20 พ.ย. 2021 เวลา 12:59 • การศึกษา
วางแผนพอร์ตการลงทุนให้เหมาะกับวัยตัวเอง
หากอยากมีความมั่งคั่ง การลงทุนนับเป็นสิ่งสำคัญที่จะมองข้ามไม่ได้เป็นอันขาด ยิ่งใครสามารถสั่งสอนลูกหลานให้รู้จักการการลงทุนตั้งแต่ยังเล็ก ๆ ยิ่งมีความได้เปรียบ เพราะเค้าจะได้เรียนรู้และปูพื้นฐานด้านการลงทุนให้แน่น ก่อนลงสนามจริงได้อย่างมั่นใจค่ะ
วัย และ อายุ นับเป็นตัวแปรสำคัญในการจัดสรรเงินลงทุน ซึ่งแต่ละช่วงวัยนั้น ควรจัดสรรเงินลงทุนอย่างไร ลองมาพิจารณาไปด้วยกันเลยค่ะ
📌 อายุ 21 – 30 ปี หรือวัยเริ่มต้นทุนงาน เป็นวัยที่ได้เปรียบในการออมและการลงทุนมากที่สุด เพราะยังไม่มีภาระที่ต้องรับผิดชอบมากนัก ยังมีเวลาและกำลังในการหารายได้อีกนาน
จึงสามารถจัดสรรเงินลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงได้ถึง 90% โดยหุ้นที่เลือกลงทุน ควรเป็นหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี มีความมั่นคงทางการเงิน มีปันผลที่น่าพอใจ และมีโอกาสเติบโตได้ในอนาคต
ส่วนอีก 10% ที่เหลือ ก็อาจจะเก็บไว้ในรูปของเงินฝากและตราสารหนี้ต่าง ๆ ที่มีความปลอดภัยสูง และได้อัตราดอกเบี้ยที่แน่นอน
อัตราส่วนการลงทุนที่เหมาะกับวัย 21 -30 ปี
📌 อายุ 31 – 40 ปี หรือเรียกว่าเป็นวัยสร้างครอบครัว ซึ่งเป็นช่วงที่เหนื่อยที่สุดในชีวิต และเป็นช่วงที่การเงินค่อนข้างจะตึงเครียดกว่าช่วงอื่น ๆ ด้วย
ถึงแม้รายได้จะเริ่มสูงขึ้น หรือมั่นคงขึ้น แต่ภาระค่าใช้จ่ายก็สูงขึ้นเป็นเงาตามตัว เพราะอยู่ในช่วงกำลังสร้างครอบครัว ผ่อนบ้าน ผ่อนรถ และอื่น ๆ อีกจิปาถะ
เมื่อภาระที่ต้องรับผิดชอบมีมากขึ้น ระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ ก็ย่อมน้อยลง
สัดส่วนการลงทุนสำหรับวัยนี้จึงควรลดลงเหลือเพียง 50% และควรเพิ่มสัดส่วนของเงินฝากและตราสารหนี้ให้มากขึ้นให้สมดุลกับความเสี่ยงค่ะ
อัตราส่วนการลงทุนที่เหมาะกับวัย 31 -40 ปี
📌 อายุ 41 – 55 ปี หรือวัยปึกแผ่นมั่นคง เป็นช่วงวัยที่มีฐานะความมั่นคงดีที่สุด มีความสมดุลที่สุดในทุก ๆ ด้าน ฐานเงินเดือนสูงขึ้น แม้จะยังมีภาระทางการเงินอยู่ แต่ก็ผ่อนคลายลงไปมาก แต่เนื่องจากวัยที่เริ่มมากขึ้น เหลือเวลาหารายได้อีกไม่กี่ปี
1
การลงทุนของวัยนี้ จึงควรเน้นให้นำเงิน 70% ไปไว้ในที่ปลอดภัยอย่างเงินฝากและตราสารหนี้ และที่เหลืออีก 30% ให้แบ่งไปลงทุนในหุ้นระยะยาว เพื่อเพิ่มพูนเงินออมจากการลงทุนให้มากขึ้นนอกเหนือจากดอกเบี้ยเงินฝากที่ได้รับ ซึ่งอัตราดอกเบี้ยน้อยลงทุกที
อัตราส่วนการลงทุนที่เหมาะกับวัย 41 -55 ปี
📌 อายุ 55 ปีขึ้นไป หรือเรียกว่าวัยเกษียณนั่นเอง เป็นช่วงที่บางคนอาจไม่มีรายได้จากการทำงานแล้ว หรือบางคนยังเหลือเวลาทำงานอีกไม่กี่ปี โดยส่วนใหญ่ของคนวัยนี้ จะอยู่ได้ด้วยเงินสะสมของตนเอง
เป็นช่วงที่แม้ค่าใช้จ่ายจะลดลง แต่ค่ารักษาพยาบาลก็เพิ่มมากขึ้นตามวัยและสุขภาพที่เสื่อมโทรมไป
การลงทุนส่วนใหญ่ 90% จึงควรอยู่ในรูปของเงินฝากและตราสารหนี้ที่มีความเสี่ยงต่ำ และจัดสรรเงินอีก 10% ไปลงในหุ้น เพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่สูงขึ้น ถึงแม้อาจเกิดผิดพลาดเสียเงินก้อนนี้ไป ก็คงไม่กระทบฐานะทางการเงินโดยรวมมากนัก
สำหรับในปัจจุบันก็มีช่องทางการลงทุนใหม่ๆ เพิ่มเข้ามาอีกมากมาย ซึ่งท่านสามารถเรียนรู้ เพื่อเพิ่มช่องทางให้กับตัวเองได้มากยิ่งขึ้น นอกเหนือจากที่กล่าวในบทความนี้ได้อีกนะคะ
💦.....อย่างไรก็ดี ที่กล่าวมานั้นเป็นเพียงแนวทางของการวางแผนให้เหมาะสมกับวัย คุณสามารถที่จะปรับเปลี่ยนพอร์ตการลงทุนให้เหมาะสมกับตัวเอง จากการประเมินเงื่อนไขผลตอบแทนที่คาดหวัง ความเสี่ยงที่ยอมรับได้ และข้อจำกัดของตัวเอง เพื่อให้มีพอร์ตการลงทุนที่เหมาะสมกับตัวเองมากที่สุดได้ค่ะ
โชคดีในการลงทุนทุกท่านค่ะ 😊
Cr. SET
เรียบเรียงโดย : ลงทุนในบัญชีและภาษี
ขอบคุณทุกๆ กำลังใจที่มีให้กันเสมอค่ะ
🌷🌷❤❤🙏🙏🙏🙏❤❤🌷🌷

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา