・ชีวิตนี้มีคนที่ชื่นชมคุณ มีคนที่เกลียดคุณ มีคนที่อิจฉาคุณ มีคนที่ดูถูกคุณ มีสารพัดรูปแบบของคนบนโลกใบนี้ แต่ถ้าคิดว่าทำดีแล้วก็อย่าได้แคร์ เพราะเขาเหล่านั้นเป็นคนอื่น จะติหรือชมก็แค่เรื่องของเขา ส่วนเรื่องของเราๆ รู้ตัวเราเองดี
ชีวิตคนเราก็เป็นเช่นนี้ เป็นไปไม่ได้ว่าสิ่งที่คุณทำจะถูกใจใครๆ ไปเสียหมด อย่าเป็นสิ่งใดเพราะต้องแสร้งเอาใจใครคนใดคนหนึ่ง เมื่อนั้นคนที่เหนื่อยและลำบากจะเป็นคุณคนเดียว
สุดท้ายแล้ว คุณอาจต้องสูญเสียความเป็นตัวของตัวเอง ไม่รู้ว่าสิ่งไหนดีหรือไม่ดีที่แท้จริง อาจเข้าใจไปว่าคนอื่นเขาทำกัน เชื่อว่าค่านิยมเป็นเรื่องดีทั้งที่จริงมันอาจไม่ใช่ก็ได้ เพราะต่างคนต่างก็มีจุดยืน ต่างมีทัศนคติที่ต่างกันเป็นธรรมดา
คนเหมือนกัน แต่ก็ใช้ชีวิตไม่เหมือนกัน แล้วต้องใช้ชีวิตยังไงที่เราจะสบายใจ ไม่ต้องแคร์คำคน ใช้ชีวิตแบบไหนที่เราจะไปได้ดี มีจุดยืนในสังคมและก็ไม่เบียดเบียนตัวเองในเวลาเดียวกันด้วย แล้วมันคืออะไร เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังค่ะ
1. เลือกอยู่ที่ๆ รู้คุณค่าของคุณ
สังคมทุกวันนี้มีความซับซ้อนวุ่นวายกว่าเมื่อก่อน การทำงานก็มีความกว้างมีสเกลงานที่เปลี่ยนไป คนที่เก่งในอดีตอาจจะกลายเป็นคนไร้ความสามารถในสายตาคนอื่นในโลกเทคโนโลยีแบบปัจจุบันไปได้
ถ้าคุณมีความรู้ที่เหมาะกับบางเรื่อง บางเวลา ต้องหาจุดยืนที่ดีที่จะสร้างคุณค่าให้กับตัวเอง เพราะถึงมีคุณภาพเพียงใด ก็ต้องอยู่กับคนรู้คุณค่า อยู่กับที่ๆ ให้ค่าคุณด้วย ไม่ถนัดเทคโนโลยี แต่มีประสบการณ์ ลองใช่ส่วนนี้ทำสิ่งที่สร้างคุณค่าให้คุณดู
ในเมื่อเป็นอย่างหนึ่งไม่ได้ ก็เปลี่ยนไปทำอย่างอื่นได้ อย่างเช่น เป็นคนเล่าเรื่องในยูทูปหรือเขียนหนังสืออีบุ๊คก็ไม่ยากอะไร เรื่องพวกนี้หาคนมาช่วยทางเทคนิคเอาก็ได้ ในเมื่อคุณมีแหล่งข้อมูลมหาศาลที่ตัวเองอยู่แล้วจะไปกลัวอะไร
ต้องเลือกสร้างตัวตนให้ตัวเอง ต้องเอาที่เราสบายใจ และได้เงินตามความสามารถเราเองได้ เหมือนคำว่า ทุ่มเทเพียงใด ก็ต้องให้กับคนที่รู้สึกนึกคุณ ถึงจะได้ผลดีที่สุด
2. อย่าปล่อยใจให้เชื่อทุกอย่างเห็น ที่รู้
เมื่อคุณมีอายุมากขึ้น ขยับจากวัยรุ่น มาเป็นวัยทำงาน อย่างหนึ่งที่คุณต้องทำความเข้าใจในระดับสูงสุดคือ สิ่งที่คุณเห็นอย่าเชื่อว่าเป็นจริงทั้งหมด ไม่มีอะไรที่เป็นเรื่องจริงได้ 100%
ทุกเรื่องมีปัจจัยประกอบเสมอ อย่างเช่น เจ้านายอาจดุด่าว่ากล่าวคนบางคนมากกว่าคนอื่น คุณอาจคิดว่ามันมากไปไม่แฟร์
จริงๆ มันอาจเพราะคนๆ นี้มีความสามารถสูงแต่มีแค่เจ้านายคุณที่สังเกตุเห็น เขาถึงพร่ำสอนเคี่ยวเข็ญคนๆ นี้มากกว่าคนอื่น เพื่อตัวของคนๆ นั้นเองนั่นเอง
จริงๆ อาจเป็นคุณต่างหากที่เจ้านายไม่สนใจเพราะไม่เอาใจใส่งาน มัวแต่ไปวุ่นวายเรื่องคนอื่นอยู่ เป็นต้น
ลองมองทุกเรื่องด้วยใจเป็นกลางเปิดที่ว่างในใจเผื่อเอาไว้บ้าง จะรักใคร จะชอบใคร จะเกลียดใคร ก็เผื่อใจเอาไว้บ้างเผื่อเหตุผลที่คุณยังไม่รู้
เพราะคงมีแต่เด็กเล็กๆ เท่านั้นที่จะมองอะไรมุมเดียวแบบที่เห็น เป็นผู้ใหญ่ต้องมองด้วยตาและสมองในเวลาเดียวกันถึงจะดีที่สุด
3. ความจริงใจไม่ได้ใช้ได้กับทุกคน
ความคิดเป็นสิ่งที่ควบคุมยาก สิ่งหนึ่งที่เรามักติดคิดเสมอคือ หากเราดีกับใคร คนๆ นั้นต้องดีตอบกลับมา แต่ในความเป็นจริงแล้วไม่ใช่ทุกคนที่เป็นแบบนั้น คนไม่ชอบทำยังไงเขาก็จะไม่ชอบ คนมีอคติต่อให้เราดี จริงใจแค่ไหนเขาก็จะคิดว่าเราไม่ดีอยู่ดี
จริงใจเพียงใด ก็ต้องให้ถูกคนอย่าไปเสียใจถ้าผลที่ได้ไม่ดีอย่างที่หวัง การที่เราจริงใจกับคนอื่น เราได้ผลแล้วก็คือ ความสบายใจ
การที่เราไม่พูดจาบิดเบือน พูดจริง เราเองคือ คนที่สบายใจไม่ต้องมาจำเรื่องโกหกรอบหน้าอาจจะจำได้ไม่เหมือนเดิม ไม่ต้องเหนื่อย
ไม่ต้องคาดหวังใครจะดีตอบ แค่ทำสิ่งที่เรามั่นใจว่าดี ว่าควรแค่นั้น ผลจะเป็นอย่างไร ก็ปล่อยมัน
มันเป็นหน้าที่ของอย่างอื่น นอกเหนือพลังเราไปแล้ว จำแค่ว่าสร้างกรรมดีเป็นหน้าที่ของเราที่เหลือปล่อยผลมันไป
4. ใช้ความสุภาพสร้างกรอบป้องกันตัวยามจำเป็น
คนที่มีนิสัยพาลมักชอบมองคนอื่นอ่อนแอ คนที่ที่อ่อนน้อมมีมารยาทมักถูกเอาเปรียบได้ง่าย เราจึงควรเลือกทำให้ถูกที่ ถูกทาง ถูกเวลากับคนที่เหมาะสมด้วยถึงจะถูก
จงเลือกเอาความสุภาพมาเป็นเกราะป้องกันตัวในเวลาที่ควรและก็เลือกใช้ความดุดันในเวลาที่เหมาะสม อย่าเอาความอ่อนโยนไปใช้กับคนหยาบคาบมันไม่ต่างกับเอาไข่ไปปาใส่กระเบื้อง
ในเมื่อคุณมีอาวุธหลายอย่างในมือ ก็ต้องเลือกใช้ให้ถูกที่ถูกเวลาและถูกคนด้วย เพราะคนบางคนเขามีมุมมองแคบเพราะประสบการณ์ที่มีน้อยเข้าใจแต่มุมที่ตัวเองเห็น จึงเป็นการยากที่จะต้องอยู่ด้วย
เพราะหากเขาไม่เคยเดินออกไปเผชิญโลกกว้าง เขาก็คิดว่าโลกมันกว้างเท่าที่เขาเห็น เราก็ต้องเลือกอาวุธที่เหมาะสมกับเขาถึงจะถูกต้อง
5. อย่าพูดทุกสิ่งที่รู้
อย่างที่ทราบกันการสื่อสารเป็นเรื่องสำคัญการเจรจาที่ถูกต้อง ที่เหมาะสมสามารถนำความสำเร็จมาให้คุณได้อย่างมากมายมหาศาล ดูอย่างประธานาธิบดีของประเทศที่ยิ่งใหญ่ทั้งหลาย วาทะศิลป์ในการเจรจาของเขาสร้างอิมแพ็คมากมาย ทำให้โลกสั่นสะเทือนมานักต่อนักแล้ว
แต่ตรงข้ามกันปากที่คุณใช้สื่อสาร ก็อาจสร้างวาระกรรมที่คุณไม่อาจคาดคิดขึ้นได้ หลายคนกลายเป็นคนดังในชั่วข้ามคืน ด้วยคำพูดไม่กี่ประโยค อย่าพูดทุกสิ่งด้วยความสนุกปากมันอาจสร้างผลเสียให้คุณมากกว่าที่คุณวาดไว้ อาจกลายเป็นคนหิวแสงแบบไม่ตั้งใจได้
และที่สำคัญไปอีก สิ่งที่คุณรู้อย่าพูดจนหมดเปลือก เพราะคุณไม่รู้ว่าจะส่งผลกระทบอะไรกับตัวคุณเอง หรือแม้แต่กับผู้อื่น จะพูดอะไรก็เอาแค่พอดี
และยิ่งหากไม่รู้จริงและยิ่งเป็นเรื่องของคนอื่น เลือกดูสถานการณ์ เลือกดูโอกาสให้ดี ควรพูดมากน้อยแค่ไหน หรือจริงๆ ไม่พูดเลยจะดีกว่า เดี๋ยวปากจะกลายเป็น "ปากพาจน" เอาได้ จะซวยเอาเปล่าๆ
และนี่ละ เรื่องถ้าทำดีอยู่แล้วก็อย่าได้แคร์ใครให้เปลืองเวลา เจ้ากรรมนายกรรมไม่มีหรอกมีแต่คนนี่ละที่ผูกใจเจ็บต่อกันเอง ทำร้ายกันทั้งซึ่งหน้าและลับหลัง
จะทำอะไรก็ดูทิศทางลมด้วย คนจิตใจคับแคบที่นิยมคิดลบแต่พร้อมบวกมีเยอะ พูดให้ถูกกาล ทำให้ถูกจุด ถ้ามีอะไรให้สะดุดก็หยุดดูหน้าดูหลังหน่อยก็ดี เป็นกำลังใจให้คนดีสู้ต่อยาวๆ ไปค่ะ^^
🔴 ฟังแบบเสียงอ่าน
🦙 ชอบก็กดไลค์ ใช่ก็กดแชร์
ถ้าจะให้รู้ว่าแคร์ ก็คอมเม้นท์มานะคะ
• ติดตามและรับฟังผ่านแอป blockdit
• ติดตามและรับฟังผ่านช่องยูทูป
เพิ่มเติม:
ปากพาจน คือ พูดจนทำให้ตัวเองเดือดร้อนภายหลัง (ที่มา google)
แหล่งข้อมูลอ้างอิง
นุสนธิ์บุคส์
- 48
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
