8 ม.ค. 2022 เวลา 23:00 • ธุรกิจ
เทรนด์สินค้าอาหารที่จะมาแรงในปี 2565 ในแคนาดา
คงไม่มีใครจะปฎิเสธได้ว่า วิกฤต Covid-19 ได้เปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภคไปอย่างสิ้นเชิง ส่งผลให้ผู้บริโภคส่วนใหญ่ให้หันมาสนใจกับอาหารและสุขภาพมากขึ้น โดยทุกวันนี้อาหารเสริมไวตามิน ประเภทต่างๆ ที่ได้รับความนิยม เริ่มตั้งแต่เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน (Immnue System) ลดความเครียดและ ปรับสภาพจิตใจทางอารมณ์ (Stress Resilience and metal well-being) ยังคงเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมต่อเนื่องไปในปี 2565 นอกจากนี้ สินค้าที่รักษาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน (Environmetal Sustaintability) ตามกระแส Climate Chage ที่ได้กลายเป็นสินค้าที่ผู้ผลิต/ ผู้บริโภคได้หันมาสนใจมากขึ้น อย่างไรก็ตาม เทรนด์สินค้าอาหารที่น่าจับตาในปี 2565 แบ่งออก 4 เทรนด์ที่สำคัญสรุปได้ดังนี้
1) Plant-Based Power ผู้บริโภคได้ให้ความสนใจกับสินค้าโปรตีนจากพืชตั้งแต่ช่วงก่อน Covid-19 ซึ่งเทรนด์ดังกล่าวยังคงมาแรงในปีนี้ ที่ปัจจัยสนับสนุนจากกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า Flexitarian (เป็นกลุ่มที่ทานมังสวิรัตเป็นหลักแต่ก็มีการบริโภคโปรตีนจากเนื้อสัตว์เป็นครั้งเป็นคราว) หรือเรียกว่าเป็นกลุ่มมังสวิรัติที่ไม่ได้เคร่งครัด โดยทุกวันนี้มีประชากรกว่า 65% ที่เริ่มหันมาบริโภค Plant-Based และ 22% ของประชากรที่ยอมรับว่ามีการบริโภคสินค้า Plant-Based เป็นประจำทุกวัน เหตุผลหลักที่คนกลุ่มนี้หันมาบริโภคโปรตีนทางเลือก เนื่องจากมองว่าเป็นสินค้าสุขภาพ และมาจากเรื่องของ “ความเชื่อ” ที่มองว่าสารอาหารโปรตีนจากพืชนั้นมีคุณภาพที่ดีกว่าจากเนื้อสัตว์ รวมถึงผู้บริโภคมองว่าสินค้าโปรตีนทางเลือกนั้นดีต่อสิ่งแวดล้อม การปลูกพืชใช้ทรัพยากรของโลกน้อยกว่าการเลี้ยงปศุสัตว์ เป็นต้น
เทรนด์สินค้าในกลุ่มนี้ ได้กว้างไปกว่าเนื้อสัตว์ที่ส่วนใหญ่เป็นเนื้อแฮมเบอเกอร์ เนื้อไก่เทียม จะมีสินค้าของทานเล่น (Snack) ของหวาน (Dessert) รวมถึงอาหารที่ใช้การอบ (Bake Goods) ที่ใช้วัตถุดิบจากโปรตีนจากพืชมากขึ้น ทั้งนี้วัตถุดิบอาหารที่น่าจับตาอีกชนิดในปีนี้ ได้แก่ สาหร่าย (Seaweed, Dulce, Kelp) ซึ่งอาจไม่ใช่สินค้าแปลกใหม่สำหรับคนชาวเอเซีย แต่สำหรับผู้บริโภคชาวตะวันตก สินค้าสาหร่ายและคุณสมบัติเด่นทางโภชนาการได้เริ่มเป็นสนใจของผู้บริโภคมากขึ้น
2) ) From Food Waste to Healthy Eats กระแสรักษ์โลก และการห่วงใยสิ่งแวดล้อมได้นำมาสู่แนวคิด การลดใช้ทรัพยากรอาหารที่สิ้นเปลือง (Reduce Food Waste) ทุกวันนี้อาหารกว่า 58% ในแคนาดา ได้ถูกนำมาทิ้งในถังขยะ อาทิ ผัก เนื้อสัตว์ นม ขนมปังที่หมดอายุ หรืออาหารที่ส่วนใหญ่เก็บในตู้เย็นแล้วไม่ได้มาบริโภค ซึ่งสุดท้ายกลายเป็นขยะอาหารที่ถูกนำมาทิ้ง ซึ่งถูกมองว่าเป็นใช้ทรัพยากรอย่างไม่คุ้มค่าแล้ว ในส่วนของสิ่งแวดล้อมแล้วนั้น อาหารขยะที่เน่าเสียได้ก่อให้เกิดก๊าซมีเทนทำให้เกิดสภาพก๊าซเรือนกระจกต่อโลกอีกด้วย (มีโทษ มากกว่าการปล่อยก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์เสียอีก)
แนวคิดของ Upcycle ที่นำมาของเสีย (Waste) หรือผลพลอยได้จากการผลิต (By Product) มาผลิตสินค้าใหม่ๆ ให้เกิดประโยชน์ อาทิ บริษัท Still Good Foods ผู้ผลิตเบียร์ ตั้งอยู่เมืองมอนทรีออล รัฐควิเบค ซึ่งปรกติขั้นตอนผลิตเบียร์จากหมักข้าวบาร์เลย์ ทางบริษัทฯ ได้นำรำข้าวของเหลือจากการหมักข้าว นำมาใช้ต่อเป็นส่วนผสมของอาหารสัตว์ ที่ก่อให้เกิดประโยชน์ใหม่ (Repurpose Value) จากของเหลือที่ในอดีตถูกนำไปทิ้งเป็นขยะ ซึ่งแนวทางดังกล่าวยังเป็นประโยชน์ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอีกทางหนึ่ง
3) A Brainy Approach to Aging นักการตลาดส่วนใหญ่ในปัจจุบันจะมุ่งเจาะตลาดคนหนุ่มสาวคนรุ่นใหม่ (กลุ่ม Millenials) เป็นหลัก แต่อีกกลุ่มที่น่าสนใจไม่น้อยกว่ากันเลย ได้แก่กลุ่ม Baby Boomer (อายุ 60 ปีขึ้นไป) ที่เริ่มเข้าสู่วัยเกษียณ โดยกลุ่มผู้สูงอายุนี้มีกำลังซื้อ การจับจ่ายที่สูง ยินดีจับจ่ายกับสินค้าเพื่อสุขภาพในสัดส่วนของรายได้ที่สูง มองหาสินค้าที่เน้นบำรุงทั้งทางร่างกาย (สารอาหาร) และสภาพจิตใจ (ปรับมู้ด อารมณ์) อาทิ ช่วยเหลือการหลับนอน รวมถึงเรื่องการบำรุงสมอง (Brain Food) ช่วยเหลือเรื่องโสตประสาทการทรงจำ (Cognitive) ต่างๆ โดยอาหารในกลุ่มนี้จะมาจากวัตถุดิบผลไม้กลุ่มเบอร์รี่ ผักโขม ถั่วธัญพืชและปลา ซึ่งคาดว่าจะมาแรงในปี 2565 ผู้บริโภคจะให้ความสำคัญกับการส่งเสริมสุขภาพของสมอง (Brain Health) มากขึ้น ที่อาจขยายตลาดไปสู่กลุ่มอายุอื่นๆ ที่อาจกว้างไปกว่ากลุ่มผู้สูงอายุ
4) Drink up, Sober-Style กลุ่มนักดื่ม (แอลกอฮอล์) ในช่วง Covid-19 ที่ผ่านมา ได้มีการปรับเปลี่ยนทัศนคติเกี่ยวกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยมองหาเครื่องดื่มที่ดีต่อสุขภาพ เครื่องดื่มมีส่วนผสมแอลกอฮอล์ต่ำ หรือปราศจากแอลกอฮอล์ (Low or Non Alcoholic Beverage) มากขึ้น โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่สนใจและ ห่วงใยสุขภาพมากขึ้น (กว่าแต่ก่อน) มองหาทางเลือกของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อื่นๆ ที่รวมถึงเครื่องดื่มที่มีแคลอรี่ต่ำ ปริมาณน้ำตาลต่ำ หรือแพ็กเก็จกิ้งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งทุกวันนี้ได้มีสินค้าอาทิ Alcohol-Free Wine, Beer หรือ Spirits เริ่มวางจำหน่ายแล้วในแคนาดา
กระแสสินค้าอาหารที่จะมาแรงในปี 2565 ในแคนาดา ยังคงเป็นสินค้าที่เน้นเรื่อง “สุขภาพ” และ “สินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม” กระแสรักษ์โลกต่อสู้กับปัญหา Climate Change สินค้าเพื่อความยั่งยืนต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม ซึ่งปัจจัยดังกล่าวได้กลายเป็นปัจจัยหลักที่สำคัญของการพัฒนาสินค้าอาหารในโลกหลังยุค Post Pandemic ที่ผู้ผลิตไทยควรให้ความสำคัญมากขึ้นในมิติ BCG Model (Bioeconomy, Circular Economy, Green Economy)
ซึ่งในมุมมองของด้านการตลาดจะต้องมีการพัฒนาเรื่องราว (Story Telling) ของสินค้ามากขึ้น สามารถจับต้องได้สร้างการรับรู้ อาทิ เผยแพร่ข้อมูลความโปร่งใสขั้นตอนการผลิตตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ สร้างความรู้สึกการมีส่วนร่วมประโยชน์ของสินค้ากับสังคม สิ่งแวดล้อม ที่นอกเหนือไปจาก (คุณประโยชน์) ของตัวสินค้า เป็นการสร้างจุดเด่น (Uniqueness) สินค้าไทยในยุคต่อไป ที่อาจประยุกต์ใช้แพลทฟอร์มของโซเซียลมีเดียช่องทางต่างๆ Facebook, Instagram, TikTok, YouTube ในการเผยแพร่ข้อมูลเรื่องราวประวัติความเป็นมาของสินค้าและ ข้อมูลผลกระทบเชิงบวกในการพัฒนาความยั่งยืนในด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม ที่จะเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันของสินค้าไทยในระยะยาว
โฆษณา