22 ธ.ค. 2021 เวลา 05:00 • ธุรกิจ
ยอดขายอาหารพร้อมรับประทานในรัสเซียพุ่ง 50%
ยอดขายอาหารพร้อมรับประทานในรัสเซีย เพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ยร้อยละ 50 ในแง่กายภาพโดยขายผลิตภัณฑ์ดังกล่าวของซุปเปอร์มาร์เก็ต Vkusvill เพิ่มขึ้นร้อยละ 102 ซุปเปอร์มาร์เก็ต Perekrestok เพิ่มขึ้นร้อยละ48 และซุปเปอร์มาร์เก็ต Azbuka Vkusa เพิ่มขึ้นร้อยละ 18.5 ขณะที่ยอดขายอาหารพร้อมรับประทานทางออนไลน์ไม่ได้เพิ่มขึ้นมากนักตามข้อมูลของ CloudPayments โดย พบว่าในช่วง 11 เดือนของปีนี้เพิ่มขึ้นร้อยละ 18 แต่มียอดสั่งซื้อเฉลี่ยต่อครั้งเพิ่มเป็น 1,288 รูเบิล หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 14 ซึ่งแนวโน้มนี้สัมพันธ์กันกับการพัฒนาต่อยอดขายผ่านตลาดค้าปลีกในรูปแบบไมโครมาร์เก็ต อีกทั้งมีราคาขายค่อนข้างต่ำ รวมทั้งชาวรัสเซียงดไปร้านอาหารในช่วงแพร่ระบาดของโควิด-19 และเชื่อว่าแนวโน้มนี้จะเป็นไปต่อเนื่องในปีหน้า
นอกจากนั้นปัจจัยการเติบโตจะมาจากความกลัวการติดเชื้อของผู้บริโภคต่อสถานที่สาธารณะและการปรับเพิ่มราคาอาหารในร้านอาหาร ฝ่ายบริษัทผู้ผลิตก็ทราบได้ถึงการเปลี่ยนแปลงของปริมาณการขาย ตามที่ IVan Toreyev ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาของ Culinarium แจ้งว่าปีนี้ยอดขายของผลิตภัณฑ์อาหารสำเร็จรูปของบริษัทฯ เพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าจาก 9 ตัน เป็น 17 ตัน สำหรับอาหารสำเร็จรูปในชีวิตประจำวันมีหมวดสินค้าอาหารจานหลักและซุปเป็นที่ต้องการสูงของลูกค้า ซุปเปอร์มาร์เก็ต Perekrestok กล่าวว่ายอดขายเครื่องดื่มที่ทำเองอย่างน้ำผลไม้คั้นสดและสมูทตี้เติบโตอย่างต่อเนื่องมากที่สุดในเครือ โดยในปี พ.ศ. 2564 มีลูกค้าสั่งซื้อมากกว่า 8,000 หน่วย เทียบกับ 1,100 หน่วย ในปีที่ผ่านมา
นอกจากนี้ความต้องการขนมขบเคี้ยวก็เพิ่มขึ้นจาก 4,600 หน่วย เป็น 10,000 หน่วย และผลิตภัณฑ์อาหารเช้าสำเร็จรูป เช่น แพนเค้ก ชีสเค้กและซีเรียล ก็เพิ่มมาจาก 12,000 หน่วย เป็น 18,800 หน่วย ตลาดอาหารพร้อมรับประทานกำลังชิงส่วนแบ่งมาจากธุรกิจร้านอาหาร โดย Sergei Mironov รองประธานสหพันธ์ภัตตาคารและเจ้าของโรงแรมแห่งรัสเซีย กล่าวว่าความหวาดกลัวในการออกไปยังสถานที่สาธารณะและราคาอาหารที่แพงขึ้นทำให้ผู้บริโภคหันไปซื้ออาหารพร้อมรับประทานจากซุปเปอร์มาร์เก็ตแทน ซึ่งผู้เชี่ยวชาญเห็นว่าปัจจัยเหล่านี้สามารถเป็นตัวขับเคลื่อนให้เกิดการเติบโตของหมวดสินค้านี้อย่างต่อเนื่องในปีหน้า
ขณะที่ราคาอาหารในร้านอาหารในปีนี้เพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ยร้อยละ 15 และในปีหน้าตามการคาดการณ์ราคาอาจพุ่งขึ้นอีกร้อยละ 5-15 ในขณะเดียวกันความหนาแน่ของลูกค้าในร้านอาหารในปี พ.ศ. 2564 ลดลงโดยเฉลี่ยร้อยละ 20 อาหารสำเร็จที่วางจำหน่ายสามารถตั้งราคาขายเพียงครึ่งหนึ่งของร้านอาหาร โดยอาหารสำเร็จรูปมากกว่าร้อยละ 85 ไม่มีการเปลี่ยนแปลงราคา และมีเพียงบางรายการเท่านั้นที่ปรับราคาสูงขึ้นแต่ต่ำกว่าร้อยละ 10 ซึ่งสาเหตุอาจมาจากการประหยัดจากขนาด (Economy of scale) ที่ผลิตอาหารพร้อมรับประทานสั่งซื้อส่วนผสมในปริมาณครั้งละมากๆ ซึ่งช่วยลดต้นทุนและป้องกันการปรับขึ้นราคาได้ การเติบโตของความต้องการในการประกอบอาหารได้รับแรงหนุนมาจากการพัฒนารูปแบบการค้าปลีกขนาดย่อม (Micro market) อย่างตู้จำหน่ายสินค้าอาหารสำเร็จรูปแบบอัตโนมัติ จากข้อมูลค้าปลีกพบว่าช่องทางการขายนี้มีการเติบโตอย่างมากในปีนี้
ผู้ก่อตั้งบริษัท Briskly Gleb Khiritonov ระบุว่าผลตอบแทนของไมโครมาร์เก็ตเติบโตขึ้นโดยเฉลี่ยร้อยละ 16 ทุกเดือน หากนับตั้งแต่มกราคม พ.ศ. 2564 จะเห็นได้ว่ามีจำนวนการซื้อเพิ่มขึ้น 5.1 เท่า และมูลค่าการซื้อขายในรูปแบบนี้มีมูลค่า 2.7 ล้านดอลลาร์ ในปีนี้ไฮเปอร์มาร์เก็ตออนไลน์ของ Utkonos และ ธุรกิจจำหน่ายอาหารที่ใหญ่ที่สุดที่สนามบิน Aeromar ก็เริ่มขายของชำและอาหารพร้อมรับประทานผ่านไมโครมาร์เก็ตเช่นกัน ซุปเปอร์มาร์เก็ต Vkusville ก็ตระหนักถึงความต้องการซื้อของผู้บริโภคในไมโครมาร์เก็ต ดังนั้นจึงเร่งขยายเครือข่ายของตนโดยตัวแทนของบริษัทกล่าวว่าในปี พ.ศ. 2564 ได้ติดตั้งจำนวนอุปกรณ์ดังกล่าวเพิ่มขึ้นสองเท่าเป็น 340 แห่ง ในขณะเดียวกันกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมรับประทานก็เพิ่มความหลากหลายขึ้นเช่นกัน โดยในปีนี้ผู้ค้าปลีกได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมประเภทเพื่อสุขภาพและอาหารคีโต
Mikhail Burmistrov ผู้บริหาร Infoline-Analytics d กล่าวว่าการเจริญเติบโตของความต้องการอาหารสำเร็จรูปในห่วงโซ่ของสินค้าจำเป็นในชีวิตประจำวัน มาจากข้อจำกัดทั้งของสถานประกอบธุรกิจร้านอาหารและการเปลี่ยนแปลงในความต้องการของลูกค้า เสริมด้วยการพัฒนาไปสู่การขายออนไลน์ การเสนอขายทางเลือกที่หลากหลาย และการรวมศูนย์การทำอาหารในไฮเปอร์มาร์เก็ตล้วนมีอิทธิพลต่อการพัฒนาเช่นกัน นอกจากนี้การเติบโตจากยอดขายยังได้รับแรงหนุนจากผู้ผลิตสินค้ารายใหม่ จากข้อมูลของ Infoline-Analytica คาดว่าในช่วงครึ่งหลังของปี พ.ศ. 2564 ยอดขายผลิตภัณฑ์อาหารสำเร็จรูปในรัสเซียจะมีมูลค่าเกิน 5 แสนล้านรูเบิล เพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 25
ด้วยพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปอันเป็นผลมาจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 คือการพยายามหลีกเลี่ยงการออกจากบ้านไปยังสถานที่สาธารณะรวมทั้งร้านอาหาร ขณะเดียวกันราคาอาหารในร้านอาหารพร้อมปรับตัวขึ้นสูงมาก จึงช่วยให้การจำหน่ายอาหารพร้อมรับประทานจากร้านค้าปลีกที่มีราคาถูกกว่าเพื่อนำมารับประทานที่บ้านตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี ซึ่งแนวโน้มนี้จะยาวนานต่อเนื่องไปในปีหน้าด้วย สินค้าอาหารสำเร็จรูปรวมทั้งของขบเคี้ยวและเครื่องดื่มของไทยในตลาดรัสเซียก็น่าจะได้อานิสงส์จากพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปด้วย แต่ทั้งนี้ยังมีต้นทุนค่าขนส่งและความล่าช้าในการขนส่งเป็นอุปสรรคสำคัญในการขยายตัว ทั้งนี้ ผู้ส่งออกไทยพึงระมัดระวังเรื่องอายุสินค้าที่ถูกกระทบจากการขนส่งที่ล่าช้าด้วย โดยเฉพาะสินค้าที่มีอายุ 1 ปี ควรจะมีอายุเหลืออย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 8 เดือน เมื่อไปถึงปลายทาง
โฆษณา