21 พ.ย. 2021 เวลา 14:12 • ประวัติศาสตร์
มหาสุขาวตีวยูหสูตร
วรรค ๓๐ โพธิสัตว์ผู้บำเพ็ญแลธำรงไว้
ดูก่อนอานนท์ บรรดาโพธิสัตว์ทั้งปวงในพุทธเกษตรแห่งนั้น มีสมาธิฌาน ปัญญาญาณ อภิญญา เดชานุภาพที่ล้วนแต่บริบูรณ์ อันคุทยครรภ์ของพระพุทธเจ้าทั้งปวงก็รู้แจ้งเป็นที่สุด เป็นผู้บำราบอินทรีย์ทั้งปวง ยังกายและจิตให้อ่อนโยน(ควรแก่การงาน) เข้าถึงความรู้ที่ถูกตรงอย่างแยบคายมิประพฤติไปนอกจากนี้ น้อมตามจริยาของพระพุทธเจ้าคือโพชฌงค์เจ็ดและอริยมรรค ประพฤติปญฺจ จกฺขูนิ* เล็งเห็นสัตยธรรมแทงตลอดโลกียะ คือมีมังสะจักษุเป็นสิ่งสามัญ มีทิพจักษุแทงตลอด มีธรรมจักษุวิมลใส มีปัญญาจักษุทัศนาเห็นความจริง มีพุทธจักษุที่สมบูรณ์แจ้งถ่องแท้ธรรมภาวะ เป็นผู้มีปฏิภาณไหวพริบ รวบรวมและทรงไว้(ซึ่งธรรม) เป็นอิสระปราศจากเครื่องกีดกั้น รู้จําแนกอุปายะของจักรวาลจำนวนอนันตะอย่างเกี่ยวชาญ
มีวาจาที่ซื่อและสัตย์ ล้ำลึกด้วยรสแห่งอรรถะ เป็นผู้โปรดหมู่เวไนยสัตว์ด้วยการแสดงพระสัทธรรม ไร้การกำหนดและไร้การปรุงแต่ง ไร้การผูกมัด และไร้การหลุดพ้น ปราศจากการแบ่งแยกทั้งปวง ไกลห่างวิปลาสสำหรับสิ่งของเครื่องใช้นั่นเล่า ก็มิได้ยึดมั่นไว้ ท่องเที่ยวไปในพุทธเกษตรอย่างปราศจากความยินดีและเบื่อหน่าย ไร้ลักษณะที่ปรารถนาและมิปรารถนา ทั้งไร้ลักษณะแห่งตัวเขาและตัวเรา ไกลจากอาฆาตด้วยเหตุไฉนนั่นฤา เพราะเหตุที่โพธิสัตว์เหล่านั้น มีจิตเมตตากรุณาใหญ่หลวง ยิ่งหมายยังประโยชน์แก่หมู่สัตว์ เป็นผู้อุเบกขาแลห่างจากความยึดมั่นถือมั่นทั้งปวง สำเร็จในกุศลความดีจำนวนไม่มีประมาณด้วย
ใช้ปัญญาที่ไร้สิ่งกีดขวาง จำแนกตถตาธรรม ล่วงรู้ซึ่งอุปายะแห่งการประชุมกันเกิดขึ้นและการดับลงของสัทเสียงเป็นอย่างดี มิเริงร่ากับวาจาของโลก แต่ยินดีในคำกล่าวที่ถูกตรงรู้แจ้งสรรพธรรมว่าล้วนว่างเปล่า มีการเกิดและกิเลสความเศร้าหมองที่ดับสิ้นแล้วทั้งสองส่วน ในตรีภูมินี้ก็พากเพียรบำเพ็ญอยู่ด้วยความสมภาพ มีเอกยานเป็นที่สุด ยังให้ลุถึงฝั่งกระโน้น ปหานวิจิกิจฉาชาละเป็นสมุทเฉทแล้วบรรลุถึงสถานะที่มิอาจเข้าถึง ด้วยการใช้อุปายปัญญายังให้รู้แจ้งได้ทบเท่าทวีคูณ จากมูลฐานแต่เดิมมาก็ตั้งอยู่ในอภิญญา เป็นผู้บรรลุเอกยานมรรค*** มิได้จากการรู้แจ้งของผู้อื่น(คือการรู้แจ้งได้เฉพาะตน)
*จักษุคือนัยน์ตา ๕ มี 9 มังษจักษุคือตาเนื้อ (มนุษย์) ๒. ทิพจักษุคือตาทิพย์ (เทวดา) ต. ปัญญาจักษุคือตาปัญญา ๔. ธรรมจักษุคือตาเห็นธรรม ๕. พุทธจักษุคือตาพุทธะ
**คืออนิมิตและอสังขตะ
***หนทางคือการเป็นยานหนึ่งเดียวกันไม่แบ่งแยกความหมายคือสาวกยานปัจเจกยานแลพุทธยานโพธิสัตว์ยาน, มหายาน) ที่ล้วน แต่คือเอกยานที่แยกเป็นสามยานเพราะอนุโลมตามจริตของสรรพสัตว์ที่มีความต่างกันเท่านั้น
พระวิศวภัทร แปล
Aputi.com ภาพ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา