเองก็มีความลึกซึ้งกับงานศิลปะ เป็นคนที่มีความสามารถรอบด้าน เป็น All-Rounder ที่สุดแสนจะสมบูรณ์แบบในทุกๆหน้าที่ที่ซึลกิสามารถทำได้
5
การเซ็นสัญญากับซึลกิในฐานะทูตคนสำคัญจะเป็นสะพานเชื่อมตัวตนของแบรนด์ไปสู่ผู้บริโภครุ่นเยาว์ สินค้าของเฟอร์รากาโมอาจจะไม่ใช่สินค้าที่ถูกใจวัยรุ่นยุคใหม่ทั่วๆไป อาจจะเป็นคนเฉพาะกลุ่มที่มีความหลงใหลในความคลาสสิคของความหรูหรา แต่ความคลาสสิคนี่แหละที่จะทำให้ศิลปะของเฟอร์รากาโมยืนยาว ตัวตนของซึลกิคือผู้มีใจรักในงานศิลป์อยู่แล้ว และเมื่อมาประยุกต์กับสไตล์แฟชั่น ซึลกิสามารถกลมกลืนบทบาทสองขั้วได้อย่างมีเอกลักษณ์มากที่สุดคนหนึ่ง
ตัวตนที่สะท้อนกันและกันของทั้งคู่ เป็นการฉายภาพให้เห็นชัดเลยว่าซึลกิคือคนในอุดมคติที่จะเป็นตัวแทนในการนำเสนอค่านิยมของ Salvatore Ferragamo ได้อย่างเหมาะสมที่สุด
โฆษณา