9 ม.ค. 2022 เวลา 16:45 • ไลฟ์สไตล์
🔥เมื่อผู้ใหญ่ไม่น่ารัก
1
เคยแอบคิดไปว่าเมื่อคราวที่เป็นเด็ก คงมีผู้ใหญ่บางคนคงแอบเก็บกดแน่เลย เพราะพอมีอายุขยับเข้าวัยอาวุโส เป็นต้องแปลงร่างจากคนน่ารักๆ อยู่ดีๆ กลายเป็น ตาแก่ ยายแก่เจ้าอารมณ์ ขี้เหวี่ยงขี้วีนกันเสียเยอะ ทำไมถึงเป็นแบบนั้นกันนะ นึกแล้วก็ยังสงสัย
สมัยก่อนระบบอาวุโส แบบเจ้าขุนมูลนายมันยังมีอยู่ก็พอเข้าใจ แต่สมัยนี้ทุกคนมีสิทธิมีเสียงเป็นประชาชนคนกินข้าวแกงเหมือนๆ กัน ทำงานหาเงินเลี้ยงปากเลี้ยงท้องเหมือนๆ กัน คนก็รีบไปรีบมาเหมือนๆ กัน ทุกคนก็ควรเคารพซึ่งกันและกัน ถูกต้องไหมละ
แต่ก็มีอย่างหนึ่งที่ต่างก็พอมีอยู่ ก็ตรงอายุนี่ละ แน่นอนว่าเราเป็นเด็กก็พร้อมจะมีสัมมาคารวะต่อผู้หลักผู้ใหญ่ละนะ โดยมารยาทสังคมแล้ว แต่ก็ต้องให้แน่ใจว่าผู้ใหญ่คนนั้นอยากให้คนรุ่นลูกรุ่นหลานเคารพนับถือด้วยจริงๆ
ไม่ใช่ทำตัวแย่ๆ มารยาทไม่ดีแล้วมาคาดหวังให้คนอื่นดีด้วย อันนี้ก็ลำบากหน่อยละนะ ไม่ใช่ว่าจะเข้าข้างรุ่นเล็กมาว่ารุ่นใหญ่อะไรแบบนี้ ไม่ใช่แบบนั้นเลย
แค่จะบอกว่า คนทุกคนไม่ควรเบียดเบียนหรือเอาเปรียบกัน ควรทำตัวให้เหมาะสมมีมารยาทต่อกัน ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ก็ตาม เพราะอายุไม่ใช่ข้อได้เปรียบในการจะทำอะไรแย่ๆ ก็ได้เสียหน่อย
เอาว่า ผู้ใหญ่แบบไหนที่ผู้น้อยขอบ๊ายบาย หรือพากันส่วยหัว บอกไม่ไหวจะเคลียร์ ขอหลีกให้ไกลเลยจะดีกว่า มาคะ ถ้าอยากรู้จะเล่าให้ฟัง
1. ห้ามคนอื่นอธิบาย อธิบายยังไงก็คือเถียง
3
การทำงานร่วมกันในองค์กรต่างๆ ที่มีคนหลากหลายทั้งเพศและอายุ คุณต้องเข้าใจความต่างของแต่ละคนด้วย ความคิดของคนแต่ละเจนเนอเรชันก็ต่างกันออกไป
อย่างเบบี้บูมเมอร์ เขาอาจจะชอบความประหยัดมัธยัสถ์ ส่วนเด็กรุ่นใหม่เขากลับชอบใช้จ่าย ชอบใช้ข้าวของที่ทันยุคทันสมัย อันนี้ตัวอย่างง่ายๆ ที่แสดงถึงความต่างของคน และแน่นอนในที่ๆ คนมาอยู่รวมกันมันก็ต้องยอมรับความต่างในหลายๆ ส่วนของกันและกันด้วยถึงจะถูกต้อง
1
เด็กรุ่นใหม่ มักคิดอะไร ทำอะไรไว เพราะเขาติดมาจากเทคโนโลยีที่เขาใช้อยู่ทุกวัน ส่วนผู้ใหญ่มักรอให้ถึงเวลาที่เหมาะสม ขอเช็ครายละเอียดก่อน ขอเวลาคิดข้อดีข้อเสีย ซึ่งวัยรุ่นหรือเด็กลงมาหน่อย พวกเขากลับอยากทดลอง อยากรู้ เหมือนว่าใครทำก่อนโอกาสจะสำเร็จก็มีมาก เป็นต้น
3
เพราะฉะนั้นหากคุณเป็นผู้ใหญ่ในที่ทำงาน การพูดคุยสื่อสารกันอย่าเอาอคติใส่ลงไปด้วยเพราะแค่พวกเด็กๆ มีความคิดต่างออกไป อย่าคิดว่าการอธิบายเรื่องต่างๆ คือการเถียง
การพูดคุยเสนอแนะมันเกิดขึ้นได้ในองค์กร เพราะคุณทุกคนต้องการผลลัพธ์ที่ดีที่สุดร่วมกันไม่ใช่หรือ อีกอย่างต้องเข้าใจด้วยว่าการอธิบายกับการเถียงมันต่างกัน ถ้าเป็นการพูดจากระโชกโฮกฮากปราศจากเหตุผลอันนั้น เรียกว่าเถียง
2
แต่ถ้าเป็นการพูดคุยด้วยน้ำเสียงสุภาพปกติด้วยเหตุผล นี่เรียกว่าอธิบาย มันเป็นการปรึกษาหารือเพื่อประโยชน์ของส่วนรวมต่างหากละ
3
2. เป็นผู้ใหญ่ทำได้ทุกอย่าง ไม่มีวันผิด
1
อันนี้เห็นหลายคนทำกันจนเป็นนิสัย ผู้ใหญ่หลายคนอาศัยว่า ไม่มีใครอยากจะมาเถียงคนแก่ ก็ได้ใจแซงคิวเข้าห้องน้ำบ้าง แซงคิวซื้อของบ้าง หรือแม้กระทั่งต่อราคาข้าวของจนแม่ค้าปวดใจ เพราะถือว่าตัวเองแก่เก๋าเกมส์
อย่าเอาอายุของคุณที่ใครๆ ควรจะให้ความเคารพนับถือ มาล้อเล่นกับความรู้สึกแย่ๆ ที่ผู้คนจะพบเห็นจากการกระทำของคุณ มันไม่น่ารักอย่างแรง
อะไรที่คนปกติคิดว่าไม่ดี ไม่ได้หมายความว่า พออายุมากขึ้นแล้ว คุณจะสามารถตีหน้ามึนทำเรื่องพวกนั้นได้ มันไม่เหมาะสม
2
ยิ่งอายุมากเขาก็จะยิ่งคิดว่า ทำไมมีอายุแล้วแท้ๆ กลับยังคิดไม่ได้ นิสัยแบบนี้อายแทนลูกหลาน คิดกันไปโน่นได้เลยนะ จะบอกให้
3. ติดนิสัยจับผิดคนอื่นตลอดเวลา
1
เรื่องนี้นี่ก็ชวนปวดหัว คนประเภทนี้อยู่ที่ไหนก็จ้องจับผิดคนโน้นคนนี้จนติดเป็นนิสัย ถ้าที่ทำงานก็ประมาณว่า คนนี้ทำน้ำหกไว้ไม่เช็ด คนนี้มาสาย คนนั้นชอบแอบอู้อะไรแบบนี้
ถ้าที่บ้านก็ค่าไฟแพงเพราะคนนี้ใช้ไฟเยอะไม่รู้จักประหยัด คนนี้ชอบกลับดึก คนนั้นทำไมไม่ล้างรถ อะไรไม่รู้มากมายไปหมด แต่ตัวเองไม่เห็นเคยว่าอะไรเลย
2
เอาว่า มาเป็นผู้ใหญ่ที่น่ารักดีกว่า ชีวิตเขาก็ปล่อยเขาไปเถอะนะ ใครจะทำอะไรก็ปล่อยเขาไป ชีวิตเขาๆ ก็ต้องเรียนรู้จากข้อผิดพลาดของเขาเองบ้าง
3
เอาเรื่องของเราเองก่อนดีกว่า เวลาคุณไปเที่ยวจ้องจับผิดคนอื่น งานการของคุณ ธุระของคุณเสร็จแล้วหรือ ถ้าว่างก็ฟังพอดแคสต์พัฒนาตัวเองยังจะดีกว่าไหม หรือจะหาหนังสือธรรมะมาอ่าน ก็น่าจะดีกว่านะ สบายใจกว่าเยอะเลย เชื่อเถอะ!
4. เก่งอยู่คนเดียว ดีอยู่คนเดียว
1
แหม่.. อันนี้ก็พูดยาก เคยเห็นเยอะนะ คนประเภท ทำไมไม่ทำแบบนั้น ทำไมไม่ทำแบบนี้ ฉันเคยทำมาอย่างนี้ต้องทำแบบนี้ถึงจะดีอะไรแนวๆ นี้ เครียดแทนคนฟังเลยทีเดียว
รู้ว่าเก่ง แต่ว่างานของใครก็ปล่อยเขาทำไปก่อน รอเป็นกุนซือเท่ห์ๆ ดีกว่า รุ่นน้องอยากได้ความรู้เดี๋ยวเขาก็มาถามเอง ใครมั่งชอบให้คนอื่นมาสั่ง นั่งสวยๆ รอเป็นที่ปรึกษาเถอะนะ
3
เพราะยังไงเด็กๆ เขาก็ไม่อยากทำงานผิดพลาดหรอกเขาก็อยากให้แน่ใจว่างานจะออกมาดี ถ้ามีอะไรที่ช่วยให้งานดีเขาก็ต้องอยากทำ ยิ่งรู้ว่าคุณมีประสบการณ์เรื่องๆ นั้นอยู่ เขาก็จะมาถามเองนั่นละ
1
5. พูดคำด่าคำ ไม่พอใจก็ด่ากราด
1
อันนี้สุดคลาสสิคจริงๆ มันเป็นยังไงก็ไม่รู้นะ พอใครทำอะไรไม่ได้ดังใจ มีปัญหาอะไร เป็นด่ากราดเอาไว้ก่อน ด่าชนิดสารพัดตัวอะไรต่อมิอะไร เดินเต็มพื้นกันไปหมด
อยากจะบอกว่า หยุดได้หยุดเลย มันเสียบรรยากาศการทำงานมากๆ อย่างแรก พอมีเรื่องขึ้นมาก็ต้องมานั่งเสียเวลาปรับอารมณ์กันก่อนกลับมาทำงานต่อ มันเสียเวลารู้ไหม อีกอย่างถ้าต้องมาทำงานกับคนที่พูดจาแย่ๆตลอดเวลา มันเสียความรู้สึกมากจริงๆ
ต่อให้เก่งระดับปรมาจารย์ก็เถอะ พูดจาไม่ดีแบบนี้ระวังนะ จะตกงานเอาดื้อๆ บัตรสนเท่ห์น่ะเคยได้ยินไหม เดี๋ยวนี้สมัยใหม่เขามีระบบประเมินเยอะแยะไปหมด ระวังการพูดจาและเรื่องมารยาทไว้บ้างก็ดี เป็นห่วงน่ะ
1
🦍และนี่ละ สิ่งที่คุณอาจเผลอไผลไปแบบไม่รู้ตัวเมื่อมีวัยที่เพิ่มขึ้น จนอาจกลายเป็นผู้ใหญ่ที่ไม่น่านับถือได้
ยังไงคนมันอยู่ร่วมกันในสังคม ก็พยายามใจเย็นๆ หายใจลึกๆ มองข้ามบางเรื่องได้ก็ปล่อยไปบ้างเถอะ
1
ไม่ใช่เพื่อใครที่ไหน ก็เพื่อความสบายใจของตัวคุณเองนั่นละ ไม่มีใครจะถูกใจใครไปได้ทุกเรื่องหรอกนะ
🦙 ชอบก็กดไลค์ ใช่ก็กดแชร์
ถ้าจะให้รู้ว่าแคร์ ก็คอมเม้นท์มานะคะ
• ติดตามและรับฟังผ่านแอป blockdit
• ติดตามและรับฟังผ่านช่องยูทูป
โฆษณา