23 ม.ค. 2022 เวลา 14:38 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
Drive My Car (2021) - เรื่องราวความเจ็บปวดของคนเสียศูนย์ในชีวิต
สวยงาม และประณีต... เป็นภาพยนตร์ญี่ปุ่นที่ยืนได้อย่างโดดเด่นในเวทีภาพยนตร์โลก
สวัสดีครับทุกๆ ท่าน ! เนื่องจากกำลังจะถึงสิ้นปีแล้ว ผมอยากมาแนะนำหนังที่น่าประทับใจ (ซึ่งบางท่านอาจจะพลาดหรือหลงลืมไป) สำหรับกระทู้นี้ก็อยากจะมารีวิว Drive My Car (2021) ของผู้กำกับ Ryusuke Hamaguchi
ณ เวลานี้ ต้องบอกว่า เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับการเข้าชิงออสการ์ภาพยนตร์ต่างประเทศในปีนี้ เนื่องจากได้เข้าชิงและคว้ารางวัลใหญ่ในหลายเทศกาล
ภาพการประกาศรางวัลบนเว็บไซต์ Golden Globe Awards
รวมถึงตัวหนังยังได้รับรางวัลใหญ่จากเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ (Festival De Canne 2021) ในสาขาบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (Award for Best Screenplay) และยังเข้าชิงปาล์มทองคำ (Palme d'Or) อีกด้วย น่าจับตามองมากเลยทีเดียว !
[ เรื่องย่อ ]
ยูซูเกะ ฮาฟูกุ (ฮิเดโตชิ นิชิจิมะ) นักแสดงและผู้กำกับละครเวทีหนุ่มใหญ่ที่มีชีวิตแต่งงานแสนสุขกับ โอโตะ (เรกะ คิริชิมะ) นักเขียนบทสาว วันหนึ่งโอโตะเสียชีวิตอย่างกะทันหัน ทิ้งไว้เพียงความลับและบาดแผล
สองปีต่อมา ฮาฟูกุยังคงไม่สามารถเยียวยาจิตใจตัวเองจากความสูญเสียได้ จึงตัดสินใจรับข้อเสนอไปกำกับละครเรื่องหนึ่งที่เมืองฮิโรชิมา ที่นั่นเขาได้พบมิซากิ (โทโกะ มิอุระ) หญิงสาวเงียบขรึมผู้ได้รับมอบหมายให้มาเป็นคนขับรถของเขา
ทั้งคู่ซึ่งแตกต่างกันในทุกด้านจำต้องใช้เวลาร่วมกันบนรถสีแดงคันเล็ก โดยหารู้ไม่ว่ามันจะกลายเป็นทั้งสถานที่เผยความลับและเป็นช่วงเวลาที่เปลี่ยนแปลงชีวิตของพวกเขาไปอย่างสิ้นเชิง...
[ ความรู้สึกหลังจากได้ชม ]
ต้องขอบอกว่า Drive My Car เป็นหนังที่ "สวยงาม เนี้ยบ ประณีต" เมื่อเทียบกับหนังญี่ปุ่นที่ดูมาในรอบหลายปี
ปฏิเสธไม่ได้ว่า นี่ไม่ใช่งานที่ง่ายกับการดัดแปลงและตีความงานเขียนของมูราคามิมาเป็นงานภาพยนตร์ (งานเขียนของมูราคามิขึ้นชื่อว่า งานประพันธ์ที่อ่านยากและต้องอาศัยการตีความสูง และมีชื่อเสียงในระดับโลก)
รถแดงที่เป็นหนึ่งในตัวละครสำคัญในเรื่อง
จุดที่ประทับใจที่สุดคงเป็น "ภาษาหนังและเทคนิคการเล่า" โดยเล่าเรื่องตัดสลับไปมาระหว่าง ละครเวที (เส้นเรื่องนามธรรม) กับ เรื่องราวในโลกความเป็นจริง (เส้นเรื่องรูปธรรม) ทั้งสองเส้นเรื่องต่างเดินขนานกันไป มีการผลัดสลับกันให้น้ำหนักไปมา จนท้ายที่สุดทั้งสองเส้นเรื่องก็กลายเนื้อเดียวกัน
ในขณะที่เดินเรื่อง หนังมีการขยี้อารมณ์ และค่อย ๆ คลี่คลายปมสิ่งต่าง ๆ ที่วางไว้ตั้งแต่ต้น เพื่อนำไปสู่บทสรุป ทำให้ภาพรวมหนังดูครีเอทและแพรวพราว
หลายๆ ฉากหรือบางส่วนของเนื้อเรื่องมีการใส่ "ความแฟนตาซีเล็ก ๆ" ลงไป (บนโลกความเป็นจริง) ตามสไตล์งานเขียนของมูราคามิ แล้วแสดงออกมาผ่านเนื้อเรื่อง มุมกล้อง งานภาพ เสียง โลเคชั่น
บรรยากาศของเมืองฮิโรชิม่าอันงดงาม
จากที่ว่ามานี้ ต้องยกเลยว่า นี่เป็นหนังที่เปี่ยมด้วยสุนทรียภาพโดยที่ไม่ได้ดูยากจนเกินไป และไม่แปลกใจว่า ทำไมหนังถึงโดนใจนักวิจารณ์มากมาย สามารถไปคว้ารางวัลในเทศกาลภาพยนตร์หลาย ๆ ที่...
อย่างไรก็ตาม Drive My Car ก็ไม่ใช่หนังดูง่ายแบบปอกกล้วยเข้าปาก หนังมีความอาร์ต มีภาษาที่ประณีต ละเมียดละไม จึงต้องระมัดระวัง และไม่ใจร้อนจนเกินไปในขณะชม
ในส่วนประเด็นหลักของหนัง ดูแล้ว ก็นึกถึงเรื่อง Manchester by the Sea (2016) โดยเฉพาะการพรรณนาเพื่อระบายอารมณ์และการก้าวข้ามความเจ็บปวดจากปมในจิตใจของเหล่าผู้เสียศูนย์ในชีวิต (ถ้าเทียบกันระหว่างสองเรื่องนี้ ผมรู้สึกว่า Drive My Car ทำได้น่าสนใจมากกว่า)
จุดที่อยากชื่นชมอีกอย่างก็เป็นเรื่องงานภาพกับเสียง ทำได้อารมณ์จริง ๆ จนดูจบก็อยากไปเที่ยวฮิโรชิม่าในทันที !
[ สรุป ]
Drive My Car (2021) - ขอยกให้เป็นหนังที่ประทับใจที่สุดในปีนี้ หากมีโอกาสก็เป็นอีกเรื่องที่แนะนำนะครับ โดยเฉพาะใครที่อยากจะสัมผัสกับหนังรสชาติใหม่ ๆ ที่ไม่ได้เดินเรื่องแบบหนัง Blockbuster
ทั้งนี้ Drive My Car ก็ไม่ใช่หนังที่หาดูได้ง่ายเสียทีเดียว หากติดตามในวงการภาพยนตร์ของญี่ปุ่น ส่วนใหญ่ก็มักจะเห็นแต่งานของ Hirokazu Koreeda ที่มักจะไปได้ไกลถึงเวทีใหญ่อย่างออสการ์หรือลูกโลกทองคำมากกว่า (เช่น Shoplifter เรื่องล่าสุดก็ไปเข้าชิงออสการ์ในปี 2019)
นี่จึงเป็นนิมิตหมายที่ดีที่ได้เห็นฝีมือของผู้กำกับญี่ปุ่นคนอื่น ๆ อีกทั้งปีที่แล้ว Parasite ของ Bong Joon-ho ก็สร้างประวัติศาสตร์อย่างยิ่งใหญ่ ดังนั้นก็หวังว่าทางฟากญี่ปุ่นจะสามารถเป็นตัวแทนไปสร้างผลงานให้กับวงการภาพยนตร์เอเชียได้อีกครั้งครับ
[ เพิ่มเติม ]
อัพเดทรางวัลออสการ์ของ Drive My Car
  • 1.
    คว้าออสการ์ได้ 1 รางวัล (ภาพยนตร์ต่างประเทศยอดเยี่ยม)
  • 2.
    เข้าชิงรางวัลใหญ่ถึง 3 รางวัล อย่าง ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ผู้กำกับยอดเยี่ยม และ บทภาพยนตร์ (ดัดแปลง) ยอดเยี่ยม
ป.ล. เนื่องจากในเรื่องมีหลายช็อตเป็น Sex Scene หนังเลยถูกจัดให้เป็นเรต 18+
ป.ล.2 อีกหนึ่งช่องทางการติดต่อทาง Facebook เผื่อสนใจอยากคุยหรือติดต่อกับผมนะครับ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา