24 ธ.ค. 2021 เวลา 00:30 • คริปโทเคอร์เรนซี
การทำงานของแพลตฟอร์ม DeFi นั้นเป็นอย่างไร
มาหาคำตอบแบบง่ายๆได้ที่นี่
Liquidity Pool, Liquidity Provider, Smart Contract และ AMM สิ่งสำคัญที่ขับเคลื่อนอยู่เบื้องหลัง
🎯 Liquidity Pool คืออะไร?
Liquidity Pool คือ กองสภาพคล่อง ที่เป็นเหมือนกองกลางของระบบ ซึ่งในนี้ก็จะมีสินทรัพย์จากทุกคนรวมกันอยู่ภายใน โดยในที่นี้ก็คือคริปโทเคอร์เรนซีนั่นเอง
หากมองให้ง่ายกว่านั้น ก็เหมือนกองทุน ที่มีเงินของทุกๆคนรวมกัน แล้วเวลาจะเกิดการใช้จ่ายอะไรก็มาหยิบหรือใส่ในกองนี้
สำหรับ Liquidity Pool นั้น ก็คือสภาพคล่องของแพลตฟอร์ม DeFi ที่ไม่มีศูนย์กลางดั่งชื่อของมัน มีแต่สภาพคล่องที่เก็บทรัพย์สินไว้ และ Smart Contract ที่เป็นตัวดำเนินการทำธุรกรรมต่างๆ โดยจะมีการจัดการแบบอัตโนมัติ เรียกว่า Automated Market Maker (AMM)
หากยังไม่รู้จัก DeFi สามารถอ่านได้ที่นี่ 👇
หากยังไม่รู้จัก Smart Contract สามารถอ่านได้ที่นี่ 👇
🎯 Liquidity Provider ผู้เพิ่มสภาพคล่อง
Liquidity Provider คือผู้คนที่นำสินทรัพย์เข้ามาฝากไว้ใน Liquidity Pool โดยแรงจูงใจที่ให้คนเข้ามาฝากก็คือ การได้รับผลตอบแทนจากค่าธรรมเนียมที่ผู้ใช้งานแพลตฟอร์มทำธุรกรรม ซึ่งสิ่งนี้ก็คือการทำ “Yield Farming” ที่เราได้ยินกันนั่นเอง
🎯 AMM คืออะไร? (แบบสั้นๆ)
Automated Market Maker (AMM) คือ ระบบอัตโนมัติที่เข้ามาช่วยในการคำนวณและดูแลการแลกเปลี่ยนสินทรัพย์แทนตัวกลางหรือผู้ดูแลสภาพคล่อง (Market Maker) ในแพลตฟอร์ม DeFi
ก่อนอื่นมารู้จัก Market Maker กันสักนิด โดย Market Maker นั้นจะเป็นผู้ที่ดูแลสภาพคล่องให้กับตลาด เช่น เวลาเราซื้อขายหุ้น ก็จะมีการส่งคำสั่งออกไป และหากราคาแมตช์กันเราก็จะได้ตามคำสั่งที่ส่งไป ซึ่งจังหวะที่รอราคาแมตซ์ก็จะมี Market Maker คอยปล่อยคำสั่งซื้อขายให้นักลงทุนรายย่อยได้ราคาที่แมตซ์กับคำสั่ง เพื่อให้เกิดสภาพคล่องได้อย่างราบรื่น
คราวนี้กลับมาที่ AMM ซึ่งไอ้เจ้า AMM เนี่ยมันก็เป็นของแพลตฟอร์ม DeFi หมายความว่ามามันมาแทนที่ Market Maker ที่เป็นศูนย์กลาง โดยจะคำนวณสัดส่วนเหรียญภายใน ซึ่งมีสมการในการคำนวณที่อาจแตกต่างกันไปตามแพลตฟอร์ม แต่พื้นฐานแล้วจะเป็น X*Y=K
*หากดูรูปประกอบอาจเข้าใจง่ายขึ้น
ตัวอย่างเช่น เรามี Pool ที่มีคู่เหรียญ ETH-BNB โดยภายในมีมูลค่ารวมทั้งหมด 200$ โดยแบ่งเป็น ETH 100$ และ BNB 100$ ที่นี้จำนวนเหรียญจะมีตามราคาเหรียญ
หากเป็นการฝากคู่เหรียญครั้งแรก จะดูจากราคาตลาดล่าสุด เช่น
1 ETH = 10$, 1BNB = 5$ จะได้ว่า มีเหรียญ ETH 10 เหรียญ และ BNB 20 เหรียญ ใน Pool
หลังจากนั้น หากมีคนต้องการแลกเปลี่ยนเหรียญ เช่น แลก BNB ด้วย 1 ETH หมายความว่า จะมี ETH 1 เหรียญถูกเติมเข้าไปใน Pool และจะมี BNB ออกจาก Pool ไปยังผู้แลกเปลี่ยน
จุดนี้จะเกิดกระบวนการ AMM ที่จะทำให้สภาพคล่องสมดุลกัน จากสูตร X*Y=K
X = ETH, Y = BNB และ K = ค่าคงที่ โดยมูลค่าทั้งหมดใน Pool ตอนนี้จะได้ 100*100 = 10,000
โดย 1 ETH ที่เข้ามาเมื่อรวมกับ ETH ใน Pool ทั้งหมดแล้ว (10+1 = 11เหรียญ) ดังนั้น ใน Pool จะมี ETH เท่ากับ 110$
ส่วน BNB ที่จะออกจาก Pool ไป จะถูกคำนวณได้ดังนี้
มูลค่ารวมล่าสุดของ ETH x มูลค่ารวมล่าสุดของ BNB = 10,000
110 x (จำนวนเหรียญ BNB ใหม่ x 5) = 10,000
จำนวนเหรียญ BNB ใหม่ x 550 = 10,000
จำนวนเหรียญ BNB ใหม่ = 10,000/550
จำนวนเหรียญ BNB ใหม่ = 18.18
สรุปแล้วผู้ที่แลกเปลี่ยน จะได้รับเหรียญ BNB จำนวน (20-18.18) = 1.82 เหรียญ
หลังจากนั้น Pool จะต้องปรับให้ราคาเหรียญสัมพันธ์กับมูลค่าของเหรียญนั้นๆใน Pool ที่มีอยู่ ซึ่งก็คือ ETH = 100$ และ BNB = 100$
แปลว่า 1 ETH จะเท่ากับ (100/11) = 9.09$ และ 1 BNB จะเท่ากับ (100/18.18) = 5.5$
หากสรุปแบบง่ายๆ
📈 หากเหรียญไหนถูกเติมเข้ามาใน Liquidity pool มากๆ จะยิ่งทำให้ราคาของเหรียญสกุลนั้นถูกลง
📉 หากเหรียญไหนถูกแลกออกไปมากแสดงว่าเป็นที่ต้องการมากขึ้น ราคาก็จะแพงขึ้น
การลงทุนในแพลตฟอร์ม DeFi นั้นจำเป็นต้องตรวจสอบ Smart Contract และข้อมูลแพลตฟอร์มให้รอบครอบ เนื่องจากบางแพลตฟอร์มอาจไม่ปลอดภัยหรือมีการหลอกลวง ทำให้นักลงทุนเกิดความเสียหายได้
โฆษณา