22 ม.ค. 2022 เวลา 04:13 • ไลฟ์สไตล์
คุณคิดว่าฟังเพลงแนวไหนขณะขับรถ มีโอกาสเกิดอันตรายจากอุบัติเหตุได้สูงที่สุด❓
การฟังเพลงขณะขับรถถือเป็นพฤติกรรมที่คนขับรถชื่นชอบกันเป็นส่วนใหญ่ เพราะด้วยปัญหาการจราจรติดขัดหรือแม้แต่การที่ต้องขับรถเป็นระยะทางไกล ๆ หลายคนจึงเลือกเปิดเพลงเพื่อหวังว่าจะช่วยคลายเครียดและแก้ง่วงไปในตัว
แต่แนวเพลงที่ฟังกันบนรถไม่ว่าจะฟังผ่านเครื่องเสียงรถยนต์หรือเปิดฟังจากสมาร์ทโฟน ก็มีอยู่ด้วยกันหลากหลายแนว
แต่เชื่อเหลือเกินว่าคงไม่มีใครทราบว่า แต่ละแนวเพลงนั้นมีผลต่อความปลอดภัยในการขับขี่?😬
2
จากผลการศึกษาร่วมกันระหว่าง เว็บไซด์ของภาคเอกชนที่ชื่อว่า Uswitch กับ CX Lab หน่วยงานให้คำปรึกษาด้านพฤติกรรมศาสตร์ของประเทศอังกฤษเกี่ยวกับพฤติกรรมการตอบสนองต่อการขับขี่ของผู้ที่ฟังเพลงแนวต่าง ๆ ขณะขับรถ
โดยการสำรวจผ่านผู้ที่มีประสบการณ์การขับรถมาไม่น้อยกว่า 10 ปี ทั้งชายและหญิงรวม 100 คน แต่ละคนใช้รถอยู่เป็นประจำไม่น้อยกว่า 4 ครั้งต่อสัปดาห์ ขับขี่ที่ความเร็วเฉลี่ยใกล้เคียงกันคือ 70 ไมล์ต่อชั่วโมง
เมื่อแบ่งผู้สำรวจออกเป็น 6 กลุ่มจาก 6 แนวเพลงพบว่า กลุ่มนักขับที่ตอบสนองต่อระยะเบรคที่ปลอดภัยได้ต่ำที่สุดคือกลุ่มนักขับที่ฟังเพลงแนว R&B 😬
โดยนักขับกลุ่มนี้ทำระยะเบรคเกินระยะปลอดภัยไปถึง 4.24 เมตร
ซึ่งหากเป็นสถานการณ์จริงคือเกิดอุบัติเหตุค่อนข้างแน่นอน
ส่วนกลุ่มนักขับที่ทำระยะเบรคก่อนชนได้ดีที่สุดคือ กลุ่มนักขับที่ฟังเพลงแร๊ปขณะขับรถ
พวกเขาสามารถทำระยะเบรคก่อนพ้นระยะปลอดภัยได้ไกลถึง 15.49 เมตรเลยทีเดียว
ผลสำรวจแนวเพลงที่มีผลต่อความปลอดภัยในการขับขี่ โดยวัดจากระยะเบรคที่ปลอดภัย จากทั้ง 6 แนวเพลงได้ผลดังต่อไปนี้
  • 1.
    แนวเพลง R&B ทำระยะเบรคเกินระยะปลอดภัย 4.24 เมตร
  • 2.
    แนวเพลงแจ๊ส ทำระยะเบรคก่อนพ้นระยะปลอดภัยได้ 1.29 เมตร
  • 3.
    แนวเพลงคลาสสิค ทำระยะเบรคก่อนพ้นระยะปลอดภัยได้ 2.79 เมตร
  • 4.
    แนวเพลงเฮฟวี่ เมทัล ทำระยะเบรคก่อนพ้นระยะปลอดภัยได้ 3.16 เมตร
  • 5.
    แนวเพลงเทคโนแดนซ์ ทำระยะเบรคก่อนพ้นระยะปลอดภัยได้ 5.15 เมตร
  • 6.
    แนวเพลงแร๊ป ทำระยะเบรคก่อนพ้นระยะปลอดภัยได้สูงถึง 15.49 เมตร
1
นอกจากนี้ทาง Uswitch ยังให้ข้อมูลผลสำรวจเพิ่มเติมอีกว่า นักขับที่ดื่มกาแฟก่อนขับขี่ประมาณ 20 นาที สามารถทำระยะเบรคก่อนพ้นระยะปลอดภัยหรือระยะเบรคก่อนชนได้ไกลถึง 23.92 เมตรเลยทีเดียว
จากผลสำรวจจะพบว่า เพลงที่มีจังหวะสนุก มักสร้างความตื่นตัวในการขับขี่ได้ดีกว่าเพลงช้า ๆ ดนตรีเบา ๆ ซึ่งมีโอกาสที่จะทำให้ผู้ขับขี่เคลิบเคลิ้มจนเผลอหลับในได้ในขณะขับรถ
ติดตามอ่านบทความได้ที่
โฆษณา